คอลัมน์ “รอบบ้าน รอบเมือง” แห่งบ้านเมืองออนไลน์ ประจำวันเสาร์ที่ 1 พฤษภาคม 2564

ทั้งเพาะเชื้อ สร้างความกลัว ทั่วทุกแห่ง

จัดระเบียบ กันวุ่นวาย ต่างขัดแย้ง

ออกแถลง แต่กระพี้ ดีเข้าตัว

     มาตราการ ไม่ชัดเจน เกณฑ์คนด้อย

ผิดพลาดบ่อย แล้วล้อมคอก

หลอกให้เชื่อ ความเป็นจริง แสนเดือดร้อน

ทุกข์ทนเหลือ ไม่อาจรู้ ว่าจะเชื่อ ใครชัดเจน

     รัฐต้องเร่ง หาคนเก่ง มาแก้ไข

อย่าเอาคน ที่ไม่ใช่ มาช่วยเหลือ

อย่าเอาแต่ ดันพวกพ้อง ดองเป็นเกลือ

สร้างความเชื่อ คืนศรัทธา มาเร็ววัน

 ................เบญจรงค์............

 

** วันนี้ถือว่าเป็นวันแรงงานแห่งชาติ 1 พ.ค. ถือว่าเป็นวันแรงงานแห่งชาติ เป็นที่รู้กันว่าบรรดาโรงงาน บริษัทห้างร้าน รวมถึงกิจการทั้งใหญ่ทั้งเล็กพากันปิดตัวลง เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจที่ตกต่ำเข้าขั้นวิกฤตแล้วยังมาผนวกกับโรคโควิด-19 อีกด้วย แรงงานทั้งหลายก็พากันตกงานไปตามๆ กัน ใครที่มีงานทำอยู่ในตอนนี้ถือเป็นความโชคดีอย่างมหาศาล ขอให้ขยันทำงานเพื่อช่วยให้นายจ้างอยู่รอด

 

** ที่ผ่านมารัฐบาลที่มี พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว. กลาโหม ต้องยอมรับว่า บริหารงาน โดยผิดพลาดอย่างสิ้นเชิงทั้งๆ ที่ก่อนหน้านั้น ศ.ดร.นพ. ประสิทธิ์ วัฒนาภา คณะบดีคณะแพทย์ศาสตร์ ศิริราชพยาบาล ม. มหิดล ได้เคยเตือนไว้แล้วว่า อย่าอนุญาตให้มีผู้คนเดินทางไปต่างจังหวัดในช่วงเทศกาลสงกรานต์ แต่แล้วก็ไม่ได้เป็นตามคำแนะนำ ผู้คนที่เดินทางกลับบ้านไปฉลองเทศกาลสงกรานต์หรือไปกราบคุณพ่อคุณแม่ พร้อมด้วยคุณตาคุณยายและคุณปู่คุณย่าด้วย พอกลับมาถึงกรุงเทพฯ ก็นำเชื้อไวรัสโควิด-19 มาแพร่กระจายสู่ผู้คนอีก

 

** จนถึงเวลานี้ขณะที่กำลังเขียนข่าวอยู่นายกรัฐมนตรี และ ศบค. ยังไม่ได้มีการประกาศเคอร์ฟิวถือว่าเป็นความผิดพลาดช้าเกินไปแล้ว ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปสอบถามประชาชนนานาอาชีพต่างก็ให้คำตอบเป็นเสียงเดียวกันว่า ถ้าจะมาล็อกดาวน์ในตอนนี้ถือว่าสายเกินไป นายกรัฐมนตรีต้องยอมรับว่าการบริหารที่ผ่านมาเกิดความผิดพลาดอย่างมากมาย

 

** เอาเป็นว่า ที่ผ่านมา ความผิดพลาดถือว่าเป็นครูก็แล้วกัน ต่อจากนี้ไปรัฐบาลต้องระดมสั่งวัคซีนแก้ไวรัสโควิด-19 ที่มีประสิทธิภาพ และไม่มีผลข้างเคียงเพื่อแจกจ่ายให้ประชาชน บุคลากรในวงการแพทย์ และพยาบาล เป็นหนทางเดียวที่จะทำให้โรคมหันตภัยตัวร้ายโควิด-19 หายไปจากเมืองไทย

 

**อยากที่จะขอความกรุณาให้ท่านเศรษฐี และอัครมหาเศรษฐี รวมถึงเจ้าสัว และเฒ่าแก่ทั้งหลายร่วมกันบริจาคสิ่งของที่จำเป็นต้องใช้หรือจะเป็นตัวเงินทองก็ได้ในการช่วยเหลือโรงพยาบาลหลายแห่ง เช่น โรงพยาบาลศิริราช โรงพยาบาลรามาธิบดี โรงพยาบาลราชวิถี และอีกหลายโรงพยาบาลทั่วประเทศ ท่านใดที่จะทำบุญสร้างกุศลสามารถดูเวบไซด์ของแต่ละโรงพยาบาลได้

 

 

เมื่อวันที่ ๑๗-๑๘ เมษายน พ.ศ.๒๕๖๔ พระราชพัฒนากร (สมชาย ฉันทสโร) ท่านเจ้าอาวาส วัดปริวาสราชสงคราม ถนนพระราม ๓ เขตยานนาวา กทม.๑๐๑๒๐ ปิดทองพระที่วัดห้วยเจริญ ต.วังน้ำซับ อ.ศรีประจัน  จ.สุพรรณบุรี เสร็จเรียบร้อยแล้ว โมทนาบุญกับทุกท่านด้วย แบ่งบุญกุศลให้ทุกท่านด้วย ทุกรูป ทุกนาม ตลอดทั้งสามภพ และผู้มีพระคุณทุกท่าน ด้วยมรรค ๔ ผล ๔ นิพพาน ๑ ด้วยกันทุกท่านเทอญ

 

** การที่ พล.ต.อ. อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าฯ กทม. มีคำสั่งว่าถ้าหากผู้ใดไม่สวมใส่หน้ากากอนามัยเวลาออกจากบ้าน ใครฝ่าฝืนจะปรับถึง 2 หมื่นบาท แต่ที่ผ่านมาก็มีการปรับอย่างต่ำ 6 พันบาท ให้นึกให้ดีๆ และใช้สมองคิดว่า เวลานี้เศรษฐกิจที่ตกต่ำถึงขั้นวิกฤต หากใครที่รีบเร่งออกจากบ้านแล้วลืมนำพาหน้ากากอนามัยไปด้วย แล้วโดนจับปรับจะเอาเงินที่ไหนไปจ่ายให้ นอกจากนำไปติดคุกแทน โครงการนี้มีทั้งคนเห็นด้วยแต่ส่วนใหญ่แล้วจะไม่เห็นด้วย โดยให้เหตุผลว่า เป็นการออกกฎที่รุนแรงเกินเหตุ

 

** แล้วยังมีผู้คนที่อยู่ในกรุงเทพจำนวนหนึ่ง ที่มีมากไม่น้อย เขามีผู้ว่าฯ กทม. คนต่อไปแล้ว ชื่อย่อว่า ช.

 

**  ว่ากันถึง ณวัฒน์ อิสรไกรศีล ผู้ดำเนินรายการทางทีวี และเป็นผู้จัดประกวดนางงาม ที่มีคนให้ความเชื่อถือ โดยเฉพาะเรื่องของการออกมาแสดงความคิดเห็นทางการเมือง ไม่ว่าจะเพจ ทางไลน์ หรือเฟสบุค พูดได้ถูกใจผู้คนที่รักความยุติธรรม เพราะตัวของ ณวัฒน์ อิสรไกลศีล เป็นผู้ที่ไม่เห็นด้วยกับการกระทำของนักการเมืองที่สร้างความเดือดร้อนให้ชาวบ้าน แต่ละเพจที่ออกมาได้ใจผู้อ่านไปเต็มๆ **เป็นเช่นนี้นี่เอง กว่าจะเป็น “อ่างเก็บน้ำห้วยแม่สำ” ที่อยู่ระหว่างก่อสร้าง จะต้องมีการจ่ายค่าเวนคืนและเยียวยาชาวบ้าน ซึ่ง “คอลัมน์หมายเลข 7” ได้ตามเสียงความเดือดร้อนของชาวบ้านไร่ ตำบลแม่สำ อำเภอศรีสัชนาลัย จังหวัดสุโขทัย ที่มีบ้านและพื้นที่ทางการเกษตรอยู่ในพื้นที่สร้างอ่างเก็บน้ำห้วยแม่สำ อันเนื่องมาจากพระราชดำริ ที่มีความสูงสันฝาย 19 เมตร ยาว 450 เมตร เมื่อสร้างเสร็จจะมีพื้นที่รับน้ำประมาณ 17.24 ไร่ เก็บน้ำได้ 4.93 ล้านลูกบาศก์เมตร เพิ่มพื้นที่ชลประทานได้กว่า 3,200 ไร่ และช่วยแก้ไขปัญหาการขาดแคลนน้ำอุปโภคบริโภค รวมถึงน้ำด้านการเกษตร อีกทั้งยังป้องกันการเกิดอุทกภัยช่วงฤดูน้ำหลากในพื้นที่ได้อีกด้วย เริ่มก่อสร้างมาตั้งแต่เดือนมีนาคม 2563 ใช้งบประมาณค่าก่อสร้าง 105 ล้านบาท ปัจจุบันโครงการคืบหน้าไปประมาณร้อยละ 60 แล้ว แต่ที่ผ่านมา ชาวบ้านยังรอเงินค่าเวนคืนที่ดินและค่ารื้อถอนเพื่อย้ายออกจากพื้นที่โครงการก่อสร้าง แต่สำนักงานก่อสร้างชลประทานขนาดกลางที่ 4 กรมชลประทาน มีการขอเลื่อนการจ่ายเงินมาแล้ว 3 ครั้ง ทำให้ชาวบ้านยังย้ายออกไม่ได้ เนื่องจากไม่มีเงินรื้อถอนย้ายบ้าน ขณะที่ในส่วนของต้นไม้ของชาวบ้านถูกตัดไป และบางรายไม่มีที่ไปต้องไปวางเงินจองที่ดิน แต่ก็ต้องยอมให้เจ้าของที่ดินยึดเงินประกันไป เพราะไม่มีเงินไปจ่ายค่าที่ดินที่เหลือ และปัจจุบันใกล้ฤดูฝน ชาวบ้านกลัวน้ำจะท่วมบ้าน และยังได้รับผลกระทบจากการก่อสร้าง ดังนั้น“คอลัมน์หมายเลข 7” ร่วมกับคุณพิศิษฐ์ ลีลาวชิโรภาส ผู้ตรวจเงินแผ่นดินภาคประชาชน ช่วยไปขอคำชี้แจ้งจากของรองอธิบดี กรมชลประทานฝ่ายวิชาการ ที่ดูแลด้านงานก่อสร้าง อธิบายถึงความแตกต่างระหว่างโครงการก่อสร้างของชลประทานทั่วไป กับโครงการพระราชดำริ โดยโครงการพระราชดำริ สามารถเข้าไปก่อสร้างได้เลย โดยไม่ต้องรอมติคณะรัฐมนตรี สำหรับโครงการก่อสร้างอ่างเก็บน้ำห้วยแม่สำ เริ่มสำรวจรวบรวมข้อมูลมาตั้งแต่ปี 2537 และเพิ่งจะได้ก่อสร้างในปี 2563 ทำให้กรมชลประทานตั้งงบประมาณในส่วนค่าเวนคืน และรื้อถอนให้กับชาวบ้านไม่ทันปีงบประมาณ 2564 แต่จะมีการจัดเงินงบประมาณส่วนหนึ่ง จำนวน 23 ล้านบาท จ่ายให้กับชาวบ้านในพื้นที่ลุ่มและหน้าแนวเขื่อนของอ่างเก็บน้ำก่อน และจะทยอยจ่ายให้ครบตามกำหนดในปีงบประมาณ 2565 ส่วนที่ชาวบ้านกังวลว่า หลังจากนี้จะเข้าสู่ฤดูฝน และได้รับผลกระทบบ้านที่อยู่ในพื้นที่อ่างเก็บน้ำจะถูกน้ำท่วม ทางกรมชลประทานยืนยันว่า จะยังไม่มีการกักเก็บน้ำในปีนี้ ส่วนต้นไม้ของชาวบ้านที่ถูกไป ทางกรมชลประทานยืนยันว่าไม่มีส่วนเข้าไปเกี่ยวข้อง แต่เป็นการดำเนินการของคณะกรรมการระดับจังหวัด หลังจากที่มีการชี้แจงให้กับชาวบ้านให้เข้าใจแล้ว เชื่อว่าโครงการอ่างเก็บน้ำห้วยแม่สำจะดำเนินการแล้วเสร็จ และทำให้อำเภอศรีสัชนาลัยและพื้นที่ใกล้เคียงอุดมสมบูรณ์ขึ้น รอบบ้านรอบเมืองศรีสัชนาลัยจะได้สุขีสุโขทัยมีทำกินมีเงินใช้สมบูรณ์พูนสุขกันทั่วหน้าอันเนื่องด้วยโครงการพระราชดำริ

 

บุคคลที่มีชื่อเสียงในวงการสังคมยังให้ความไว้วางใจในที่นอนยางพาราของ บริษัท อีโค่ เลเท็กซ จำก้ด ซึ่งเป็นที่นอนยางพาราจากธรรมชาติแท้ เพื่อสุขภาพในการนอนหลับและฝันดีด้วย

 

** มีผู้ที่อาศัยอยู่ใน กทม. จำนวนมาก เสนอแนะทุก 50 เขต ของ กทม. ให้หาทางป้องกันน้ำท่วม ไม่ว่าจะเป็นวิธีการใดที่ทำให้ชาวบ้านไม่ต้องเดือดร้อนกับกรณีน้ำท่วมเข้าบ้านทำให้ข้าวของเสียหาย และไม่ก็ไม่รู้จะไปเรียกร้องค่าเสียหายจากใคร

 

** เรื่องราวของผู้ที่ร้องเรียนมาเริ่มจากเรื่องมีหอพักแห่งหนึ่งแถวอินทามระ44 ซึ่งเจ้าของเป็นญาติของคนดังที่โดนคดียาเสพติด กฎเดิมของหอพักคือห้องที่จ่ายค่าเช่าเกินกำหนดจะถูกปรับวันละ 100 บาท ค่าน้ำหน่วยละ 20 บาท ค่าไฟหน่วยล่ะ 8 บาท เฉพาะค่าน้ำขั้นต่ำต้องจ่ายเดือนละ 100 บาท เท่ากับ 5 หน่วย แม้ว่าจะใช้น้ำไม่ถึง 5 หน่วยก็ตาม ถ้าถึงกำหนดของหอพักต้องมาเขียนเลขมิเตอร์ (มิเตอร์น้ำจะติดอยู่ระเบียงหลังของห้อง) ถ้ามาเขียนหรือเลยกำหนดเขียนจะถูกคิดเงิน 10 หน่วย หรือ 200 บาททันที แล้วยังมีอีกหลายเรื่องที่เจ้าของหอพักเอาเปรียบผู้พัก เรื่องนี้คงต้องฝากให้ สคบ. และหน่วยงานที่รับผิดชอบด้วยดำเนินการตรวจสอบและดำเนินการกับเจ้าของหอพักด้วย

 

** เรื่องที่ 2 มีผู้ร้องเรียนว่า มีรถเมล์ในตำนานอีกสายหนึ่ง ที่พนักงานขับรถขับยิ่งกว่าขับรถแข่ง ไม่ใช่แค่สาย8 ในตำนานเท่านั้น แต่ยังมีสายหนึ่งในเครือบริษัทที่เป็นเจ้าของรถเมล์สายเดียวกันกับสาย 8 คือสาย 122 พนักงานขับรถที่ขับด้วยความประมาท โดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยของผู้อื่นที่ใช้ถนนเส้นเดียวกัน เรื่องนี้คงจะต้องฝากให้ ตำรวจจราจรที่รับผิดชอบในพื้นที่ และ ขสมก. ให้เรียกเจ้าของรถผู้ประกอบการมาว่ากล่าวตักเตือนให้พนักงานขับรถขับด้วยความมีมารยาทและระเบียบวินัยในการขับรถพร้อมทั้งรักกฎจราจรให้ดีกว่านี้

 

** มีชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในซอยหมู่บ้านกรีนวิลล์ พุทธมณฑลสาย2  แขวงศาลาธรรมสพน์ เขตทวีวัฒนา ร้องเรียนมาว่า ไฟฟ้าก่อนถึงทางเข้าหมู่บ้านไม่ค่อยสว่าง ผู้คนที่อาศัยอยู่ในหมู่บ้านนี้เกรงถึงความไม่ปลอดภัยจากมิจฉาชีพ และเรื่องราวของการขับขี่ยวดยานพาหนะ  ฝากให้หน่วยงานที่รับผิดชอบมาช่วยตรวจสอบ และดำเนินการแก้ไขให้ด้วย

 

 

** มีชาวบ้านที่อาศัยอยู่จังหวัดมหาสารคาม ร้องเรียนมาเป็นจำนวนมากว่า ในจังหวัดนี้ยาเสพติดระบาดอย่างหนักแล้วก็ยังเต็มไปด้วยบรรดาโจรผู้ร้ายที่คอยสร้างความเดือดร้อนให้ชาวบ้านมาตลอด แถมซ้ำยังมีพวกทำตัวเป็นอันธพาลคอยรังแกชาวบ้านผู้สุจริตธรรม เรื่องนี้คงต้องฝากให้ พล.ต.ต. ดิเรก จิตอร่าม ผบก. ภ. จว. มหาสารคาม มีคำสั่งเป็นลายลักษณ์อักษรไปยังทุก สภ. ให้ขยันเอาจริงเอาจังในการกวาดล้างยาเสพติด โจรผู้ร้ายและอันธพาลทั้งหลายด้วย

 

** เช่นเดียวกับผู้ที่อาศัยอยู่ในจังหวัดสระบุรี ก็มีการร้องเรียนมาตลอดว่า พื้นที่นี้ยาเสพติดเกือบทุกประเภทระบาดอย่างหนัก ก็ยังมีพวกขี้ยากลายเป็นโจรผู้ร้ายที่คอยก่อความเดือดร้อน ฝาก พล.ต.ต. ชยานนท์ มีสติ ผบก. ภ. จว. สระบุรี นายตำรวจน้ำดีเรียกผู้ใต้บังคับบัญชาทุกโรงพักมาประชุมเพื่อทำการวางแผนในการปราบปรามยาเสพติด และบรรดาโจรผู้ร้ายให้ราบคาบไปเลย

 

** ชาวบ้านและบรรดาพ่อค้าแม่ค้าทั้งหลายร้องเรียนมาว่า มีแก๊งเงินกู้นอกระบบที่คิดดอกเบี้ยแพงมหาโหด ถ้าหากว่าขาดการส่งเงินแค่วันสองวันก็จะมาให้ลูกน้องเป็นพวกกุ๊ยสถุนมาทำร้ายบรรดาลูกหนี้อย่างทารุณกรรม ถ้าอย่างนั้นคงต้องฝากให้ พล.ต.ต. วรณัน สุขเจริญ ผบก. ภ. จว. กาญจนบุรี มีคำสั่งเป็นลายลักษณ์อักษรให้ผู้ใต้บังคับบัญชา ทุก สภ. ให้ทำการปราบปรามและจับกุมแก๊งปล่อยเงินกู้นอกระบบดอกเบี้ยโหด และก็บรรดาลิ่วล้อที่คอยทำร้ายลูกหนี้อย่างทารุณโหดเหี้ยมให้นำไปดำเนินคดีให้ถึงที่สุด

 

ศ.ดร.สุรพล นิติไกรพจน์ ประธานกรรมการบริหาร โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ รับมอบเงิน 200,000 บาท จาก ปสันน์ เทพรักษ์ อุปนายกสมาคมรัฐศาสตร์แห่งมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ ซึ่งทางสมาคมฯ และเครือข่ายได้ร่วมกันบริจาคสมทบให้แก่โรงพยาบาลสนามธรรมศาสตร์ เพื่อสนับสนุนภารกิจการรักษาโรคโควิด-19 พร้อมมอบอาหารสร้างขวัญและกำลังใจให้แก่บุคลากรทางการแพทย์ ที่ โรงพยาบาลสนามธรรมศาสตร์ รังสิต

 

** ผู้ใช้รถใช้ถนนร้องเรียนมาเป็นประจำว่า ถนนเจริญนคร มีผู้ขับขี่ยวดยานพาหนะขับด้วยความเร็วและประมาท โดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยของผู้อื่น ฝาก พ.ต.อ. ฉัฐกิตติ์ ผดุงจันทน์ธนัย ผกก. สน. สำเหร่ มีคำสั่งไปยังตำรวจจราจรทุกนายให้เข้มงวดในการตรวจตราและจับกุมรถที่ขับด้วยความประมาทให้จริงจังด้วย

 

** “ไมโครโฟน” เป็นลูกค้าประจำของ ร้านติ่ง ลาบเป็ดยโสธร ซึ่งเป็นร้านอาหารอีสารในระดับตำนาน ที่มีอาหารเอร็ดอร่อยมากมาย ซึ่งตั้งอยู่ถนนเจริญเวียง สีลม เขตบางรัก กทม. เจ้าของร้านฝากบอกมาว่า ช่วงนี้ขอความร่วมมือจากลูกค้าประจำและไม่ประจำทั้งหลายให้ซื้อกลับไปกินที่บ้านเพื่อป้องกันโรคระบาดของโควิด-19 ร้านจะเริ่มขายตั้งแต่เวลา 15.00น. ทุกวัน ไม่มีวันหยุด

 

 

** “ร่วมมือร่วมใจผนึกพลังกันต่อสู้กับโรคโควิด-19 ให้หมดไปจากเมืองไทย”

 

** โลหิตยังขาดแคลนอย่างหนัก โปรดร่วมใจกันไปบริจาคโลหิตที่สภากาชาดไทยได้กุศลแรง

 

ไมโครโฟน