จับแล้ว!หนุ่มบุกแทงเจ้าของร้านโชห่วย
 

จากเหตุการณ์เมื่อช่วงบ่ายวันนี้ มีคนร้ายใช้อาวุธมีดบุกเข้าไปในร้านขายของชำทำร้าย นางสมศรี  มหาเขต อายุ 62 ปี แม่ค้าร้านขายของชำ ชื่อร้านป้าติ๋ม เลขที่ 143/3 หมู่ 1 ตำบลเชิงเนิน อำเภอเมือง จังหวัดระยอง ได้รับบาดเจ็บที่คอด้านซ้ายและมือด้านซ้าย  ขับขี่รถจักรยานยนต์หนีไป
     

ต่อมาเวลา 17.30 นาฬิกา พันตำรวจโท คำพันธ์  ขวัญทอง สารวัตรสืบสวนสถานีตำรวจภูธรเมืองระยอง พร้อมชุดสืบสวน สืบทราบว่าคนร้ายที่ก่อเหตุได้หลบหนีไปนอนพักอยู่ในอาคารเป็นห้องพักหลังโรงน้ำแข็ง พีพี ตั้งอยู่ ตำบลเชิงเนิน อำเภอเมือง จังหวัดระยอง
     

จึงนำกำลังไปที่เกิดเหตุพบคนร้ายนอนอยู่บนที่นอนไม้มีฟูกรอง จึงเข้จับกุม ทราบชื่อ นายนะธี  ทองวันไพร  อายุ 38 ปี บ้านเลขที่ 173 หมู่ 2 ตำบลบ้านใหม่สุขเกษม อำเภอกงไกรลาศ จังหวัดสุโขทัย  นายนะธี พอเห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจมีอาการตกใจกลัว สภาพยังมึนเมา พูดจาไม่รู้เรื่อง เจ้าหน้าที่ได้สอบถามว่าได้ก่อเหตุใช้มีดทำร้ายแม่ค้าร้านขายของชำร้านป้าติ๋มช่วงบ่ายที่ผ่านมาและได้เอามีดที่ใช้ก่อเหตุไปทิ้งไว้ที่ใด นายนะธี  บอกว่าไม่รู้จำไม่ได้  และไม่ยอมพูดอะไร  ข้างๆตัวผู้ต้องหาพบกระเป๋าสะพาย 1 ใบ ภายในมีเอกสาร และยังพบขวดเหล้าขาวเปล่า 40 ดีกรี อีกจำนวน 4 ขวด พบรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้ารุ่นเวฟ 110 สีแดง - ขาว หมายเลขทะเบียน คงม - 367 ระยอง ซึ่งเป็นรถจักรยานยนต์ที่ใช้ก่อเหตุจอดอยู่ หมวกกันน๊อคสีดำ 1 ใบวางอยู่ในตะกร้าหน้ารถจักรยานยนต์เจ้าหน้าที่ได้เก็บไว้เป็นหลักฐาน จึงได้พาไปค้นหาอาวุธมีดในที่เกิดเหตุแต่ไม่พบ 
     

จากการสอบถาม นายชาญ ทองวันไพร อายุ 60 ปี พ่อของ นายนะธี  ผู้ก่อเหตุ เล่าให้ฟังว่าบุตรชายชอบกินเหล้าขาวเป็นประจำและจะไปซื้อเหล้าขาวที่ร้านป้าติ๋ม  ขณะเกิดเหตุตนเองไม่ทราบว่าบุตรชายไปก่อเหตุแล้วเข้ามานอนหลับ  เนื่องจากตนเองก็ไปทำงานบุตรชายเคยทำงานหลายแห่งแต่ทำไม่ทน เดี๋ยวเข้าเดี๋ยวออกล่าสุดเคยทำอยู่บริษัทไออาร์พีซี จำกัด แต่ก็ออกแล้ว บางครั้งก็จะมานอนพักกับตนที่ห้องพักโรงน้ำแข็งพีพี บางครั้งก็ไปนอนบ้านแฟน แต่ไม่ทราบว่าอยู่ที่ใด ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าที่ทำไปไม่ทราบเนื่องจากเมาและอาวุธมีดที่ใช้ก่อเหตุตนจะพกไว้ในกระเป๋าสะพายเป็นประจำ  เบื้องต้นได้แจ้งข้อกล่าวหา  2 ข้อหา พยายามชิงทรัพย์ผู้อื่นเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายแก่กายและจิตใจ โดยใช้ยานพาหนะเพื่อการกระทำผิด หรือพาทรัพย์นั้นไปหรือให้พ้นในการจับกุม และ พกพาอาวุธมีดเข้าไปในเมืองหมู่บ้าน โดยไม่มีเหตุอันควร นำตัวดำเนินคดี