วันที่ 23 ต.ค. 62 ขณะที่ ร.ต.อ.วิฆเนศ ซื่อตรง รอง สวป.สภ.เมืองอุดรธานี นำกำลังสายตรวจอินทรีย์ออกตรวจพื้นที่รับผิดชอบ ได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุร่มโพธ์ทองว่า ที่ห้างทองเดือนอำไพ หน้าตลาดหนองบัว เลขที่ 79/14 ถ.นิตโย ตงหมากแข้ง เขตเทศบาลนครอุดรธานี มีชายวัยรุ่นอายุประมาณ 20-25ปี ผิวดำแดง รูปร่างผอม สูงประมาณ 170 ซ.ม. ตัดผมรองทรง สวมเสื้อกันหนาวสีเทาแขนยาวแบบมีหมวกคลุมด้านหลัง ทำทีเข้ามาเลือกซื้อแหวนทองและขอเลือกดูแหวนทองจำนวนหลายวงในร้านทอง แต่อาศัยช่วงที่จังหวะเจ้าของร้านทองเผลอหยิบแหวนทองเอาใส่ในกระเป๋าเสื้อกันหนาว

 

แต่เจ้าของร้านตาไว เห็นว่าลูกค้ารายนี้ยังไม่ส่งแหวนที่เลือกดูคืน จึงบอกไปว่าไม่ส่งแหวนทองคืนจะส่งตร. ดำเนินดำเนินคดี ไอ้หนุ่มมือไว จึงวางแหวนคืนให้ แต่ก่อนจะออกจากร้านไปได้ยกมือไหว้ขอโทษ ก่อนเดินออกไปข้างนอกอย่างรวดเร็วแล้ว ขี่รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อยามาฮ่าฟิโน่ สีเขียว ที่จอดไว้บนทางเท้าหน้าร้านของชำที่อยู่ติดกัน ขับหลบหนีไปทางสี่แยกสัญญาณไฟแดง ซอยกำนัน-ประชาสันติ ต่อมาเจ้าหน้าที่ตร.จึงออกไปตรวจสอบพร้อมด้วย ร.ต.อ.นิธิศ โชคบัณฑิต รอง สว.สส.สภ.เมืองอุดรธานี นำกำลังตำรวจสืบสวน พร้อมด้วย ด.ต.คมกฤษณ์ กกกลาง หน.เขตงานตลาดอุดรเมืองทองเจริญศรี เนื่องจากที่ร้านมีกล้องวงจรปิดบันทึกพฤติกรรมคนร้ายไว้ได้ แต่ยังไม่สามารถจับกุมคนร้ายได้

 

เจ้าหน้าที่ตร.สอบสวน นายสุรินทร์ จันทสุรียวิช อายุ 45 ปี เจ้าของห้างทอง ให้การว่า ขณะตนกำลังยืนอยู่หลังเคาน์เตอร์ภายในร้านที่มีกรงเหล์กแสตนเลส มีชายวัยรุ่นเดินเข้ามาขอเลือกดูแหวนทอง น้ำหนัก 1 สลึง ราคา 5,800 บาท ตนจึงหยิบแหวนลายกัดในตู้โชว์ออกมาให้ดู จำนวน 2 วง แต่คืนให้เพียง 1 วง ก่อนทำทีขอดูแหวนลายมังกรอีก 1 วง ตนก็หยิบให้ดูสักพักก่อนส่งกลับคืนมาให้ตน แล้วแสดงท่าทางมีพิรุธ เหมือนจะเดินออกจากร้าน ตนเองจึงพูดขู่ให้เอาแหวนทองลายกัด ที่ให้ดูครั้งแรกออกจากกระเป๋ามาคืน ไม่เช่นนั้นจะแจ้งตำรวจมาจับกุมตัว ทำให้ชายวัยรุ่นดังกล่าวหน้าถอดสี พร้อมกับล้วงกระเป๋าเอาแหวนทองส่งคืนให้ และยกมือไหว้พร้อมกับกล่าวคำขอโทษ ก่อนเดินออกไปจากร้านขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไปอย่างรวดเร็ว

 

เจ้าของร้านทองตาไว บอกอีกว่า ทีแรกก็ไม่คิดว่าจะไม่โทรศัพท์แจ้งตำรวจ แต่มาคิดอีกทีกลัวว่าคนร้ายจะไปก่อเหตุที่อื่น จึงตัดสินใจแจ้งตำรวจมาตรวจสอบ แต่ไม่ได้ติดใจเอาความ เพียงเพื่อให้ตำรวจมาเก็บภาพวงจรปิดไว้เป็นหลักฐานประวัติอาชญากรรม หากชายวัยรุ่นคนนี้ไปก่อเหตุที่ใด หรือมีพฤติกรรมเช่นนี้ และลงมือก่อเหตุสำเร็จ ตำรวจจะได้ใช้เป็นเบาะแสติดตามคนร้ายได้ และอีกเป็นการประชาสัมพันธ์ให้ร้านทองในตัวเมืองอุดรธานี ที่มีราว 100 แห่ง ได้เฝ้าระวังบุคคลในภาพนี้ด้วย