แก๊งป้ายยาอาละวาด!
แม่เฒ่าสูญเงินเฉียดแสน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผู้ใช้เฟซบุ๊ก รายหนึ่งโพสต์ ข้อความ ว่า ป้า ของเธอถูกหลอกโดยกลุ่มมิจฉาชีพทำงานเป็นขบวนการ ทำทีหลอกให้พาไปดูที่ดินที่มีคนอยากขาย จากนั้นก็มีนกต่อ มาทำทีจะซื้อที่ดินอีกแปลง อ้างว่ามีโฉนด จะแบ่งค่านายหน้าให้ จึงนำเงินเก็บ 90,000 บาท มาลงขันกันแล้วขับรถหายจ้อยไปกับตา จนตอนนี้ป้าของเธอทุกข์ใจมาก สาปแช่ง คนที่ทำทุกวัน เครียดจนกินนอนไม่หลับ โดยระหว่างทางมีการแตะเนื้อต้องตัว ไม่รู้ว่าจะถูกป้ายยาหรือไม่

จากนั้นเวลา 12.00 น. วันที่ 20 พ.ย. 2562 ผู้สื่อข่าวเดินทางไปพบ นางจำเริญ คำแผง อายุ 65 ปี ที่ตำบลดงคอน อ.สรรคบุรี จ.ชัยนาท เพื่อสอบถามรายละเอียดและเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ว่ามีความเป็นมาอย่างไร

นางจำเริญ คำแผง อายุ 65 ปี เผยว่า วันที่ 17 พ.ย. 2562 มีผู้ชายแปลกหน้า ผิวขาวสูง อายุประมาณ 60 ปี อ้างว่าชื่อ นายสมพงษ์ มาที่บ้านพูดคุยแล้วก็กลับไป จากนั้นวันที่ 18 พ.ย. ได้ขับรถโตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ สีดำ ยกสูง ทะเบียน 6615 มาจอดหน้าบ้าน พร้อมกับ ผู้ชาย 1 คน อ้างว่าเป็นตำรวจ และ ผู้หญิงอีก 1 คน เป็นนายหน้า หาซื้อที่ดิน จึงขึ้นรถพาไปดูที่ ตามจุดต่างๆ ในพื้นที่ อ.สรรคบุรี จากนั้นมีแวะรับชายอีกคน บอกว่าเป็นเจ้าของที่ดิน 28 ไร่ จะขายไร่ละ 200,000 บาท พร้อมติดต่อกับ ชายอีกคนที่อ้างว่าเป็นลูกเจ้าของโรงสี จะซื้อที่ดินผืนดังกล่าว แต่ตนได้บอกไปว่า ที่ตรงนี้เป็นของ สปก. ไม่สามารถซื้อขายได้ แต่ทางชายที่อ้างเป็นเจ้าของที่บอกมีโฉนด ตนก็ไม่ได้เอะใจ

ต่อมานัดพบกับผู้ชายที่อ้างเป็นผู้ซื้อ ได้นำซองเงินที่ไม่รู้ว่ามีเงินจริงหรือเปล่า จำนวน 300,000 บาท มาให้กับตน ตนก็มอบให้เจ้าของที่ดิน แต่ทางเจ้าของที่ดินบอกว่า ต้องไถ่ที่ดินผืนนี้ก่อน จึงร่วมกันพูดจาหว่านล้อม ควักเงินช่วยกันลงขัน และขอยืมเงินตน 100,000 บาท เพื่อรวมกันไปไถ่ที่และจะให้ค่านายหน้าเพื่ออีก 100,000 บาท จึงบอกไปว่า มีเงินแค่ 90,000 บาท ทางนั้นก็บอกไม่เป็นไร พอกลับมาเอาก็เอาใส่ซอง พอออกจากบ้านได้ไม่เท่าไรก็บอกว่า ป้าเอาทะเบียนบ้านหรือเปล่า จึงวกกลับไปเอา ช่วงที่ลงไปเอาทะเบียนบ้าน รถคันดังกล่าวก็วิ่งออกไปด้วยความเร็ว

ตอนนั้นแทบช็อก มือไม้สั่น ทำอะไรไม่ถูก ไม่คิดว่าจะเจอคนมาทำอะไรแบบนี้ เป็นมนุษย์ด้วยกันทำไมหากินแบบนี้ เงินนั่นที่เอาไปก็เป็นเงินที่เก็บเล็กผสมน้อย กว่าจะได้ 90,000 บาท มันยากเย็น ตอนนี้ได้แต่ด่าทอ พร้อมจุดธูปสาปแช่งทุกวัน วอนให้หลวงปู่กวย ที่ตนนับถือมานาน ช่วยดลบันดาลให้คนเหล่านี้ ฉิบหายวายป่วย รถคว่ำคอหักตาย หรือไม่ก็ถูกตำรวจจับเข้าคุกเร็ววัน

เบื้องต้นได้แจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้ว พอมาสอบถามกล้องวงจรปิดของหน่วยงาน และของชาวบ้าน ก็พบว่า ไม่สามารถใช้การได้ ตอนนี้คงต้องหวังพึ่งตำรวจให้จับคนร้ายได้เร็วไว

ขณะเดียวกัน มีนางสาวจุฑารัตน์ ชาญชำนื อายุ 26 ปี ชาว อ.สรรคบุรี ติดต่อกับผู้สื่อข่าวว่า ตนก็ถูกป้ายยาเหมือนกัน ถูกแก๊งมิจฉาชีพ ทำทีหว่านล้อม จนฉกเอาทองคำหนัก 1 บาท และพระเลี่ยมทองอีก 1 องค์ไป และรถที่ใช้ก่อเหตุก็เป็นรถที่ลักษณะคล้ายกัน เป็นรถโตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ สีดำ ยกสูง

นางสาวจุฑารัตน์ ชาญชำนื เผยว่า เมื่อวันที่ 5 พ.ย. 2562 ที่ผ่านมา ตนขี่ จยย. ไปกับลูกชาย ไปตลาดนัด ที่ อ.บางระจัน จ.สิงห์บุรี พอไปถึงก็ซื้อของตามปกติ จากนั้นมีคนมาจับแขน แล้วบอกว่า เห็นกระเป๋าเงินสีชมพูไหม ตนก็บอกไม่เห็น แต่ก็มีกลุ่มคนอีกกลุ่มหนึ่งเป็นหญิง 3-4 คน มาบอกว่าเจอกระเป๋าแล้ว ข้างในเป็นทองคำหนัก 5 บาท แล้วมาบอกว่าให้เดินไปด้วยกันหน่อย พอไปถึงท้ายตลาด ก็บอกว่า จะเอาทองนี้ไปขาย แบ่งเงินกันคนละ 30,000 บาท คนกลุ่มนี้ก็เอาทองใส่ถุงเท้ายาวสีดำไว้ และบอกให้ตนถอดสร้อยมาใส่ไว้ด้วย เพื่อความสบายใจว่า จะไม่มีใครหนีไปไหน เพราะมีความผิดร่วมกัน ตนก็เชื่อ จนคนกลุ่มนั้นเอาทองใส่รวมกันและใส่กระเป๋าตนไว้ จากนั้นก็หนีหายไปอย่างรวดเร็ว พอมาเปิดดูก็ไม่มีอะไร จึงคิดในใจว่าโดนหลอกแล้วรีบเข้าแจ้งความทันที

ตอนเกิดเหตุ ตอนนั้นไม่รู้ตัวอะไรเลยเขาให้ทำอะไรก็ทำ ทั้งๆ ที่ตนบอกว่าตนไม่อยากรับรู้ไม่อยากเกี่ยวข้อง แต่ก็ให้ก็ทำตามที่บอกจนหมด พอกลุ่มมิจฉาชีพหนีไป ก็มึนๆ งงๆ จำอะไรไม่ได้ ให้ไปแม้กระทั่งบัตร เอทีเอ็ม และรหัสบัตร

อยากฝากบอกคนที่ทำว่า คนเรามีมือมีตีน ครบ 32 ประการ ทำไมต้องหาเงินบนความทุกข์ของคนอื่น คืนได้ก็รีบคืน มอบตัวได้ก็รีบมอบตัวซะ และอยากฝากบอกไปยังคนอื่นๆ ด้วยว่า หากมีอะไรไม่ชอบมาพากล ให้รีบแจ้ง ตำรวจ ทันที ก่อนที่จะกลายเป็นเหยื่อโดยไม่รู้ตัว