** เมื่อวันอังคารที่16 กรกฎาคมที่ผ่านมานี้ “บิ๊กตู่” พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะ คสช. ได้กล่าวอำลาตำแหน่ง คสช. พร้อมทั้งยกเลิกกฎหมายมาตรา 44 ในโอกาสนี้ได้ประกาศยกเลิกรายการเดินหน้าประเทศไทยซึ่งมีทุกวันตอน 18.00 น. พร้อมทั้งยกเลิกนายกฯที่มาพูดนโยบายต่างๆ ในคืนวันศุกร์ตอนประมาณ 20 นาฬิกาเศษๆ

 

 

** หลังจากที่ข่าวนี้ออกมาทำให้ประชาชนคอการเมือง นักวิชาการ รวมถึงสื่อมวลชนหลายคนต่างมีความยินดี และดีใจอย่างยิ่ง เพราะ 5 ปีกว่าที่ผ่านมา ไม่ได้ดูรายการทีวีแบบเต็มเม็ดเต็มหน่วย ต่อจากนี้ไปคงได้รับความสำราญบันเทิงใจ รวมถึงข่าวสารที่เป็นแก่นสารได้อย่างเต็มอิ่ม ถือเป็นนิมิตหมายอันดีงามที่รัฐบาล ประยุทธ์ 2/1 เป็นไปตามระบอบประชาธิปไตยอย่างสมบูรณ์แบบ ประชาชนตาดำๆ รวมถึงผู้ค้าขาย และนักธุรกิจที่จะมาลงทุนเกิดความใจชื้นขึ้นมาบ้าง เพราะเป็นที่รู้กันทั่วโลกว่าอาริยะประเทศทั้งหลายต่างเชื่อถือในระบอบประชาธิปไตย และให้การสนับสนุนเต็มที่ และไม่สนับสนุนระบบเผด็จการอย่างเด็ดขาด!!!

 

 

 

 

 

 

 

** ตอนนี้คงได้รู้แล้วว่า ใครได้มานั่งในตำแหน่งไหนในรัฐบาลประยุทธ์ 2/1 ส่วนทางพรรคฝ่ายค้านก็จ้องจะอภิปรายในสภาเกี่ยวกับรัฐมนตรีหลายคนที่มีตำหนิ ส่วนทางด้าน “บิ๊กตู่” นายกรัฐมนตรี กล่าวว่าไม่หวั่นที่จะโดนพรรคฝ่ายค้านชักฟอกในสภา

 

 

** “ไมโครโฟน” ขอสนับสนุนกับความคิดของ พ.ต.อ. ทวี สอดส่อง เลขาธิการพรรคประชาชาติที่ได้เสนอให้รัฐบาลชุดนี้ประกาศเป็นกฎหมายที่มีโทษหนักกับเกษตรกร ไม่ว่าจะเป็นสวนผัก หรือสวนผลไม้ก็ตามแต่ ห้ามใช้ยาฆ่าแมลง ซึ่งเป็นพิษภัย และอันตรายอย่างใหญ่หลวงกับผู้บริโภคที่กินเข้าไปแล้วจะเกิดโรคมะเร็งได้ เกษตรกรในยุคใหม่ควรใช้วิธีปลูกผักเป็นระบบออร์แกนิค หรือผักกางมุ้ง พร้อมทั้งผลไม้ด้วย ถึงแม้จะมีต้นทุนสูงหน่อยผู้บริโภคก็รับได้ เพื่อความปลอดภัยของสุขภาพ

 

 

** เรื่องของผัก และผลไม้ที่ปลอดสารพิษจากยาฆ่าแมลง เวลานี้ทั่วโลกเขากำลังรณรงค์ไม่ให้ ผักและผลไม้มีสารพิษ เรื่องนี้คงต้องฝากให้ นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ต้องพยายามผลักดันกฎหมายไม่ให้เกษตรฉีดสารพิษฆ่าแมลงกับพืชผลของตนเอง และถ้าเป็นไปได้ให้ออกเป็นกฎหมายห้ามจำหน่ายสารพิษฆ่าแมลงที่มีอยู่ในท้องตลาดทั้งหลาย หากทำได้จะได้อานิสงส์อย่างใหญ่หลวง เพราะทุกวันนี้มีพระสงฆ์ที่ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบฉันท์มังสวิรัติทั่วประเทศไม่น้อยเลย และยังมีผู้ถือศีลกินเจที่ต้องบริโภคผักและผลไม้ด้วย

 

 

** พอใกล้จะถึงการเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานาคร ก็จะมีข่าวว่า มีหลายคนที่ขันอาสาจะมาลงรับใช้พี่น้องชาวกรุงกัน อย่างเช่น “มาดามแป้ง” นวลพรรณ ล่ำซำ แต่มีบุรุษอยู่ผู้หนึ่งที่ได้ข่าวมาตั้งหลายเดือนแล้วว่า จะลงมารับใช้พี่น้องชาวกรุงก็คือ รองศาสตราจารย์ ดร. ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ซึ่งเป็นอดีตผู้ช่วยอธิการบดีจุฬาลงกรณ์ มหาวิทยาลัย และอาจารย์ประจำภาควิชาวิศวกรรมโยธา คณะวิศวกรรมศาสตร์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เขามีสมญาที่ประชาชนตั้งให้ว่า “บุรุษที่แข็งแกร่งที่สุดในปฐพี” พอข่าวนี้ออกมาแล้วประชาชนหลายอาชีพ รวมถึงสื่อมวลชนหลายแขนง และหลายคนต่างมีความยินดีที่จะได้ผู้ที่มีความรู้ความสามารถอย่างแท้จริง ที่จะลงมาสมัครในตำแหน่งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร

 

 

** เป็นข่าวที่เกิดขึ้นจนนับครั้งไม่ถ้วนที่สถานรับเลี้ยงเด็กมีพี่เลี้ยงที่ใจร้าย และขี้โมโหทำร้ายเด็กเล็กวัยยังพูดไม่ได้จนบาดเจ็บสาหัสมามากต่อมากแล้ว เรื่องนี้ “ไมโครโฟน” มีความเห็นว่า สถานที่รับเลี้ยงเด็กต้องมีใบอนุญาตให้ถูกต้อง ไม่ว่าจะเป็นความปลอดภัย นอกจากสถานที่ต้องมาตรฐาน และสะอาดแล้วยังต้องมีบุคลากรที่เป็นพี่เลี้ยงเด็กที่ผ่านการอบรมบ่มนิสัยให้เป็นคนมีความเมตตา และรักเด็กเป็นชีวิตจิตใจ และอยากฝากให้หน่วยราชการ โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่ตำรวจในท้องที่ให้เข้าไปตรวจสอบสถานที่รับเลี้ยงเด็กว่า มีใบอนุญาตถูกต้องไหม เพื่อป้องกันเหตุร้ายที่จะเกิดขึ้นอีก

 

 

** เป็นอันว่า เรื่องราวของ นางสาวแพรวา เทพหัสดิน ณ อยุธยา ที่เคยก่อคดีขับรถเก๋ง ฮอนด้า ซีวิค ขับมาด้วยความเร็วสูงชนรถตู้บนทางด่วนจนรถตู้บนทางด่วนพลิกคว่ำทำให้มีคนเสียชีวิตรวมเป็น 9 ศพ ซึ่งในขณะเกิดเหตุ นางสาวแพรวา ซึ่งขณะนั้นมีอายุเพียง 16 ปี 6 เดือน ยังไม่สามารถทำใบอนุญาตขับขี่ได้ เหตุการณ์ผ่านมา 9 ปี โดยญาติของเหยื่อผู้เสียชีวิตไม่ได้รับการเยียวยาจนพากันออกมาเรียกร้องความเป็นธรรม จนมาเมื่อไม่กี่วันนี้ นางลัดดาวัลย์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา ตัดสินใจประกาศขายที่ 2 แปลงเพื่อจะได้เยียวยาเหยื่อ ที่เสียชีวิตไป บรรดาญาติของเหยื่อผู้เสียชีวิตต่างพอใจที่จะจบปัญหาลงด้วยดี และเห็นว่าการกระทำของนางลัดดาวัลย์ เป็นการเคารพต่อศาลด้วย

 

 

** มีข่าวว่าทาง ขสมก. จะใช้ระบบเก็บเงินอัตโนมัติ และเลิกจ้างกระเป๋ารถเมล์เพื่อเป็นการประหยัดรายจ่าย ก็มีทั้งผู้โดยสาร และผู้ที่เล็งเห็นความปลอดภัยได้เสนอว่า ไม่ควรยกเลิกกระเป๋ารถเมล์ เพราะกระเป๋ารถเมล์ไม่เพียงแต่เก็บค่าโดยสารอย่างเดียวยังต้องดูแลความปลอดภัยของผู้โดยสารเวลาขึ้นลง หรือถ้าหากมีการกระทำกรีดกระเป๋าล้วงกระเป๋าโดยสาร รวมถึงการกระทำอนาจารผู้โดยสารจะได้เป็นหูเป็นตา หากเกิดเหตุการณ์ขึ้นจะได้ร่วมกับคนขับรถเมล์ แจ้งตำรวจที่อยู่ใกล้เคียงจับกุมทันที “ไมโครโฟน” ก็มีความเห็นว่าก็ไม่ควรยกเลิกกระเป๋ารถเมล์ ทาง ขสมก. น่าจะไปจัดการกับพวกรถร่วมบริการที่ขับรถด้วยความเร็ว และขับรถด้วยความประมาท โดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยของผู้อื่น แถมซ้ำยังขับรถไล่บี้รถคันหน้า และแสดงอาการเป็นอันธพาล อย่างเช่นรถเมล์ร่วมบริการสาย 75 ** ข่าวที่ผู้ว่าการประเทศบราซิลประกาศหนุนให้ตำรวจวิสามัญคนร้ายที่ขายยาเสพติด แล้วยังจะยิงต่อสู้ตำรวจก็ถือเป็นแนวคิดที่ดี เพราะประเทศที่มียาเสพติดระบาดขืนตำรวจไม่เอาจริงเอาจังในการจับกุม และปราบปรามยาเสพติดไม่มีวันจะหมดสิ้นไปได้

 

 

** จังหวัดเชียงใหม่ถือว่าเป็นเมืองท่องเที่ยวอันดับ1 ของทางภาคเหนือ แต่ปัจจุบันนี้นอกเหนือจากยาเสพติดจะระบาดแล้วก็ยังมีพวกอันธพาลทำตัวเป็นเจ้าถิ่นขาใหญ่คอยรังแกเที่ยวทำร้ายผู้คนเพียงแต่เกิดความหมั่นไส้ โดยที่คู่กรณีที่โดนทำร้ายบอกว่าไม่เคยรู้จัก และไม่เคยมีเรื่องกับอันธพาลกลุ่มนี้ เรื่องนี้คงมองข้ามความปลอดภัยไม่ได้แล้ว ก่อนที่จะไปโดนลูกหลงกับชาวไทย และนักท่องเที่ยวต่างชาติ เรื่องนี้คงต้องฝากให้ พล.ต.ต. พิเชษฐ จีระนันตสิน ผกก. ภ. จว. เชียงใหม่ ให้นำผู้ใต้บังคับบัญชาลงพื้นที่ปราบปรามทั้งยาเสพติด และพวกอันธพาลที่คอยสร้างความเดือดร้อนให้ชาวบ้านมาตลอด

 

 

**เช่นเดียวกับพื้นที่ของ สภ.เมือง จว. ราบุรี ที่นี่ยาเสพติดระบาดมาก ก่อให้เกิดปัญหาพวกขี้ยากลายเป็นโจรผู้ร้ายที่เที่ยวงัดแงะและจี้ปล้นชาวบ้านมาตลอด คงต้องฝากให้ พ.ต.อ.อภิชาต พุทธบุญ ผกก. สภ. เมือง ราชบุรี ต้องเรียกประชุมชุดสืบสวน และชุดป้องกันและปราบปรามลงพื้นที่ไปตรวจจับผู้ค้ายาเสพติด และบรรดาโจรผู้ร้ายให้จริงจังด้วย เพื่อขจัดทุกข์ให้ชาวบ้านย่านพุทธมณฑล ร้องเรียนมาว่า ยาเสพติดที่นี่ระบาด ชาวบ้านเกรงกลัวว่า ลูกหลานจะกลายเป็นทาสยาเสพติดไปหมด และอยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเจ้าของพื้นที่ลงไปตรวจสอบสถานบริการที่ส่งเสียงดัง และเปิดเกินเวลา เรื่องนี้คงต้องฝากให้ พ.ต.อ. ทวี พรมมาลี ผกก. สภ.พุทธมณฑล ลงพื้นที่พร้อมกับผู้ใต้บังคับบัญชาลงไปตรวจสอบ และจับกุมแก๊งค้ายาเสพติด และโจรผู้ร้ายในพื้นที่ พร้อมทั้งตรวจตราสถานบริการที่ส่งเสียงดัง และเปิดเกินเวลาด้วย

 

 

** “นายดาบคม” ผู้สื่อข่าวของคอลัมน์ “รอบบ้าน รอบเมือง” รายงานข่าวมาว่า เมื่อคืนวันเข้าพรรษามีสถานบริการที่มีการจำหน่ายสุรา และมีผู้หญิงขายบริการในซอยนราธิวาส1 คงต้องฝากให้ ตำรวจ สน. บางรัก ซึ่งเป็นเจ้าของพื้นที่ และตำรวจของ ปคม. ลงพื้นที่มาตรวจสอบ และจับกุมสถานบริการที่ทำผิดกฎหมายด้วย ** โลหิตยังขาดแคลน โปรดร่วมใจกันไปบริจาคโลหิตเพื่อช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ที่สภากาชาดไทย ได้กุศลแรง