** วันนี้เป็นวันพ่อแห่งชาติ ถือวันสำคัญอย่างยิ่งวันหนึ่งที่บรรดาลูกๆ จะต้องแสดงความกตัญญูกตเวทีต่อคุณพ่อผู้ให้กำเนิดของลูกๆ ฉะนั้นแล้วในวันนี้ลูกทุกคนต้องนำพวงมาลัยมากราบคุณพ่อบอกรักคุณพ่อ ถ้าจะให้ดีแล้วต้องมอบของขวัญ และพาคุณพ่อไปรับประทานอาหารมื้อเย็นที่ห้องอาหาร แต่ถ้าใครมีฐานะหน่อยต้องพาคุณพ่อไปรับประทานอาหารที่ภัตตาคารหรู ใครที่จะพาคุณพ่อไปรับประทานอาหารต้องจองไว้ก่อนเพื่อป้องกันความผิดหวัง

** ว่ากันถึงเรื่องไวรัสโควิด-19 จะหนักข้อและน่าเป็นห่วงมากขึ้นทุกวันเนื่องจากผู้สื่อข่าวได้รายงานมาว่าปัจจุบันนี้มีผู้ที่ไม่ใส่หน้ากากอนามัยไปตามสถานที่ต่างๆ เพียง 45 เปอร์เซ็นต์ก็หมายความว่านอกนั้นไม่ยอมสวมใส่หน้ากากอนามัยและสถานที่ซึ่งให้บริการต่างๆ ก็ไม่มีการตรวจวัดไข้หลายแห่ง แถมซ้ำที่น่าเป็นห่วงที่สุดคือกลุ่มผู้หญิงชาวเมียนมาร์ลักลอบเข้ามาในเมืองไทยตามขอบชายแดนทั้งหลาย อย่างกับที่ จังหวัดเชียงใหม่ และจังหวัดเชียงราย ซึ่งในช่วงเทศกาลการท่องเที่ยวจะมีผู้คนพากันไปรับลมหนาวและชมดอกไม้ที่สวยงามมาก พร้อมทั้งซื้อของที่ระลึกและข้าวของต่างๆ กับมาฝากญาติโยม ทำให้บรรยากาศการท่องเที่ยวทั้ง 2 จังหวัดได้รับความเสียหายอย่างมาก ถึงกับประกาศยกเลิกการจองโรงแรม และรีสอร์ทต่างๆ ทำให้การท่องเที่ยวเสียหายมูลค่ามหาศาล ถือเป็นว่าเป็นตัวการทำลายเศรษฐกิจ

** ทำให้กลุ่มการท่องเที่ยวของจังหวัดเชียงใหม่ได้ระดมทุนกว่าล้านบาทเรียกความเชื่อมั่นนักท่องเที่ยวกลับคืน พันธมิตรภาคเอกชนเชียงใหม่ระบุหากพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มจากเคสของหญิงสาวที่ติดโควิดที่จังหวัดเชียงใหม่จะจ่ายค่าทำขวัญทันที 1 แสนบาท พร้อมเตรียมหารือ ศบค. ทำประกันโควิดให้นักท่องเที่ยวด้วย แต่ทางการแพทย์ได้แนะนำนักท่องเที่ยวว่า ใครที่มาเที่ยวเชียงใหม่ และจังหวัดเชียงรายก็ขอให้ปฏิบัติตนโดยความเคร่งครัดในการสวมใส่หน้ากากอนามัยอย่าจับกลุ่มกันมั่นล้างมือบ่อยๆ ด้วยสบู่หรือเจลแอลกอฮอล์ ข้อสำคัญให้กินช้อนกลางก็จะปลอดภัยจากโควิด-19

 พระราชพัฒนากร(สมชาย ฉันทสโร) ท่านเจ้าอาวาสวัดปริวาสราชสงคราม ถนนพระราม ๓ เขตยานนาวา กทม. ๑๐๑๒๐ มาปิดทองพระที่วัดพระปฐมเจดีย์ พระพุทธภูธราวดี ๑ องค์ พระร่วงโรจนฤทธิ้ จำลอง ๒ องค์ รวม ๓ องค์ เสร็จเรียบร้อยเวลา ๙.๐๐น. แบ่งกุศลให้ทุกท่านด้วย ทุกรูป ทุกนาม ตลอดทั้งสามภพ และผู้มีพระคุณด้วย มรรค ๔ ผล ๔ นิพพาน ๑ ด้วยก้นทุกท่านเทอญ

** มีผู้ที่หวังดีกับประเทศไทยได้เสนอแนะให้ทาง ศบค.ซึ่งเป็นหน่วยงานของรัฐบาล จับผู้ที่ไม่ยอมสวมใส่หน้ากากอนามัยแล้วปรับเป็นเงิน 1 พันบาทและให้ลงโทษสาวเมียนมาร์ที่ติดโควิดและลักลอบเข้ามาในประเทศไทยแล้วลงโทษให้หนักที่สุด พร้อมทั้งเนรเทศกลับประเทศเมียนมาร์ไป สำหรับกลุ่มคนพิทักษ์ธรรมก็ขอประณาม และสาปแช่งเจ้าหน้าที่ไม่ว่าฝ่ายใดที่เห็นแก่เงินเพียงไม่กี่พันบาทแล้วปล่อยให้ชาวเมียนมาร์เข้ามาในประเทศไทย ถ้าหากมีหลักฐานก็ขอให้ทางราชการไล่ออกจากราชการ เพราะเป็นคนไม่รักประเทศไทย!!!

** อย่างนี้ก็ได้ด้วยหรือ? เอกชนตั้งสถาบันฝึกฟุตบอลในโรงเรียนรัฐ เก็บรายได้เข้ากิจการครอบครัว แต่โรงเรียนต้องแบกภาระค่าน้ำ และเบิกจ่ายค่าพักค้างเก็บตัวนักกีฬาที่เข้าฝึก โดยไม่มีระเบียบให้เบิกจ่ายได้ เรื่องถูกเปิดเผยโดยคุณสมโภชน์ โตรักษา คอมลัมน์หมายเลข 7 และคุณพิศิษฐ์ ลีลาวชิโรภาส อดีตผู้ว่า สตง. ลงพื้นที่จังหวัดสมุทรสาคร ตรวจสอบ ณ โรงเรียนพันท้ายนรสิงห์วิทยา พบว่ามีเอกชนประกอบกิจการตั้งเป็นสถาบันหรืออะแคเดมีฝึกนักฟุตบอล ใช้พื้นที่โรงเรียนเป็นที่ฝึกซ้อม เป็นที่อยู่ที่กินและที่เรียนของเด็กที่อยู่ในสถาบันแห่งนี้ ซ่อนปมปัญหาหลายอย่างโดยเฉพาะการไม่ปฏิบัติตามระเบียบกฎหมาย กลายเป็นปมขัดแย้งระหว่างผู้บริหารสถาบันเอกชน ผู้ปกครองบางรายที่ส่งเด็กเข้าฝึก และผู้บริหารโรงเรียน จนมีการร้องเรียนเป็นข่าวและส่งปัญหานี้ไปให้คณะกรรมาธิการกีฬาสภาผู้แทนราษฎร และผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร ขอให้ช่วยแก้ปัญหานี้ ข้อมูลจากบุคคลที่เกี่ยวข้อง ทั้งที่มาและวิธีแก้ปัญหาโครงการฟุตบอลสู่ความเป็นเลิศโรงเรียนพันท้ายนรสิงห์วิทยา มีนักเรียนทั้งในและนอกพื้นที่กว่า 200 คนในโครงการนี้ บริหารงานโดยเอกชนที่อดีตผู้บริหารโรงเรียนได้ร่วมมือด้วยเมื่อปี 2556 จัดตั้งเป็นสถาบันฝึกฟุตบอลทำต่อเนื่องมา 8 ปีแล้ว ผู้ปกครองนักเรียนที่เข้าโครงการต้องเสียค่าใช้จ่ายรายเดือน ผู้บริหารอะคาเดมี่ยอมรับว่ามีรายได้กว่า 7 แสนบาทต่อเดือน ที่ได้รับนำไปใช้จ่ายหมด บางส่วนนำไปปรับปรุงที่พักนักกีฬาตามอัตภาพ ขณะที่ผู้อำนวยการโรงเรียนพันท้ายนรสิงห์วิทยาคนปัจจุบัน ซึ่งย้ายดำรงตำแหน่งเดือนกุมภาพันธ์ปีนี้ เห็นว่าการให้เอกชนตั้งสถาบันฝึกฟุตบอลในโรงเรียน ทำไม่ถูกต้องเพราะที่นี่ไม่ใช่โรงเรียนประจำและยังตรวจพบหลักฐานการเบิกงบผิดประเภท ให้กับเด็กนักเรียนในสถาบันนี้ตั้งแต่ปี 2557-2562 รวมประมาณ 4 ล้านบาทเศษ ทั้งที่ไม่มีสิทธิ์ แม้ว่าสถาบันฝึกฟุตบอลแห่งนี้สร้างชื่อเสียงให้แก่โรงเรียนพันท้ายนรสิงห์วิทยา แต่การไม่ทำให้ถูกต้องตามระเบียบกฎหมาย ก่อให้เกิดความเสียหาย และเอื้อเอกชนตั้งสถาบันหรืออะแคเดมีฟุตบอล ในโรงเรียนพันท้ายนรสิงห์วิทยา จังหวัดสมุทรสาคร ใช้พื้นที่ของโรงเรียนเป็นที่บริหารจัดการสถาบันฝึก ขณะที่ผู้อำนวยการสถาบันฟุตบอล พร้อมปฏิบัติตามกฎหมาย โดยจะย้ายเด็กนักเรียนในโครงการไปอยู่ที่แห่งใหม่ของสถาบันซึ่งกำลังก่อสร้างในที่ของเอกชน และยอมรับว่าเด็กนักเรียนในโครงการนี้ได้รับงบประมาณจาก สพฐ. โดยสถาบันไม่ได้เข้าไปเกี่ยวข้อง  สอดคล้องกับข้อมูลผู้อำนวยการโรงเรียนคนใหม่ระบุมีการเบิกงบส่วนนี้ประมาณ 4 ล้านบาท ขณะที่ทายาทผู้บริจาคที่ดิน 20 ไร่ให้สร้างโรงเรียน แม้เห็นด้วยกับการพัฒนากีฬาฟุตบอล แต่ต้องทำให้ถูกต้องตามกฎระเบียบ และแม้ว่าเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ส่งหนังสือถึงผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 10 ผ่อนปรนให้นักเรียนในสถาบันฟุตบอลแห่งนี้ พักนอนค้างในโรงเรียนได้ถึงวันที่ 28 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ขณะนี้ครบกำหนดแล้ว แต่ปัญหานี้ยังไม่ได้รับการแก้ไขความเสียหายที่เกิดใครต้องรับผิดชอบคงต้องขอร้องให้ สตง. ได้โปรดกรุณาเข้าตรวจสอบเพิ่มเพื่อทวงคืนความเสียหายและรักษาประโยชน์ทางราชการและขอให้ ป.ป.ช. เข้าตรวจว่าเป็นการเอื้อประโยชน์สถาบันหรืออะคาเดมี่เอกชน อย่างไร เพราะดูสภาพสถานที่พักค้างเก็บตัวนักกีฬา ห้องนอน ห้องพัก ห้องซักล้าง เป็นอยู่กันแบบสลัมๆ นักกีฬาไม่เจ็บป่วยเป็นโรคโควิด-19 ก่อนเป็นทีมชาติก็บุญแล้ว.....

** มาถึงวันนี้ก็ยังมีคนร้องเรียนมาว่าพบผู้ค้าที่นำ “หมึกบลูริง” เสียบไม้ย่างขายทั้งๆที่ก็รู้อยู่ว่า เป็นหมึกกินไม่ได้ พิษร้ายกว่างูเห่าถึง 20 เท่า แถมความร้อนไม่สามารถที่ทำลายพิษได้พูดง่ายๆ ว่าผู้ที่กินเข้าไปแล้วจะตายทันที เอาเป็นว่าถ้าหากใครที่พบผู้ค้าที่เห็นแกได้โดยไม่คำนึงถึงชีวิตของผู้คนให้แจ้งตำรวจเจ้าของท้องที่เป็นอันดับแรกต่อมาให้ร้องเรียนไปที่ อย. และ สคบ. ให้ไปทำการจับกุมเป็นการด่วน

** ตามที่ พล.ต.อ. อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าฯ กทม. ได้ประกาศไว้ว่า ห้ามรถตั้งแต่ 6 ล้อขึ้นไป วิ่งเข้าเมือง แต่ว่ายังมีผู้ที่ร้องเรียนมาว่า ยังมีรถบรรทุกคันใหญ่ 18 ล้อ ลักลอบวิ่งเข้าเมือง เรื่องนี้คงต้องฝากให้ หน่วยงานของ กทม. และเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรเจ้าของพื้นที่ทำการจับกุมรถบรรทุกที่ลักลอบวิ่งเข้าเมืองแล้วนำไปดำเนินคดีให้ถึงที่สุด

** ปัญหารถบรรทุกที่ไม่ตรวจตราสภาพของล้อปล่อยให้ล้อหลุดออกมาวิ่งชนทั้งรถที่ใช้ถนนร่วมกันและล้อเจ้ากรรมยังวิ่งไปชนผู้คนและข้าวของเสียหายมากมาย หากใครที่เป็นผู้เสียหายให้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจที่อยู่ใกล้เคียงหรือให้ไปแจ้งความที่โรงพักเพื่อตามหาล้อมหาภัยเพื่อมาชดใช้ค่าเสียหายด้วย

** วันนี้ต้องขอขอบคุณเพื่อนตำรวจของประชาชน ที่มาปฏิบัติหน้าที่กองร้อยควบคุมฝูงชน ด้วยความอดทน อดกลั้นเสี่ยงอันตราย ยอมเสียสละอุทิศตนเพื่อความสงบสุขของพี่น้องประชาชน คนไทยในระบอบประชาธิปไตยทุกคนจึงอยากให้กำลังพลเหล่านี้ได้รับการดูแลอย่างเหมาะสมแก่การต้องใช้กำลังกายและกำลังสมอง โดยเฉพาะในขณะที่มีการส่งกำลังพลจากหลายหน่วยเข้ามาควบคุมฝูงชน นอกจากเบี้ยเลี้ยงในการมาดำรงชีพในเมืองหลวง ที่แสนจะน้อยนิดอยู่แล้ว ก็อยากให้รีบเบิกจ่ายให้ครบๆ และให้ทันเวลาด้วย