สธ.เด้งหัวหน้าด่านควบคุมโรคติดต่อสนามบินอู่ตะเภา เซ่นทหารอียิปต์ติดโควิด-19 เพ่นพล่านเมืองระยอง

นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค เปิดเผยว่าได้ตั้งคณะกรรมการเพื่อสืบข้อเท็จเหตุการณ์ทั้งกรณีทหารอียิปต์ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 และคณะออกนอกพื้นที่ และกรณีเด็กหญิงวัย 9 ปี ลูกอุปทูตซูดานที่ติดเชื้อโควิด-19 แต่ไม่ได้เข้าไปสังเกตอาการในสถานกักกันโรคที่รัฐจัดให้ รวมทั้งได้มีคำสั่งให้ย้ายหัวหน้าด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศและผู้ปฏิบัติงานทั้งหมดที่สนามบินอู่ตะเภาออกไปก่อน พร้อมกับให้บุคลากรจากสำนักงานป้องกันควบคุมโรค (สคร.) ที่ 6 จ.ชลบุรี ไปทำหน้าที่แทนแล้ว

ส่วนผลการสอบสวนโรคกรณีของทหารชาวอียิปต์ และลูกเรือ รวม 31 ราย ที่เดินทางออกนอกพื้นที่โรงแรมใน จ.ระยองในกลุ่มผู้สัมผัสเสี่ยงสูง 11 ราย เป็นแม่บ้านของโรงแรม จำนวน 7 ราย พนักงานขับรถ จำนวน 4 ราย รู้ผลการตรวจหาเชื้อทางห้องปฏิบัติการ (แล็บ) แล้วว่า ทุกรายไม่มีการติดเชื้อโควิด-19 รวมถึงผลตรวจเชื้อล็อตแรกเมื่อวานนี้ 1,333 คน จำนวน 416 คนพบว่า ผลเป็นผลลบ ไม่มีใครติดเชื้อ COVID-19 ส่วนที่เหลือจะทยอยมีรายงานผลออกมาขณะเดียวกันยังได้นำรถพระราชทานลงไปเพิ่มที่ จ.ระยองเพิ่มอีก 4 คัน โดยจะตรวจคัดกรองต่อเนื่อง 14 วันจนถึงวันที่ 27 ก.ค.นี้

ด้านการยกระดับการบริหารจัดการ เมื่อลงไปตรวจสอบมีความชัดเจนในเหตุการณ์ 2 ประเด็น คือ 1.การฝ่าฝืนมาตรการของทหารอียิปต์และ 2.โรงแรมที่พำนักไม่มีระบบควบคุมไม่ให้ออกนอกสถานที่ หรือไม่ให้ฝ่าฝืนมาตรการที่เป็นไปตามราชการกำหนดได้อย่างดีพอ จึงกำหนดให้เลขาคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดระยองดำเนินการจัดการให้ทุกโรงแรม หรือสถานที่กักกันโรคฯ ดำเนินการใน 3 เรื่องอย่างเข้มงวด ได้แก่ 1.ด้านบริหารจัดการ จะต้องมีผู้ตัดสินใจหรือมีผู้บัญชาการเหตุการณ์ ในการควบคุมหากมีคนที่จะต้องเข้ามากักกัน 2.ด้านความปลอดภัย ความมั่นคง จะมีระบบควบคุมให้ผู้ถูกกักกันต้องทำตามกฎหมายหรือมาตรการอย่างเคร่งครัด และ 3.ด้านการแพทย์และสาธารณสุข เน้นเรื่องการป้องกันควบคุมโรคอย่างเข้มงวด