วันพุธ ที่ 24 เมษายน พ.ศ. 2567 07:02 น.

อื่นๆ » คอลัมน์

แม่ลิ้นจี่พาชิม

แม่ลิ้นจี่ : วันพฤหัสบดี ที่ 25 เมษายน พ.ศ. 2562, 15.18 น.

.. แวะชิม “ข้าวแช่ชาววัง” อิ่มอร่อยต้อนรับฤดูร้อน ..

.. แวะชิม “ข้าวแช่ชาววัง” อิ่มอร่อยต้อนรับฤดูร้อน ..

 

เมื่อถึงเดือนเมษาฯหน้าร้อนของทุกปีทำให้เรานึกถึงเทศกาล “สงกรานต์” หรือวันขึ้นปีใหม่ของชาวไทยมาแต่โบร่ำโบราณ ถ้าจะนับย้อนกลับไปในสมัยต้นกรุงรัตนโกสินทร์ ชาวมอญที่เข้ามาตั้งรกรากอยู่ในประเทศไทยได้นำวิธีการทำข้าวแช่หรือที่ชาวมอญเรียกกันว่า “เปิงด๊าดจ์” เข้ามาสู่เมืองไทย ซึ่งคำว่าเปิงแปลว่าข้าว ส่วนคำว่าด๊าดจ์นั้นแปลว่าน้ำ รวมความก็คือข้าวกับน้ำ ซึ่งเป็นอาหารต้นตำรับของ “ข้าวแช่ชาวบ้าน” ที่สืบทอดกันมาตั้งแต่เมื่อครั้งที่ชาวมอญอาศัยอยู่ยังกรุงหงสาวดี

 

 

ซึ่งการทำข้าวแช่นั้นจะนิยมทำกันในช่วงเดือนเมษายนซึ่งตรงกับเทศกาลสงกรานต์ ที่ชาวมอญจะนำข้าวแช่ตั้งแถวเป็นขบวนแห่ไปถวายพระยังวัดในชุมชนที่ตนอาศัยอยู่ ที่เหลือจากทำบุญก็จะนำมารับประทานกันเองในครอบครัว ซึ่งต่อมามีสาวชาวมอญได้มีโอกาสเข้ารับราชการในวังจึงได้นำวิธีการทำข้าวแช่มาเผยแพร่ จนมีการปรับปรุงเครื่องเคียงเพิ่มเติมและจัดแต่งรูปลักษณ์หน้าตาของข้าวแช่อย่างสวยงามเพื่อนำขึ้นโต๊ะเสวย จนกลายเป็นที่มาของ “ข้าวแช่ชาววัง”

 

 

 

และเมื่อถึงเดือนเมษายนกันทั้งที “แม่ลิ้นจี่” จะขอชักชวนท่านผู้อ่านให้พากันแวะไปรับประทาน “ข้าวแช่ชาววัง” ซึ่งรวมอยู่ในบุฟเฟ่ต์อาหารนานาชาติมื้อกลางวันที่ “โรงแรม ดิ เอมเมอรัลด์ กรุงเทพฯ” หลายท่านอาจจะตั้งคำถามในใจว่าทำไม่ต้องมาที่นี่ ก็เพราะในหนึ่งปีเราจะลิ้มลองได้เพียงครั้งเดียวในเทศกาลข้าวแช่ชาววัง ตั้งแต่วัน 1-30 เมษายน เท่านั้น และเพราะว่าเขาทำเพียงปีละครั้งนี่เอง “คุณสุวรรณา สุดสวย” หัวหน้าครัวไทยของที่นี่จึงต้องพิถีพิถันในการปรุงเพื่อไม่ให้ทุกท่านผิดหวัง ไม่ว่าจะเป็นรสชาติของเครื่องเคียงนานาชนิด อีกทั้งยังต้องสลักเสลาผักผลไม้อย่างวิจิตรบรรจงให้สมกับเป็นอาหารตำรับชาววัง

 

 

และในวันนี้ “แม่ลิ้นจี่” เลยถือโอกาสนำพาเด็กรุ่นใหม่ทั้ง 4 คน ได้แก่ น้องชมพู น้องโบอิ้ง น้องอาย น้องแป้งร่ำ สวมใส่ชุดไทยย้อนยุคมาลองลิ้มชิมรสชาติข้าวแช่ชาววัง และบรรยายความเป็นมาของอาหารไทยโบราณเพื่อเป็นเกร็ดความรู้ให้รับทราบ แทนที่จะทานเป็นแต่ พิซซ่า สปาเก็ตตี้ บิงซู ฯลฯ

 

 

 

 

การทำข้าวแช่นั้นเขาจะนำข้าวสารเก่ามาขัดผิวจนหมดยาง ก่อนนำไปหุงสุกแค่พอเป็นเม็ดร่วนไม่ชื้นแฉะ เวลาจะรับประทานจึงตักเติมน้ำที่อบด้วยดอกมะลิหอมกรุ่นเติมด้วยน้ำแข็งเล็กน้อยพอให้เย็นชื่นใจคลายร้อน ทานคู่กับสารพัดเครื่องเคียงซึ่งมีทั้ง ลูกกะปิชุบไข่ทอด พริกหยวกสอดไส้พันด้วยไข่อย่างสวยงาม หอมแดงสอดได้ทอด หมูฝอยรสหวานกรอบ หัวไชโป๊ผัดหวานจนเส้นมันวาววับ ทานแกล้มกับผักและผลไม้สดที่แกะสลักมาอย่างสวยงามจนแทบไม่กล้าจะกลืนกิน เช่น แตงกวา มะม่วงดิบ กระชาย พริกชี้ฟ้า ใส่ไว้ในภาชนะลายครามสวยหรูน่ารับประทาน โดยวิธีการทานข้าวแช่ที่ถูกต้องนั้นเราจะตักเครื่องเคียงทานก่อน จากนั้นจึงตักข้าวแช่ที่อยู่ในน้ำทานตามทีหลัง เราจะไม่นิยมตักเครื่องเคียงใส่ลงในชามเพราะจะทำให้น้ำขุ่นออกกลิ่นคาวกลบกลิ่นหอมของดอกมะลิ ซึ่งข้าวแช่ชาววังนี้จะรวมอยู่ในบุฟเฟ่ต์นานาชาติมื้อกลางวัน ในราคาท่านละ 680 บาท++ ตั้งแต่เวลา 11.30-14.30 น. หรือจะสั่งมาทานแต่เฉพาะข้าวแช่ก็ราคาเพียงชุดละ 350 บาท++

 

 

 

แต่ถ้ามากันไม่ทันวันที่ 30 เมษายนปีนี้ ก็ยังมีบุฟเฟ่ต์อาหารนานาชาติมื้อกลางวันให้เราได้ลิ้มลองกันอีกมากมายทั้งอาหารไทย ยุโรป เอเชีย ที่หมุนเวียนเปลี่ยนรายการกันทุกวันไม่จำเจ ส่วนบุฟเฟ่ต์อาหารนานาชาติมื้อค่ำ ตั้งแต่เวลา 18.00-23.00 น. นอกจากจะมีอาหารให้เลือกลิ้มลองกันมากมายแล้วที่คออาหารทะเลไม่ควรพลาดก็ยังมี “ซีฟู้ดออนไอซ์” ด้วยก้ามปูอลาสก้า หอยนางรม กั้งกระดาน หอยแมลงภู่นิวซีแลนด์ กุ้งแม่น้ำ ฯลฯ พร้อมด้วยน้ำจิ้มซีฟู้ดรสเจ็บจี๊ดจ๊าด และยังมี “ข้าวต้มรอบดึก” ที่มีบริการทั้งข้าวต้มแดง ข้าวต้มขาว ข้าวต้มเผือก ข้าวต้มปลากะพง พร้อมด้วยเครื่องเคียงสารพัดอย่าง

 

 

 

นอกจากนี้ก็ยังมี “มุม Carving Station 7 วัน 7 อย่าง” หมุนเวียนมาให้ชิมทั้ง 7 วันแบบไม่อั้น อาทิ ปลาแซลมอนอบนึ่งมะนาว ซี่โครงแกะอบโรสแมรี่ หมูคุโรบุตะอบคาจูนสมุนไพร เนื้อวัวริบอายอบสมุนไพรไทม์ บาร์บีคิวเนื้อและไส้กรอกต่างๆ ปลากะพงอบไวน์ขาว หมูกรอบตุ๋นและอบหนังกรอบกับซอสฮอยซิน ในราคารวมบุฟเฟ่ต์เพียงท่านละ 780 บาท++ หรือจะสั่งเป็นโปรโมชั่นสุดคุ้ม บุฟเฟ่ต์นานาชาติรวมซีฟู้ดออนไอซ์พร้อม “ล็อบสเตอร์ย่างซอสเนยกระเทียม” ในราคาตัวละ 1,400 บาท (จากราคาปกติ 1,760 บาท++) หรือสั่งเพิ่มราคาเพียงตัวละ 980 บาท++ พร้อมด้วยน้ำอัดลมที่ดื่มกันได้แบบไม่อั้นเพียงท่านละ 60 บาท++

ตอนนี้ก็เหลือเวลาอีกเพียงหนึ่งสัปดาห์ที่เราจะได้ลิ้มลอง “ข้าวแช่ชาววัง” รีบโทรมาจับจองโต๊ะหรือสอบถามเพิ่มเติมกันได้ที่ 0-2276-4567 ต่อ 8413-4 นะคะ