แก๊งมอดไม้พ่นพิษ!
เด้ง6เสือโรงพักพุนพิน

แม่ทัพภาค 4 สั่งอายัดบ้านแก๊งมอดไม้หลังพบท่อนซุงกว่า 48 ท่อนกำลังขนขาย ขณะที่ผู้การฯสุราษฎร์สั่งเด้ง 6 เสือสภ.พุนพินช่วยราชการที่ภูธรจังหวัด

จากกรณีเมื่อวันที่  14 ม.ค. 62 ที่ผ่านมา ทหาร มทบ.45 ค่ายวิภาวดี กำลังฝ่ายปกครอง เจ้าหน้าที่ป่าไม้ กว่า 30 นายเข้าตรวจยึดตีตราท่อนซุงจำนวนกว่า 48 ท่อนในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ ม.9 ต.ตะกุกเหนือ อ.วิภาวดี จ.สุราษฎร์ธานี และพบว่าถูกบุกรุกแผ้วถางตัดโค่นต้นไม้เป็นบริเวณกว้างกว่า 5ไร่พร้อมทั้งมีการลักลอบตัดโค่นต้นไม้หวงห้ามไปจำนวนมาก จากการตรวจสอบพบตอไม้เนื้อแข็งขนาดใหญ่ที่มีเส้นรอบวงกว่า 3 เมตรถูกตัดโค่นไปอีกจำนวนหลายต้น  และยังพบว่ามีการใช้รถแบคโฮขุดหลุมฝังตอไม้ตะเคียนขนาดใหญ่อีกหลายตอเพื่อทำลายหลักฐาน  จนสร้างความไม่พอใจแก่แม่ทัพภาค 4 และผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานีเป็นอย่างมากจึงได้สั่งการให้สืบสวนขยายผลดำเนินการเอาผิดขั้นเด็ดขาดกับกลุ่มแก๊งมอดไม้แก๊งนี้เพื่อไม่ให้เป็นตัวอย่างต่อไป

ล่าสุดวันนี้นายสุทธิพงษ์ คล้ายอุดม รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี พลตรีมโนช จันทร์คีรี ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 45 ค่ายวิภาวดีรังสิต  ปลัดอำเภอวิภาวดีเจ้าหน้าที่ป่าไม้ ได้เข้าตรวจภายในบริเวณ วัดเกาะกลาง ม.2 ต.น้ำรอบ อ.พุนพิน จ.สุราษฎร์ธานี พบไม้ท่อนซุงและไม้แปรรูปแล้วจำนวนกว่า 300 แผ่น ต่อมาได้เข้าตรวจสอบบ้านไม่มีเลขที่ที่อยู่ในระหว่างก่อสร้างเป็นบ้านไม้ทั้งหลังขนาดมหึมาของนายยุทธนา พรหมวิเศษ  พบมีไม้แปรรูปจำนวนมากซุกซ่อนอยู่ใต้น้ำที่เป็นสระน้ำขนาดใหญ่ด้านหน้าบ้าน และจุดที่ 3 เจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจสอบบ้านไม่มีเลขที่ หมู่ที่ 4 บ้านไทรงาม ต.ท่าสะท้อน อ.พุนพิน  พบท่อนไม้ตะเคียนขนาดใหญ่ถูกนำมาทำเป็นเสาตัวบ้านจำนวน 31 ท่อน ซึ่งสภาพตัวบ้านเพิ่งเริ่มดำเนินการก่อสร้างยังไม่ได้มุงหลังคา นอกจากนั้นยังตรวจสอบพบว่าคูน้ำในร่องต้นปาล์มน้ำมันมีไม้แปรรูปจำนวนมากถูกซุกซ่อนอยู่ใต้น้ำ  จึงได้สั่งการให้มีการจัดกำลังเฝ้าดูแลรักษาของกลางไว้เพื่อป้องกันการสูญหาย

นายสุทธิพงษ์ คล้ายอุดม รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานีได้กล่าวจากการตรวจสอบทั้ง 3 จุดพบเป็นไม้ต้องสงสัยที่มาจากบริเวณที่เกิดเหตุจึงได้สั่งอายัดไว้เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไปตามคำสังแม่ทัพภาค 4 และคำสั่งนายวิชวุทย์ จินโต ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ถึงแม้ว่าเจ้าของบ้านหลังสุดท้ายจะเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจมียศถึง ร.ต.ท.ก็ไม่เป็นมวยล้ม

ทั้งนี้จากการสืบสวนทราบว่ามีข้าราชการตำรวจ น่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องในการสร้างบ้านจุดที่ 3 ดังนั้นเพื่อให้การตรวจสอบข้อเท็จจริงมีประสิทธิภาพและเกิดความยุติธรรม ทาง พล.ต.ต.อภิชาติ บุญศรีโรจน์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสุราษฎร์ธานี มีคำสั่งที่ 35/2562 ลงวันที่ 17 มกราคม 2562 แต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง  กรณีมีเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปเกี่ยวข้อง  กับการทำไม้ หรือปล่อยปละละเลยไม่สนใจในการสืบสวนปราบปรามจับกุม หรือ เป็นผู้บังคับบัญชาใกล้ชิดไม่กวดขันกำกับ

 
 ดูแลความประพฤติและพฤติกรรมข้าราชการตำรวจ และเพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายแก่ทางราชการรวมทั้งเพื่อให้การตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีดังกล่าวเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพจึงมีคำสั่งที่ 36/2562 ลงวันที่  17 มกราคม 2562ให้ 1.พันตำรวจเอกกฤศ โอสถาพันธ์ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรพุนพิน 2.พันตำรวจโท วิลาศ  ศรชัย รองผู้กำกับการป้องกันปราบปราม สถานีตำรวจภูธรพุนพิน3. พันตำรวจโท ศักราช  สาครไพศาล รองผู้กำกับการสืบสวน สถานีตำรวจภูธร พุนพิน4. พันตำรวจโท โอภาส สิงห์นุ้ย สารวัตรป้องกันปราบปราม สถานีตำรวจภูธรพุนพิน 5.พันตำรวจโทกู้เกียรติ หนูนิล สารวัตรสืบสวน สถานีตำรวจภูธรพุนพิน และ6.ร้อยตำรวจเอกปรีชา สมนุ่น รองสารวัตรป้องกันปราบปรามสถานีตำรวจภูธรพุนพิน ไปปฏิบัติราชการที่ ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจภูธรจังหวัด สุราษฎร์ธานี และมีคำสั่งมอบหมายให้ข้าราชการตำรวจที่มีความเหมาะสมรักษาราชการแทนในตำแหน่งดังกล่าวจนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง

จากกรณีดังกล่าว เป็นการจับกุมของหลายหน่วยมีทั้งทหารฝ่ายปกครอง ตำรวจ สำหรับกรณีที่อาจมีตำรวจมีส่วนร่วมรู้เห็นเกี่ยวข้องนั้น ทางตำรวจภูธรจังหวัดสุราษฎร์ได้ดำเนินการทางปกครองและอยู่ระหว่างตรวจสอบข้อเท็จจริงทั้งผู้มีชื่อเกี่ยวข้องและผู้บังคับบัญชาที่มีหน้าที่กำกับดูแลการกระทำผิดกฎหมายในพื้นที่ ตลอดจนความประพฤติของข้าราชการตำรวจในปกครองโดยละเอียด หากพบความบกพร่องหรือการกระทำผิดจะดำเนินการทั้งทางปกครอง วินัยและ อาญาอย่างเด็ดขาด