วันเสาร์ ที่ 20 เมษายน พ.ศ. 2567 05:07 น.

กิจกรรม

พช.จัดแข่งสวดมนต์หมู่สรรเสริญพระรัตนตรัยปลูกจิตสำนึกเยาวชน

วันศุกร์ ที่ 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563, 20.14 น.

อธิบดี พช.เปิดโครงการปลูกจิตสำนึกสู่เยาวชน การประกวดสวดมนต์หมู่สรรเสริญพระรัตนตรัยทำนองสรภัญญะ

วันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2563 นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย เป็นประธานเปิดงานโครงการปลูกจิตสำนึกสู่เยาวชน ในการประกวดสวดมนต์หมู่สรรเสริญพระรัตนตรัย ทำนองสรภัญญะ และมอบโล่รางวัลพระราชทาน และประกาศเกียรติคุณของ นายอำพล เสนาณรงค์ องคมนตรี ในสมัยรัชกาลที่ 9 เป็นรางวัลชมเชยแก่นักเรียนที่เข้าประกวดทั้ง 19 แห่ง พร้อมเงินสนับสนุนการศึกษาให้กับนักเรียนและเยาวชน  ซึ่งจัดขึ้นโดยพระปัญญาวิสุทธิโมลี เจ้าคณะอำเภอเมืองฉะเชิงเทรา(ธ) ร่วมกับ เทศบาลตำบลสนามชัยเขต และบริษัทพนัสวิศวกรรมและบริหารก่อสร้าง จัดขึ้น มีนางสาวฉัตรประอร นิยม พัฒนาการจังหวัดฉะเชิงเทรา พร้อมด้วยผู้บริหารสถานศึกษา คณะครู อาจารย์ นักเรียนและผู้บริหารท้องถิ่น จากจังหวัดฉะเชิงเทราและจังหวัดชลบุรี  เข้าร่วมพิธีเป็นจำนวนมาก

โดยนายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน กล่าวว่า การจัดการประกวดสวดมนต์หมู่สรรเสริญพระรัตนตรัยทำนองสรภัญญะ เป็นกุศโลบายที่ดี ที่ใช้เสริมสร้างความสามัคคี ได้ใช้สติที่มั่นคงแน่วแน่ และให้เยาวชนได้เป็นส่วนหนึ่งช่วยเผยแผ่ศาสนาพุทธ เป็นต้นแบบที่ดีให้กับน้อง ๆ รุ่นต่อไป และยังเป็นอนาคตที่ประเทศชาติพึ่งพาได้ ช่วยเป็นการประกันได้ว่าประเทศชาติจะเจริญก้าวหน้ามั่นคง ได้โดยมีพระพุทธศาสนาเป็นเครื่องกำกับ อีกทั้งช่วยให้เยาวชนมีเครื่องช่วยยึดเหนี่ยวจิตใจ พร้อมชักจูงชักนำความประพฤติที่ดีอยู่ในศีลธรรม อันจะส่งผลต่อการเสริมสร้างพื้นฐานจิตใจที่ดีแก่เยาวชน ดังนั้นโครงการประกวดนี้เป็นโครงการที่ดีที่ควรจะได้รับการสนับสนุน ให้มีต่อไป

อีกทั้งงานในครั้งนี้ ทำให้ได้เห็นถึงความร่วมมือร่วมใจในการบูรณาการการทำงาน ร่วมกันระหว่างวัด โรงเรียน ราชการและผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง โดยเฉพาะผู้บริหาร ครู อาจารย์และนักเรียนผู้ปกครอง ที่ได้ช่วยกันทำความดี ทะนุบำรุงพระพุทธศาสนา ทุ่มเททั้งกำลังกาย กำลังความคิด และสติปัญญาอย่างเต็มกำลังความสามารถ เพื่อพระพุทธศาสนา เพื่อสังคมส่วนรวม และประเทศของเรา

สำหรับเยาวชนและนักเรียนที่ได้รับการชื่นชมยกย่องและได้รางวัลในวันนี้ ขอให้ทุกคนพึงระลึกว่ารางวัลที่ได้รับในครั้งนี้ แสดงถึงความดีและความสามารถของพวกเราและขอให้รักษาความดีให้คงอยู่อย่างยั่งยืน มั่นคงตลอดไป อีกทั้งขอให้นักเรียน เยาวชน โรงเรียนและสำนักเขตพื้นที่การศึกษาทุกแห่งได้ น้อมนำพระราโชบายของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีที่ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าๆ พระราชทานโล่รางวัลชนะเลิศจำนวน 2 รางวัล แก่นักเรียนและเยาวชนในวันนี้ ในการรักษา สืบสาน ต่อยอดและขยายผล ในการเผยแผ่พระพุทธศาสนาและการสร้างความดีให้เกิดขึ้นในบ้านเมืองนี้ ควบคู่กับการสร้างวิชาความรู้ในวงการศึกษาให้สามารถนำมาใช้ประโยชน์ในการพัฒนาประเทศชาติและบ้านเมืองต่อไป

“สุดท้ายนี้อยากจะฝากให้ช่วยกันดำรง สืบสานพระพุทธศาสนาให้อยู่เป็นเครื่องกำกับ ให้ทุกคนใช้ชีวิตอย่างไม่ประพฤติชั่ว ประกอบแต่กรรมดี และมีจิตใจที่บริสุทธิ์ดีงาม ขอขอบคุณทุกท่านที่ได้ร่วมจัดทำโครงการดีๆแบบนี้” อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชนกล่าว

พระปัญญาวิสุทธิโมลี เจ้าคณะอำเภอเมืองฉะเชิงเทรา (ธ) เปิดเผยว่า นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ ที่สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พระราชทานโล่รางวัลชนะเลิศ จำนวน 2 รางวัลให้แก่นักเรียนและเยาวชนที่ชนะเลิศระดับมัธยมศึกษาและประถมศึกษา  รวมทั้งประกาศเกียรติคุณของ นายอำพล  เสนาณรงค์ องคมนตรีในสมัยรัชกาลที่ 9 เป็นรางวัลชมเชยแก่นักเรียนที่เข้าประกวดทั้ง 19 แห่งด้วย ซึ่งผลจากการประกวดสวดมนต์ทั้ง 19 ทีม   ปรากฏว่า นักเรียนจากโรงเรียนพนัสพิทยาคาร  ชนะเลิศระดับมัธยมศึกษาและโรงเรียนวัดเขาเชิงเทียน วนาราม สังกัด อบจ.ชลบุรี ชนะเลิศระดับประถมศึกษา นอกจากนี้ จากการที่ร่วมกับชาวบ้านขายขนมหวาน 50 กล่อง  รวมกับที่นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชนบริจาคร่วมอีก 10,000 บาท รวมเป็นยอดเงินส่วนนี้ 23,650 บาท และยอดเงินบริจาคจากผู้มีจิตศรัทธาในงาน อีกจำนวน 40,000 บาท ซึ่งจะรวบรวมให้ครบ จำนวน 100,000 บาท ทูลเกล้าฯถวาย สมเด็จพระกนิษฐาราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารี เพื่อเฉลิมพระเกียรติ ในวันคล้ายวันพระราชสมภพ 2 เมษายน 2563 เพื่อสมทบทุนมูลนิธิอานันทมหิดล

กิจกรรมดังกล่าวเป็นความร่วมมือ ร่วมใจกัน ระหว่างบ้าน วัด โรงเรียนหรือมีคำย่อว่า “บวร” เพื่อให้กิจกรรมอันเกี่ยวกับศาสนาพุทธเกิดขึ้น เป็นการจรรโลงพระพุทธศาสนา โดยดึงเยาวชนเข้ามามีส่วนร่วม และขอขอบคุณผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกๆฝ่าย ที่ได้จัดกิจกรรมครังนี้  ถือได้ว่าเป็นการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา ให้พุทธศาสนิกชนยึดมั่นในหลักธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้า และขอให้รักษา สืบสาน ต่อยอดและขยายผลการเผยแผ่ศาสนาพุทธ ให้ควบคู่กันไปกับการเรียนรู้ในแวดวงการศึกษาให้สามารถนำไปใช้ประโยชน์ในการพัฒนาประเทศชาติและบ้านเมืองต่อไป

“การสวดฉันท์ทำนองสรภัญญะมีมานานตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 4 ก่อนหน้านั้นนิยมสวดฉันท์ภาษาบาลี มีเนื้อหาเกี่ยวกับพระพุทธศาสนา และผู้สวดส่วนใหญ่เป็นพระสงฆ์ ทำนองสรภัญญะไม่แพร่หลายนัก ต่อมา พระยาศรีสุนทรโวหาร (น้อย อาจารยางกูร) ป.ธ.8 องคมนตรีและเจ้ากรมพระอาลักษณ์ในรัชกาลที่ 5 แปลบทสรรเสริญคุณต่าง ๆ เป็นฉันท์ภาษาไทย เรียก "คำนมัสการคุณานุคุณ" มี 5 ตอน คือ บทสรรเสริญพระพุทธคุณ บทสรรเสริญพระธรรมคุณ บทสรรเสริญพระสังฆคุณ บทสรรเสริญมาตาปิตุคุณ และบทสรรเสริญอาจาริยคุณตามลำดับ บทประพันธ์นี้ได้รับความนิยมมากที่สุดในปัจจุบัน ใช้สวดกันโดยทั่วไป และเนื่องจากบาทแรกเริ่มว่า "องค์ใดพระสัมพุทธ" จึงมักเรียว่า "บทสวดองค์ใดพระสัมพุทธ" นอกจากบทสรรเสริญพระรัตนตรัยแล้ว ทำนองสรภัญญะยังใช้สวดคาถาบทอื่นอีก เช่น บทแปลคาถาพาหุงซึ่งเป็นพระราชนิพนธ์ของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ซึ่งเริ่มว่า "ปางเมื่อพระองค์ปฐมพุทธ"

หน้าแรก » กิจกรรม