วันพฤหัสบดี ที่ 25 เมษายน พ.ศ. 2567 21:34 น.

อาชญากรรม » คอลัมน์

คนจร

ลบเหลี่ยมลูบคม : วันพฤหัสบดี ที่ 10 มกราคม พ.ศ. 2562, 12.15 น.

ถามจริงๆ พร้อมแล้วหรือ???...

 
ช่วงปีใหม่นับเป็นความโชคดีที่ได้มีโอกาสพบเจอเพื่อนพ้องน้องพี่ เหล่าบรรดาตำรวจตัวเล็กๆ ย้ำว่า ..ตำรวจตัวเล็กๆ แวะเวียนมาเยี่ยมเยือน ได้สนทนาวิสาสะ สารพัดสารพันเรื่องราว แต่หัวข้อในการสนทนาที่ออกจะหนักหน่วง ดุเดือด ชวนปวดเศียร ก็คือการจะแก้ไขประมวลวิธีพิจารณาความอาญา ที่ผ่านความเห็นชอบจาก ครม.ส่งให้ สนช.ไปพิจารณา เล่นเอาวงสนทนาแทบจะ ปสด.!!!!
 
สรุปประเด็นสั้นๆ ง่ายๆ ก็คือ ประชาชนแจ้งความร้องทุกข์ที่ใดก็ได้ ทางจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ก็ได้ กำหนดให้ร่วมสอบสวนกับอัยการในบางคดี ให้ส่งสำนวนให้พนักงานอัยการ ไม่น้อยกว่าสิบสองวัน หรือยี่สิบสี่วัน ตามอัตราโทษแต่ละคดี ห้ามนำผู้ต้องหามาแถลงข่าว การสอบสวนตามแต่อัตราโทษต้องอัดวีดีโอไว้ คดีที่มีอัตราโทษเกินสิบปี ต้องให้อัยการร่วมสอบฯ หากมองถึงหลักการในเรื่องราวที่จะแก้ไขก็นับว่าดี ไม่มีใครเถียงดอก หากประเทศเราเต็มไปด้วยทุ่งดอกลาเวนเดอร์ ปัญหาของสิ่งเหล่านี้คือความพร้อม เราพร้อมแล้วหรือไม่??? ประชาชนพร้อมเข้าใจในขั้นตอนของกฎหมายมากพอหรือยัง??? พนักงานสอบสวนมีคนเพียงพอ มีอุปกรณ์ครบถ้วนแล้วหรือไม่??? พนักงานอัยการมีพอสำหรับกฎหมายใหม่แล้วหรือ ทุกวันนี้เห็นพนักงานอัยการวิ่งรอกยิ่งกว่านักร้องวงดัง วิ่งเข้าบัลลังก์นั้นออกบัลลังก์นี้ หอบสำนวนฟ้องแทบจะใส่รถเข็นกันอยุ่แล้ว หากจะต้องแบ่งภาคออกไปร่วมสอบสวนกับตำรวจอีกคงกระอักโลหิตก็ครานี้ แล้วก็แก้ปัญหาแบบเดิมอีกคือให้พนักงานสอบสวนวิ่งไปหา เข้าคิวรอร่วมสอบสวน เจอเข้าไปสิบโรงพัก สิบเรื่องในหนึ่งวันก็มึนหาทางกลับบ้านไม่ถูกแล้ว พนักงานสอบสวนแต่ละโรงพักก็ต้องหอบหิ้วผู้เสียหาย พยาน มารอพบพนักงานอัยการ รถลาม้าช้างมีพร้อมแล้วหรือ??? ค่าอาหาร ค่าน้ำมันรถ ยังไม่เห็นมีใครพูดถึง อย่านึกภาพแค่ สน.สุทธิสาร มา สนง.อัยการรัชดา หรือ สน.หนองจอก มา สนง.อัยการมีนบุรี ให้นึกภาพ สภ.แม่สะเรียง ไปเมืองแม่ฮ่องสอนหรือ สภ.อุ้งผาง มาตัวจังหวัดตาก แล้วจะสะอื้นในอก หลักการหวังให้พนักงานอัยการช่วยคิด ช่วยทำตั้งแต่ต้นแต่เมื่อคนไม่พอก็ต้องเวียนกันมา เมื่อมาหลายๆ คดีสุมเข้ามาก็ลองตรองดูเถิด.. ไหนจะเรื่องอุปกรณ์ถ่ายภาพ ยานพาหนะ ฯลฯ ยังไม่มีการเตรียมความพร้อมเลย คนคิดนั้นคิดได้ ใครก็คิดได้ หากกินให้อิ่ม นอนให้หลับเพียงพอก็คิดออก ขยันคิด ขยันฝัน โดยไม่มองถึงความเป็นจริง แล้วก็ปล่อยให้ผู้ปฎิบัติหาทางหลบ ทางเลี่ยงเอาเองแบบศรีธนชัย เสี่ยงคุก เสี่ยงตะรางเอง หากศาลท่านเมตตาก็หรี่ตาลงข้างหนึ่ง หลังจากนั้นก็สุดแท้แต่เวรแต่กรรมของแต่ละผู้คน.....
 
ก็คงต้องรอดูบรรดาตำรวจใหญ่ทั้งหลายใน สนช.ว่าจะเออออห่อหมก กินเงินเดือนที่เขาประเคนให้ไปวันๆ หรือจะกล้าหาญออกมาร่ายความจริง ไม่ใช่ไม่ให้ทำ แต่เรามีความพร้อมแล้วหรือไม่ หรือหาหนทางแก้ปัญหาให้ได้อย่างเป็นรูปธรรม อย่าฟังตำรวจใหญ่ที่ยังรับราชการ คนที่พูดเป็นแค่ “ได้ครับผม ดีครับท่าน” เพราะดีแต่พูดไม่ได้ทำ.... 
 
                                                                           “คนจร”