โรงพยาบาลกรุงเทพอินเตอร์‘Smart Hospital’ภายใต้แนวคิด ‘ทุกการรักษาคือศิลปะ’ 

บริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด(มหาชน) หรือ BDMS ทุ่มงบ 3,800 ล้านบาท เปิด โรงพยาบาลกรุงเทพอินเตอร์เนชั่นแนล (Bangkok International Hospital หรือ BIH) ภายใต้แนวคิด ‘ทุกการรักษาคือศิลปะ’ ผสานศิลปะเข้ากับวิทยาศาสตร์ทางการแพทย์ขั้นสูง เพื่อประสบการณ์และความพึงพอใจอีกระดับของการดูแลสุขภาพแบบองค์รวมสร้างสุขจากภายในสู่ภายนอก ขับเคลื่อนองค์กรให้ก้าวสู่การเป็นศูนย์กลางทางการรักษา และให้การบริการทางการแพทย์ชั้นนำระดับภูมิภาค ชู ‘People’ หรือบุคลากรสหสาขาวิชาชีพ เป็นตัวขับเคลื่อนองค์กรให้แข็งแกร่ง และยั่งยืน เน้นความชำนาญในสาขาวิชาชีพเฉพาะทาง โดยยึด ‘ความพึงพอใจสูงสุดของผู้ป่วย’ เป็นหัวใจสำคัญ ตอบโจทย์การดูแลรักษาแบบองค์รวมโดยให้ผู้ป่วยเป็นศูนย์กลาง พร้อมด้วยการออกแบบการบริการแบบเฉพาะราย ให้ผู้รับบริการสามารถเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้กับตนเอง ในราคาที่สมเหตุสมผล  พร้อมมุ่งมั่นก้าวสู่โรงพยาบาล ‘Smart Hospital’  ชั้นนำในภูมิภาคเอเชียตอบโจทย์โลกดิจิทัลอย่างแท้จริง

นายไมเคิล เดวิด มิตเชลล์ ผู้อำนวยการ โรงพยาบาลกรุงเทพอินเตอร์เนชั่นแนล กล่าวว่า จากประสบการณ์กว่า 47 ปี ของ BDMS โรงพยาบาลกรุงเทพอินเตอร์เนชั่นแนล หรือ BIH เกิดขึ้นจากความมุ่งมั่นตั้งใจที่จะยกระดับ พัฒนาคุณภาพการบริการและการรักษาอย่างต่อเนื่องอย่างไม่หยุดยั้ง เปิดให้บริการการรักษาด้านโรคสมองและระบบประสาท โรคกระดูกและข้อ และโรคกระดูกสันหลัง โดยทีมแพทย์และสหสาขาวิชาชีพที่มีประสบการณ์สูงและมีความชำนาญ เทคโนโลยีเครื่องมือทางการแพทย์ขั้นสูงเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและความปลอดภัยแล้วยังช่วยลดผลข้างเคียงจากการรักษา พร้อมให้การดูแลโดยยึดผู้ป่วยเป็นศูนย์กลาง  โดยชูแนวคิดสร้างให้เป็นโรงพยาบาล “Smart Hospital” ด้วยระบบการสั่งยาโดยแพทย์ทางคอมพิวเตอร์ และการใช้เวชระเบียนอิเล็กทรอนิกส์  (Electronic Medical Records) ระบบ Smart ICU ในการดูแลผู้ป่วยวิกฤต ระบบการควบคุมภายในห้องพักอัตโนมัติ(In-room Automation System) รวมไปถึงแอปพลิเคชัน My B+ บนมือถือเพื่อเพิ่มการเข้าถึงข้อมูลการรักษาและบริการต่าง ๆ ฯลฯ ผสานกับประสบการณ์การบริการเทียบโรงแรมระดับ 5 ดาวเข้าไว้ด้วยกัน โรงพยาบาลกรุงเทพอินเตอร์เนชั่นแนลถือเป็นวิวัฒนาการขั้นสูงด้านการดูแลสุขภาพแบบองค์รวม ผมจึงมั่นใจว่าทุกคนที่เข้ามาใช้บริการโรงพยาบาลของเรา จะได้สัมผัสกับอีกระดับของประสบการณ์ในการดูแลสุขภาพ เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีอย่างยั่งยืน

โรงพยาบาลกรุงเทพอินเตอร์เนชั่นแนล ผสมผสานศิลปะเข้ากับเทคโลยีในการรักษา ออกแบบตกแต่งอย่างสวยงาม มีการจัดแสดงงานศิลปะ  ภาพงานศิลปะบนผนังในทุกมุมของโรงพยาบาล และพื้นที่สีเขียวทำให้รู้สึกผ่อนคลาย เปรียบเสมือนกับโรงพยาบาลที่ผสมผสานความเป็นโรงแรมระดับ 5 ดาวเข้าไว้ด้วยกัน เป็นโรงพยาบาลขนาด 172 เตียง  5 ห้องผ่าตัด และ 1 ห้อง Intervention Suite  โดยในห้องพักผู้ป่วยทุกห้องจะมีหน้าต่างบานใหญ่ที่เปิดรับแสงธรรมชาติและสร้างสภาพแวดล้อมแห่งการรักษา ผู้ป่วยสามารถเข้าถึงบริการทางการแพทย์และบริการบัตเลอร์ Butler (ผู้ดูแลส่วนตัว) จากห้องพักและบริเวณต่าง ๆ ทั่วทั้งโรงพยาบาลได้ตลอด 24 ชั่วโมง

นอกจากนี้ โรงพยาบาลกรุงเทพอินเตอร์เนชั่นแนลยังใช้เทคโนโลยีขั้นสูงเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการรักษา และลดผลข้างเคียงจากการรักษา อาทิ หุ่นยนต์เอกซเรย์แขนกล ARTIS Pheno เป็นการผ่าตัดด้วยระบบหุ่นยนต์คอมพิวเตอร์ ที่ให้ภาพ 3 มิติที่มีความละเอียด คมชัดสูง เพื่อให้การผ่าตัดแผลเล็กสำหรับโรคกระดูกและข้อเป็นไปอย่างแม่นยำ ถูกต้อง และป้องกันผลข้างเคียงจากการรักษา, ห้องผ่าตัดอัจฉริยะไฮบริด (Hybrid OR) – ห้องผ่าตัดอัจฉริยะไฮบริดเป็นนวัตกรรมห้องผ่าตัดที่ผสมผสาน imaging system เช่น เครื่องซีทีสแกน (CT) และ เครื่องสแกนสนามแม่เหล็กไฟฟ้า (MRI) เข้ากับระบบนำวิถี (Navigation system) และเครื่องมือผ่าตัดอื่นๆ ไว้ในห้องผ่าตัดห้องเดียว, Biplane Interventional Suite – ห้องผ่าตัดสำหรับโรคสมองและหลอดเลือด ที่ติดตั้ง angiogram ช่วยให้เห็นภาพของระบบประสาทและหลอดเลือดแบบ 3 มิติ นอกจากนี้ยังมีเครื่องมือติดตามการทำงานของระบบประสาทขณะผ่าตัด, เครื่องสแกนสนามแม่เหล็กไฟฟ้า 3 เทสลา (3-Tesla MRI scan) – เป็นเทคโนโลยีก้าวหน้าของเครื่องสแกนสนามแม่เหล็กไฟฟ้าที่มีความเข้มของสนามแม่เหล็กระดับ 3 เทสลา สามารถให้ภาพที่มีคุณภาพสูง ช่วยเพิ่มการมองเห็นของอวัยวะต่างๆ รวมถึงเนื้อเยื่อ กระดูกและโครงสร้างภายในร่างกายอย่างละเอียด กายภาพบำบัดด้วยเครื่องหุ่นยนต์ฝึกเดิน (Robot-assisted gait training: RAGT) เน้นการฝึกเคลื่อนไหวและควบคุมกล้ามเนื้อ สำหรับผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองหรือระบบความผิดปกติทางระบบประสาทอื่นๆ เป็นต้น

นพ. นันทศักดิ์ ทิศาวิภาต Chief Faculty สถาบันแห่งความเป็นเลิศด้านสมองและผู้อำนวยการศูนย์สมองและระบบประสาท(ศัลยกรรมประสาท) กล่าวว่า ในปัจจุบัน ผู้คนมีแนวโน้มอายุยืนยาวมากขึ้นจากนวัตกรรมต่างๆ ทางการแพทย์ แต่ยังคงเผชิญกับความเสื่อมจากสภาวะแวดล้อม การใช้ชีวิต หรือยารักษาโรค จึงควรต้องหมั่นตรวจสอบสุขภาพเป็นประจำเพื่อป้องกัน หรือรักษาให้ระบบประสาทและสมองยังคงใช้งานได้อย่างปกติแม้ว่าอายุจะสูงขึ้น การตรวจเน้นที่ตัวบุคคล Neuro Imagine โดยบุคลากรทางการแพทย์ที่มีประสบการณ์ เพื่อให้ผลการตรวจถูกต้อง และการรักษาแบบองค์รวม หรือ Integrated comprehensive neurological care service จากบุคลากรทางการแพทย์หลายฝ่ายร่วมมือกัน เรายกระดับการรักษาผู้ป่วยโรคสมองและระบบประสาทที่ครอบคลุมทุกโรค พร้อมด้วยเทคนิคการตรวจวินิจฉัยที่แม่นยำ และวางแผนการรักษาให้ตรงจุดกับแต่ละบุคคล รวมทั้งส่งเสริมให้ประชาชนมีความตระหนักใส่ใจในการดูแลสุขภาพโดยเฉพาะสมองและระบบประสาทให้มีประสิทธิภาพที่ดีและยืนยาว ทั้งนี้ เพื่อให้ผู้ป่วยมีคุณภาพชีวิตที่ดีอย่างยั่งยืน ถือเป็นเป้าประสงค์หลักที่สำคัญของโรงพยาบาลกรุงเทพอินเตอร์เนชั่นแนล

นพ. สุทร บวรรัตนเวช Chief Faculty สถาบันแห่งความเป็นเลิศออโธปิดิกส์และผู้อำนวยการใหญ่อาวุโสศูนย์กระดูกและข้อ กล่าวว่า ศูนย์กระดูกและข้อ เราเน้นให้บริการด้วยทีมแพทย์ที่มีความชำนาญเฉพาะทางด้านกระดูกและข้อ ข้อเข่าและข้อสะโพก มีห้องผ่าตัดออกแบบมาตรฐานระดับสากล ตลอดจนเทคโนโลยีการวินิจฉัยและการรักษาที่ทันสมัยและมีประสิทธิภาพสูง เป็นศูนย์ที่บุกเบิกในโรงพยาบาลเอกชนโดยนำหุ่นยนต์เอกซเรย์แขนกล (ARTIS pheno) เป็นเทคโนโลยีหุ่นยนต์เอกซเรย์ที่ใช้รังสีฟลูโอโรสโคป ทั้งแบบ 2 มิติและ 3 มิติ แสดงภาพที่มีความละเอียดสูงมาใช้ในการผ่าตัดกระดูกและข้อแบบแผลเล็ก ช่วยวางแผนการรักษาในขณะผ่าตัดได้อย่างตรงจุด ภายใต้การดูแลแบบ “Comprehensive  Bone and Joint Care”  ทำให้เชื่อมั่นและไว้วางใจได้ว่าทีมแพทย์จะนำเสนอวิธีการรักษาที่ดีที่สุด  เพื่อให้คนไข้กลับไปมีคุณภาพชีวิตที่ดี พร้อมใช้ชีวิตในแบบที่ต้องการได้โดยเร็ว

นพ.สาริจฉ์  ศรีสุภาพ ผู้อำนวยการศูนย์โรคกระดูกสันหลังและศัลยแพทย์กระดูกสันหลัง กล่าวว่า ศูนย์โรคกระดูกสันหลัง ให้บริการรักษาโรคและความผิดปกติที่เกี่ยวกับกระดูกสันหลังอย่างครบครัน โดยมุ่งเน้นการหาสาเหตุของอาการปวดและการวินิจฉัยความผิดปกติของกระดูกสันหลังถือเป็นขั้นตอนที่สำคัญ เพื่อหาแนวทางในการรักษาให้ตรงจุด ใช้การรักษาแบบ Customized Treatment for Individual Patient เพื่อการดูแลผู้ป่วยเฉพาะราย โดยคำนึงถึงจิตใจและคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยเป็นสำคัญ พร้อมนำนวัตกรรมเพิ่มประสิทธิภาพการตรวจรักษา เช่น การเอกซเรย์แบบสองมิติ (EOS) เครื่องเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ O-Arm ร่วมกับเครื่องนำวิถี (Stealth Navigation System) และเครื่องมอนิเตอร์ระบบประสาท IOM (Intraoperative Monitoring) การรักษาอาการปวดแบบอินเตอร์เวนชั่น (Comprehensive interventional Spine and Pain Management) โดยมีทีมสหสาขาวิชาชีพที่ชำนาญการเฉพาะทาง และบุคลากรเฉพาะทางด้านกระดูกสันหลังอื่นๆ ภายใต้การรับรองในระดับสากลจาก Joint Commission International (JCI) ประเทศสหรัฐอเมริกา

ภายในงานยัง ได้รับเกียรติจาก คุณญาญ่า-อุรัสยา เสปอร์บันด์ มาร่วมแชร์ประสบการณ์เคล็ดลับการดูแลสุขภาพอย่างไร ให้มีความสดใสและสุขภาพที่ดีจากภายในสู่ภายนอก​ ช่วยสร้างคุณภาพชีวิตให้ดียิ่งขึ้นในสไตล์ญาญ่า​ เพื่อพร้อมสำหรับการทำงานในทุกวัน​ นอกจากนี้ยังมีคำแนะนำดีๆ​ ​จากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านกระดูกและข้อ สมองและระบบประสาท และกระดูกสันหลัง​