วันพฤหัสบดี ที่ 25 เมษายน พ.ศ. 2567 09:18 น.

กทม-สาธารณสุข

จี้รัฐหยุดต่ออายุรถตู้12 ปีปรับใช้มินิบัสยุติอุบัติเหตุสยองซ้ำซาก

วันอังคาร ที่ 20 สิงหาคม พ.ศ. 2562, 13.40 น.

จี้รัฐหยุดต่ออายุรถตู้12 ปี
ยุติอุบัติเหตุสยองซ้ำซาก

เครือข่ายเหยื่ออุบัติเหตุ-เครือข่ายพัฒนาคุณภาพชีวิต จี้กระทรวงคมนาคม คุมเข้มปัญหาอุบัติเหตุรถตู้ ยุติต่ออายุรถตู้ถึง12 ปี ถึงเวลาเปลี่ยนเป็นมินิบัส คืนความปลอดภัยให้คนโดยสารรถสาธารณะ

วันนี้ (20 สิงหาคม) เวลา10.00 น. ที่กระทรวงคมนาคม นายเจษฎา แย้มสบายประธานเครือข่ายเหยื่อเมาแล้วขับ มูลนิธิเมาไม่ขับ กรุงเทพฯ พร้อมด้วยนางสาวเครือมาศ ศรีจันทร์ ผู้ประสานงานเครือข่ายพัฒนาคุณภาพชีวิต และภาคีเครือข่ายลดอุบัติเหตุ กว่า 30 คน ยื่นจดหมายเปิดผนึกถึง นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ผ่านทาง นายสุชาติ โชคชัยวัฒนากร ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เพื่อเรียกร้องให้มีมาตรการด้านความปลอดภัยรถตู้โดยสารสาธารณะ ภายหลังเกิดเหตุสลด รถตู้พุ่งชนรถพ่วงที่จังหวัดสระแก้ว ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตถึง 11 คน บาดเจ็บ 4 คน

นายเจษฎา แย้มสบายประธานเครือข่ายเหยื่อเมาแล้วขับ มูลนิธิเมาไม่ขับ กรุงเทพฯ กล่าวว่า หลังเหตุการณ์โศกนาฎกรรมบ้านบึง ที่รถตู้ข้ามไปชนปิกอัพช่วงปีใหม่ 2560 จนมีผู้เสียชีวิต 25 ศพ ทำให้มีมาตรการต่างๆออกมาต่อเนื่อง ทั้งการใช้ GPS เข้มงวดกับความเร็วไม่เกิน 90 กม/ชม.และควบคุมพนักงานขับรถห้ามขับต่อเนื่องเกิน 8-10 ชม./วัน รวมถึงมาตรการจำกัดอายุรถตู้ห้ามเกิน 10 ปี และจะทยอยเปลี่ยนเป็นรถมินิบัสแทน ถือเป็นมาตรการที่ดีๆทั้งสิ้น แต่ล่าสุดมีข่าวว่ากระทรวงคมนาคมได้ยอมถอย เลื่อนอายุใช้งานรถตู้ไปอีก 2 ปี และเปลี่ยนมาเป็นมินิบัสแบบสมัครใจ ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าเสียดายยิ่ง ในฐานะของผู้เป็นเหยื่ออุบัติเหตุทางถนนถือว่าเป็นเรื่องที่ไม่น่าจะเกิดขึ้นเลย

“ข้อมูลจากศูนย์วิจัยอุบัติเหตุแห่งประเทศไทย ระบุว่าสาเหตุหลักของการเกิดอุบัติเหตุรถตู้โดยสารมาจากการใช้ความเร็วของผู้ขับขี่ เพราะต้องวิ่งทำรอบ หรือเป็นพฤติกรรมส่วนตัวในการขับรถเร็ว แตกต่างกับมินิบัสที่สามารถทำความเร็วหรือการแซงได้ช้ากว่ารถตู้ ดังนั้นอุบัติเหตุรถตู้จึงเกี่ยวข้องกับยานพาหนะโดยตรง เมื่อเกิดการชนเกิดขึ้น ถังน้ำมันและท่อน้ำมัน ซึ่งอยู่ข้างหน้าจะแตกทำให้เกิดประกายไฟลุกไหม้ ผู้โดยสารที่กำลังอยู่ในสภาพที่บาดเจ็บอยู่แล้วจึงไม่สามารถหลบหนีออกจากเปลวเพลิงได้ ขณะที่มินิบัสเมื่อเกิดอุบัติเหตุ ผู้โดยสารมีโอกาสรอดชีวิตมากกว่า เนื่องจากมีพื้นที่ภายในมากกว่า จึงอยากให้กระทรวงคมนาคมทบทวนเรื่องรถตู้สาธารณะให้ดีๆ ไม่ควรมีมาตรการที่ถอยหลังลงคลอง” นายเจษฎา กล่าว

ด้านนางสาวเครือมาศ กล่าวว่า จากเหตุรถตู้รับจ้างเอกชน เสียหลักพุ่งชนรถพ่วง 18 ล้อ ทำให้ผู้โดยสารที่นั่งมาในรถตู้บาดเจ็บและเสียชีวิตดังกล่าว เครือข่ายขอแสดงจุดยืนและมีข้อเสนอดังต่อไปนี้ 1.มาตรการที่มุ่งเน้นลดอุบัติเหตุ ถือเป็นสิ่งที่ดีและควรดำเนินการ ไม่ว่าจะเป็นการติด GPS เพื่อกำกับความเร็ว ชั่วโมงทำงานเกินกำหนด การตรวจวัดแอลกอฮอล์ ฯลฯ แต่มาตรการสำคัญควบคู่กันคือ เกิดเหตุแล้วทำอย่างไรไม่เสียชีวิต ซึ่งการนำรถที่โครงสร้างแข็งแรง ไม่เกิดเพลิงลุกไหม้ง่าย สามารถช่วยเหลือผู้โดยสารได้รวดเร็ว ฯลฯ จึงเป็นคำตอบที่ไม่ควรจะมองข้าม 2.ในเส้นทางระยะไกลเช่น กทม.-ต่างจังหวัด จำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องมีรถประจำทางและระบบกำกับที่ปลอดภัย จึงไม่ควรเลื่อนอายุใช้งานรถตู้จาก 10 ปี เป็น 12 ปี และไม่ควรเปลี่ยนเป็นมินิบัสแบบสมัครใจ มาตรการด้านความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของผู้โดยสารไม่ควรถูกทำให้ถอยหลัง หรือย่ำอยู่กับที่ ควรมุ่งเน้นมาตรการช่วยเหลือเยียวยาผู้ประกอบการตามความเหมาะสมเป็นกรณีๆไปเท่านั้น 3.ควรเร่งพัฒนาระบบตรวจสอบประวัติการดูแลรักษา การเปลี่ยนอะไหล่ตามกำหนดมีมากน้อยเพียงใด มีการตรวจสภาพเข้มงวดก่อนอนุญาตอย่างเข้มงวด มีการตรวจทุก 6 เดือน รวมทั้งการสุ่มตรวจบนถนนด้วย และ 4.กำกับพฤติกรรมขับขี่ของคนขับรถสาธารณะ ให้ปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด ไม่ขับเร็วเร่งทำรอบ ไม่ดื่มแอลกอฮอล์ การพักผ่อนน้อยต้องไม่มี และเจ้าหน้าที่รัฐต้องตรวจสอบรถและคนขับรถทุกคน อย่างเข้มงวด ไม่มีการละเว้น บังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง เพื่อความปลอดภัยของผู้โดยสารทุกคน

หน้าแรก » กทม-สาธารณสุข