วันศุกร์ ที่ 19 เมษายน พ.ศ. 2567 19:24 น.

กทม-สาธารณสุข

“พันธ์ยศ” ชู ”สุขภาพไทยดีทั่วหน้า” ขอปักธง “ผู้ว่าฯ กทม.”

วันอังคาร ที่ 14 กรกฎาคม พ.ศ. 2563, 15.08 น.

“พันธ์ยศ” ชู ”สุขภาพไทยดีทั่วหน้า” ประกาศปักธง “ผู้ว่าฯ กทม.” พร้อมต่อยอดการสร้างสุขภาวะที่ดีให้คนไทยทั่วหน้าทั้งประเทศ

นายพันธ์ยศ อัครอมรพงศ์ อดีตประธานยุทธศาสตร์พรรคภราดรภาพและประธานสถาบันพัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการไทย-จีน กล่าวถึงสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 ว่าขอให้สังคมอย่าตื่นตระหนกกรณีนายทหารและบุตรของคณะทูตจากกลุ่มประเทศแอฟริกาติดเชื้อไวรัสตัวนี้ในพื้นที่ จ.ระยองและกทม.นั้น ขอให้เฝ้าระวังตัวเองและทำตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด

อย่างไรก็ตาม หากนับยอดรวมของอเมริกา บราซิล และอินเดีย ซึ่งเป็น 3 อันดับแรกของโลกจะพบว่ามีจำนวนเคส ติดเชื้อถึง 45 % ของจำนวนผู้ติดเชื้อทั้งหมดในโลก และมีจำนวนผู้เสียชีวิตรวมกันราว 40 % ของจำนวนผู้เสียชีวิตทั้งหมดในโลก ทวีปอเมริกาเหนือและใต้และเอเชีย มีภาวะการระบาดที่รุนแรงขึ้นเรื่อยๆ และคาดว่าน่าจะมีจำนวนมากขึ้นไปอีก หลังจากหลายประเทศประกาศปลดล็อคให้ดำเนินชีวิตตามปกติหรือใกล้เคียงปกติ

นายพันธ์ยศ กล่าวว่า ตนเห็นด้วยกับข้อความข้างต้นเพราะตนลงพื้นที่หลายแห่งในการนำหน้ากากอนามัย ถุงมืออนามัยและเจลล้างมือรวมทั้งอุปกรณ์ทางการแพทย์ไปมอบให้ส่วนราชการ สถานพยาบาล โรงเรียน ชุมชน และอื่นๆพบว่าแม้ประชาชนตื่นตัวแต่ข้อเท็จจริงบางส่วนที่พบคือ ส่วนราชการบางแห่ง เช่น เรือนจำ , ค่ายทหารที่ต้องรับทหารเกณฑ์ผลัดใหม่ ,โรงเรียนบางแห่งยังขาดอุปกรณ์การตรวจและป้องกันไวรัสโควิด-19 ตรงนี้อยากกระตุ้นรัฐบาลให้เร่งตรวจสอบและส่งอุปกรณ์ทางการแพทย์ไปให้ครอบคลุมด้วยและตนพร้อมไปช่วยเหลืออีกทางหนึ่ง

ตอนนี้ต่างชาติต้องการถุงมือและหน้ากากอนามัยเพิ่ม แม้เเต่ผู้นำสหรัฐฯที่เคยบอกว่าไม่ใส่หน้ากากอนามัย แต่ตอนนี้ยอมใส่เเล้วและยอดผู้ป่วยและเสียชีวิตในหลายประเทศยังไม่ชะลอตัว แสดงว่าไวรัสตัวนี้ยังส่งผลกระทบกับทุกชาติแม้รัฐบาลไทยจะได้รับคำชมเชยจากหลายประเทศว่าควบคุมการระบาดของไวรัสตัวนี้ได้ดีแต่ก็ประมาทไม่ได้ ดังนั้นสิ่งที่ตนเคยเสนอนโยบายสุขภาวะที่ควรเป็นวาระหลักของชาตินั้นมีสาระสำคัญว่า “สุขภาพไทยดีทั่วหน้าตลอดไป“ นั้น คนอยากขับเคลื่อนนโยบายนี้อย่างจริงจัง โดยตอนนี้บางส่วนในสังคมได้หารือกับตนถึงการผลักดันเรื่องนี้โดยจะนำร่องกับสนามท้องถิ่นก่อนเเล้วค่อยขยับขึ้นไปเป็นนโยบายระดับชาติ

นายพันธ์ยศ กล่าวว่ารัฐบาลระบุว่าปลายปีนี้น่าจะมีเลือกตั้งท้องถิ่น ตนสนใจสนามผู้ว่าฯ กทม.และจะนำนโยบายสุขภาวะนำเสนอต่อชาว กทม.ทั้งระบบ คือ การป้องกันและควบคุมโรคระบาดเดิมและอุบัติใหม่ การดูแลสุขภาวะประชาชนอย่างครอบคลุม การรักษาและปรับปรุงสิ่งแวดล้อมที่หลายส่วนยังถูกละเลยและเป็นบ่อเกิดของเชื้อโรค รวมทั้งการหารายได้จากระบบการแพทย์แผนไทยและอาหารไทยที่ป้องกันโรคและสร้างสุขภาพที่ดีในระยะยาวต่อคนไทยและคนต่างชาติ

“ผมดำเนินธุรกิจด้านสุขภาพมาแล้ว ประสบการณ์ตรงนี้จะเสนอชุดความคิดกับสังคมต่อไป หากรัฐบาลมีความชัดเจนเกี่ยวกับการเลือกตั้งท้องถิ่น โดยสนาม กทม.จะเป็นจุดเริ่มต้นในการผลักดันและขยายในจังหวัดอื่นๆต่อไปเพื่อสร้างชื่อเสียงให้ประเทศ” นายพันธ์ยศกล่าวทิ้งท้าย

หน้าแรก » กทม-สาธารณสุข