กทม-สาธารณสุข
จับมือภาคีเครือข่ายพัฒนากลุ่มเด็กปฐมวัยยากจนในสถานพัฒนาเด็กปฐมวัยและเด็กปฐมวัยนอกระบบในกรุงเทพมหานคร
วันอังคาร ที่ 22 กันยายน พ.ศ. 2563, 15.52 น.
ติดตามข่าวด่วน กระแสข่าวบน Facebook คลิกที่นี่
จับมือภาคีเครือข่ายพัฒนากลุ่ มเด็กปฐมวัยยากจนในสถานพัฒนาเด็ กปฐมวัยและเด็กปฐมวั ยนอกระบบในกรุงเทพมหานคร
พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานพิธีเปิดโครงการและร่ วมแถลงข่ าวโครงการการขยายผลและพั ฒนาความช่วยเหลือกลุ่มเด็กปฐมวั ยยากจนในสถานพัฒนาเด็กปฐมวั ยและเด็กปฐมวัยนอกระบบในกรุ งเทพมหานคร โดยมี รศ.นพ.อดิศักดิ์ ผลิตผลการพิมพ์ ผู้อำนวยการสถาบันแห่งชาติเพื่ อการพัฒนาเด็กและครอบครัว มหาวิทยาลัยมหิดล นายพัฒนะพงษ์ สุขมะดัน ผู้ช่วยผู้จัดการกองทุนเพื่ อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) ร่วมแถลงข่าว นายสกลธี ภัททิยกุล รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร นายเฉลิมพล โชตินุชิต ผู้อำนวยการสำนักพัฒนาสังคม นางงามตา รอดสนใจ ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายเชื่ อมโยงเครือข่ายสถาบันแห่งชาติ เพื่อการพัฒนาเด็กและครอบครัว มหาวิทยาลัยมหิดล นางสาวนิสา แก้วแกมทอง ผู้อำนวยการสำนักพัฒนานวั ตกรรมการเรียนรู้เชิงพื้นที่ กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึ กษา (กสศ.) พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร ข้าราชการ และเจ้าหน้าที่สำนักพัฒนาสังคม ผู้อำนวยการเขต หัวหน้าฝ่ายพัฒนาชุมชนและสวัสดิ การสังคม 50 สำนักงานเขต อาสาสมัครผู้ดูแลเด็กจากศูนย์พั ฒนาเด็กก่อนวัยเรียนกรุ งเทพมหานคร จำนวน 292 คน และเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้อง รวมทั้งสิ้น 500 คน ร่วมพิธี ณ ห้องประชุมบางกอก อาคารไอราวัตพัฒนา ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร 2 เขตดินแดง
กรุงเทพมหานคร โดยสำนักพัฒนาสังคม ร่วมกับสถาบันแห่งชาติเพื่ อการพัฒนาเด็กและครอบครัว มหาวิทยาลัยมหิดล และกองทุนเพื่ อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) ได้ดำเนินโครงการการขยายผลและพั ฒนาความช่วยเหลือกลุ่มเด็กปฐมวั ยยากจนในสถานพัฒนาเด็กปฐมวั ยและเด็กปฐมวัยนอกระบบในกรุ งเทพมหานคร เพื่อพัฒนาและส่งเสริม สนับสนุน และยกระดับศักยภาพของศูนย์พั ฒนาเด็กก่อนวัยเรียนกรุ งเทพมหานคร ให้มีขีดความสามารถในการดู แลและส่งเสริมพัฒนาการให้แก่เด็ กปฐมวัยที่มีความเปราะบางให้ได้ รับการพัฒนา ทั้งนี้จากผลการสำรวจของโครงการ MICS5 ในปี พ.ศ. 2559 มีเด็กอายุ 3-4 ปี ร้อยละ 84.7 กำลังเรียนในหลักสูตรปฐมวัย ซึ่งแสดงให้เห็นว่าครอบครัวมี การส่งเสริมเด็กให้เข้าเรียนตั้ งแต่ปฐมวัย เพื่อส่งเสริมพัฒนาการ และเตรียมความพร้อมมากขึ้น อย่างไรก็ตามข้อมูลเหล่านี้มั กไม่ครอบคลุมกลุ่มเด็กพิเศษ เด็กพิการ รวมทั้งกลุ่มเด็กเปราะบางทางสั งคมที่ไม่ได้อยู่ในการสำรวจ ซึ่งกลุ่มนี้เป็นกลุ่มเสี่ยงที่ ควรมีการจัดกระบวนการดูแลสุ ขภาวะและพัฒนากระบวนการเรียนรู้ การศึกษาของ Isaranurug S. และคณะ ชี้ให้เห็นว่าการศึกษาของมารดา รายได้ครอบครัว ภาวะวิกฤตในครอบครัว และการอบรมเลี้ยงดูของบิ ดามารดามีความสัมพันธ์กับพั ฒนาการเด็กอายุ 1-5 ปี ท่ามกลางสถานการณ์การเพิ่มขึ้ นของเด็กและเยาวชนที่มี ความเปราะบาง พบว่าปัจจุบันการจัดบริ การสาธารณะเพื่อส่งเสริมและพั ฒนาคุณภาพชีวิตของเด็ กและเยาวชนที่มีความเปราะบางหรื อที่มีความต้องการพิเศษยั งขาดกลไกและบุคลากรที่มีความรู้ ทักษะ ประสบการณ์และความเชี่ ยวชาญในการดูแลและส่งเสริมพั ฒนาการของเด็กกลุ่มนี้ อีกทั้งขาดมาตรฐานในการดู แลและส่งเสริมพัฒนาการให้แก่เด็ กและเยาวชนที่ความต้องการพิ เศษด้านการเรียนรู้เหล่านี้ จึงจำเป็นต้องอาศัยความร่วมมื อจากหน่วยงานที่มีความรู้ ประสบการณ์ และความเชี่ยวชาญเฉพาะทางวิ ชาการ ในการให้ความช่วยเหลือ ตลอดจนยกระดับองค์กรปกครองส่ วนท้องถิ่นเพื่อเสริมสร้างศั กยภาพในการดูแลและส่งเสริมพั ฒนาการให้แก่เด็กและเยาวชนที่มี ความต้องการพิเศษด้านการเรียนรู้
สำหรับศูนย์พัฒนาเด็กก่อนวัยเรี ยนกรุงเทพมหานคร จำนวน 292 ศูนย์ มีเด็กจำนวน 22,713 คน (ปี 2562) ซึ่งเด็กปฐมวัยเหล่านี้อาศัยอยู่ ใน 45 เขต กว่า 2,000 ชุมชน โดยส่วนใหญ่สถานะทางเศรษฐกิ จและสังคมของครอบครัวเด็กกลุ่ มนี้มักเป็นกลุ่มครัวเรือนยากจน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเด็กปฐมวัยที่ รับบริการในศูนย์พัฒนาเด็กก่ อนวัยเรียน ซึ่งตั้งอยู่ในชุมชนและดำเนิ นงานในรูปของคณะกรรมการภายใต้ การควบคุมดูแลของคณะกรรมการชุ มชน กรุงเทพมหานครสนับสนุนการดำเนิ นงานตั้งแต่ปี พ.ศ.2527 เป็นต้นมา และผู้ดูแลเด็กจะดำเนินงานในรู ปแบบของอาสาสมัคร โดยกรุงเทพมหานครสนับสนุ นงบประมาณค่าอาหารกลางวั นและอาหารเสริม (นม) (20 บาทต่อคน ต่อวัน) ค่าตอบแทนอาสาสมัคร(ตามวุฒิ การศึกษา) และค่าสนับสนุนกิจกรรมการเรี ยนการสอน (100 บาทต่อคน ต่อปี) นอกจากนี้ ข้อมูลของกระทรวงศึกษาธิการพบว่ า มีเด็กปฐมวัยในกรุงเทพมหานคร อายุ 3-5 ปี ที่อยู่นอกระบบการศึกษา (ไม่ได้เข้ารับบริการในสถานพั ฒนาเด็กปฐมวัย) จำนวนกว่า 13,000 คน ซึ่งยังไม่รวมประชากรแฝง ได้แก่ เด็กปฐมวัยที่ติดตามครอบครัวเข้ ามาอยู่อาศัยและประกอบอาชี พในกรุงเทพมหานคร ดังนั้น หากค้นหา คัดกรอง และสามารถนำเด็กกลุ่มดังกล่าว กลับเข้ารับบริการในศูนย์พั ฒนาเด็กก่อนวัยเรียนกรุ งเทพมหานคร จะช่วยเตรียมความพร้อมและลดอั ตราการไม่เข้าศึกษาต่อในชั้ นประถมศึกษาปีที่ 1 ได้เป็นอย่างมาก
เสนอ 7 ผลลัพท์ ลดความเหลื่อมล้ำ ของโอกาสในการเข้าถึงบริ การทางการศึกษาที่มีคุณภาพ
โครงการการขยายผลและพัฒนาความช่ วยเหลือกลุ่มเด็กปฐมวั ยยากจนในสถานพัฒนาเด็กปฐมวั ยและเด็กปฐมวัยนอกระบบในกรุ งเทพมหานคร ดำเนินการโดยมีวัตถุประสงค์เพื่ อให้ความช่วยเหลือและบรรเทาอุ ปสรรคในการเข้ารับบริการในศูนย์ พัฒนาเด็กก่อนวัยเรียนของเด็ กปฐมวัยในครอบครัวยากจนและเด็ กปฐมวัยที่ยังไม่ได้เข้ารับบริ การควบคู่ไปกับการพัฒนาคุ ณภาพและศักยภาพของผู้ดูแลเด็กศู นย์พัฒนาเด็กก่อนวัยเรียน เพื่อส่งเสริมให้เด็กปฐมวั ยในกรุงเทพมหานคร ได้รับการเตรียมความพร้อมก่ อนเข้าเรียนในระดับประถมศึกษา และลดความเหลื่อมล้ำ ของโอกาสในการเข้าถึงบริ การทางการศึกษาที่มีคุณภาพ ซึ่งผลลัพธ์จากการดำเนินโครงการ มีดังนี้ 1.กลุ่มเด็กปฐมวัยยากจนในสถานพั ฒนาเด็กปฐมวัย ได้รับความช่วยเหลือไม่น้อยกว่า 1,000 คน และเด็กปฐมวัยนอกระบบในกรุ งเทพมหานคร ได้รับความช่วยเหลือให้ สามารถเข้ารับบริการในศูนย์พั ฒนาเด็กก่อนวัยเรียน หรือโรงเรียนอนุบาลได้อย่ างเหมาะสม ไม่น้อยกว่า 1,000 คน 2.ศูนย์พัฒนาเด็กก่อนวัยเรี ยนของชุมชนกรุงเทพมหานคร ได้รับการพัฒนาให้มีคุณภาพเพิ่ มขึ้น ตามมาตรฐานสถานพัฒนาเด็กปฐมวั ยแห่งชาติเป็นเกณฑ์ขั้นต่ำ อย่างน้อย 250 ศูนย์ 3.สถานการณ์และบทวิเคราะห์เพื่ อการขยายผลและพัฒนาความช่วยเหลื อกลุ่มเด็กปฐมวัยยากจนในสถานพั ฒนาเด็กปฐมวัย และเด็กปฐมวัยนอกระบบในกรุ งเทพมหานคร 4.แนวทางและ/หรือคู่มือการช่ วยเหลือเด็กปฐมวัยยากจนในสถานพั ฒนาเด็กปฐมวัย และเด็กปฐมวัยนอกระบบในเขตกรุ งเทพมหานคร 5.แนวทางการทำงานรวมกับชุมชน และครอบครัวผู้ดูแลเด็กปฐมวั ยยากจนในสถานพัฒนาเด็กปฐมวัย และเด็กปฐมวัยนอกระบบในเขตกรุ งเทพมหานคร 6.แนวทางการขยายผลการดำเนิ นงานเพื่อช่วยเหลือเด็กปฐมวั ยยากจนในสถานพัฒนาเด็กปฐมวัย และเด็กปฐมวัยนอกระบบในเขตกรุ งเทพมหานคร และ 7.ข้อเสนอเชิงนโยบายเพื่อรองรั บขยายผลและพัฒนาความช่วยเหลื อกลุ่มเด็กปฐมวัยยากจนในสถานพั ฒนาเด็กปฐมวัยและเด็กปฐมวั ยนอกระบบในกรุงเทพมหานคร
ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า กรุงเทพมหานคร หวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะเห็นถึ งความสำเร็จที่เกิดขึ้ นจากการทำงานระหว่างทุกภาคส่ วนที่เกี่ยวข้อง ทั้งครอบครัว พ่อแม่ ในพื้นที่ 45 สำนักงานเขต ในศูนย์พัฒนาเด็กก่อนวัยเรี ยนกรุงเทพมหานคร จำนวน 292 ศูนย์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง สามารถวัดผลได้ที่ตัวเด็กที่มี พัฒนาการเหมาะสมตามวัย สุขภาพแข็งแรง ไม่ก่อให้เกิดความเหลื่อมล้ำ ทางสังคม อย่างไรก็ตามผู้เข้าร่วมประชุ มจะได้รับประโยชน์ และเป็นกำลังใจต่อผู้เกี่ยวข้ องกับการพัฒนาเด็กปฐมวัย สามารถบูรณาการการทำงานร่วมกั นเพื่อเด็กปฐมวัยที่อยู่ ในระบบและนอกระบบได้จริง โดยได้นำวิธีปฏิบัติที่ดี จากการปฏิบัติจริง มาแลกเปลี่ยนเรียนรู้กัน ให้เห็นเชิงประจักษ์ โดยมีนักวิชาการและผู้ทรงคุณวุ ฒิเป็นพี่เลี้ยงร่วมเรียนรู้ ไปพร้อมกัน โดยได้รับการสนับสนุนอย่างดียิ่ งจากกองทุนเพื่ อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) คาดหวังว่าโครงการนี้ จะประสบความสำเร็จตามเป้ าหมายเป็นประโยชน์ต่อการพั ฒนาเด็กปฐมวัยยากจนเป็นพื้ นฐานสำคัญนำไปสู่การพั ฒนาคนไทยที่มีคุ ณภาพโดยลดความเหลื่อมล้ำทางสั งคมตามเจตนารมณ์ของแผนยุ ทธศาสตร์ชาติ 20 ปี
ติดตามข่าวด่วน กระแสข่าวบน Facebook คลิกที่นี่
หน้าแรก » กทม-สาธารณสุข
ข่าวในหมวดกทม-สาธารณสุข
- รพ.หัวเฉียว ชวนร่วมส่งต่อพลังแห่งการให้ ด้วย.. การบริจาคโลหิต ดวงตาและอวัยวะ 22:25 น.
- กรมวิทย์ฯ เดินหน้าพัฒนาผลิตภัณฑ์ชุมชนให้ได้มาตรฐานอย่างต่อเนื่อง 14:36 น.
- “มปอ.” จับมือ “นครบาล” ประสานเครือข่าย ร่วมรณรงค์ลดอุบัติเหตุช่วงสงกรานต์ 13:20 น.
- ผู้จัดการ สสส.ย้ำมุ่งมั่นทำงานร่วมกับภาคีทุกภาคส่วนเพื่อลดอุบัติเหตุสงกรานต์ 21:38 น.
- เข้มสงกรานต์ “หมอแท้จริง” ชงรัฐบาลเพิ่มโทษจำคุกเมาแล้วขับ-ไม่รอลงอาญา 17:26 น.