ล้มทำแผนมือยิงใส่รถตู้
ทำสาวบุรีรัมย์เสียชีวิต

ล้มเลิกการทำแผนประกอบคำรับสารภาพ อย่างฉับพลัน หวั่นมวลชนฮือล้อมมือสาดกระสุน 11 มม.ใส่รถตู้โดยสารทำสาวบุรีรัมย์วัย 27 ปีเสียชีวิต ท่ามกลางความผิดหวังของสื่อมวลชนจากส่วนกลางจำนวนมากที่มารอทำข่าว ขณะตำรวจคุมตัวส่งพิสูจน์หลักฐานเก็บดีเอ็นเอจากผู้ต้องหาไว้เปรียบเทียบของกลางที่ใช้ในการก่อเหตุแทน

วันที่ 9 ธ.ค.62 เวลา 11.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา ได้ล้มเลิกการนำตัวนายศุภชัย นวนทอง อายุ 42 ปี อยู่บ้านเลขที่ 91 ม.5 ต.หนองยาว อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา ผู้ต้องหาใช้อาวุธปืนไล่ยิงกลุ่มวัยรุ่นฝ่ายคู่อริของบุตรชาย ก่อนกระสุนพลาดปลิวลอยไปถูกรถยนต์ตู้โดยสาร ซึ่งขับผ่านถนนสายหลัก 304 ฉะเชิงเทรา-กบินทร์บุรี
 
               
ในขณะที่บนรถตู้กำลังมีผู้ที่นั่งโดยสารมาภายใน จำนวน 8 คนพร้อมคนขับ จนทำให้มีหญิงสาววัย 27 ปี ที่นั่งมาบนเบาะตอนกลางด้านขวาของตัวรถเสียชีวิต ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ

โดย พ.ต.ท.สุรพิสิฐ ไหมงำ พนักงานสอบสวนเจ้าของคดี กล่าวว่า จากเดิมที่ได้มีการเตรียมการไว้ว่าในเวลา 11.00 น. ของวันนี้ จะมีการคุมตัวผู้ต้องหาออกไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ยังในบริเวณที่เกิดเหตุ บนเส้นทางสาย พนมสารคาม-บ้านสร้าง ใกล้กับปากทางเข้าศูนย์การค้าศิริพนม พื้นที่ ม.1 ต.พนมสารคาม อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา
 
               
ต่อมาทางผู้บังบัญชา คือ พล.ต.ต.ชาคริต สวัสดี ผบก. ภ.จว.ฉะเชิงเทรา ได้มีความกังวลและเป็นห่วงว่าผู้ต้องหาอาจจะไม่ได้รับความปลอดภัย หากมีมวลชนจำนวนมากพยายามที่จะฝ่าวงล้อมของทางเจ้าหน้าที่เข้ามารุมทำร้าย ประกอบกับทางฝ่ายของผู้ต้องหาเองนั้น ได้กลับใจที่จะไม่ประสงค์จะไปชี้จุดเกิดเหตุ เพื่อทำแผนประกอบคำรับสารภาพด้วยเช่นเดียวกัน ซึ่งเป็นสิทธิ์ที่ผู้ต้องหาที่สามารถจะไม่ไปชี้จุดเกิดเหตุได้ อีกทั้งผู้ต้องหายังได้เดินทางเข้ามาขอมอบตัวด้วยตนเองและให้การรับสารภาพ พ.ต.ท.สุรพิสิฐ ระบุ
 

ต่อมาในเวลา 12.40 น. ทางพนักงานสอบสวน ได้เบิกตัวนายศุภชัย ออกมาจากภายในห้องควบคุมตัวผู้ต้องหาที่ด้านหลัง สภ.พนมสารคาม ก่อนนำตัวขึ้นรถควบคุมเพื่อเดินทางมุ่งหน้าไปยังที่ กองกำกับการพิสูจน์หลักฐานตำรวจภูธร จ.ฉะเชิงเทรา ท่ามกลางสื่อมวลชนกลุ่มใหญ่ที่ต่างพากันกรูเข้าไปถ่ายภาพและพยายามที่จะซักถามปากคำจากผู้ต้องหาเพียงช่วงระยะเวลาไม่มากนัก จนรถควบคุมตัวผู้ต้องหาเคลื่อนออกไปยังในตัวจังหวัดฉะเชิงเทรา

โดย พ.ต.ท.สุรพิสิฐ บอกว่า จะส่งตัวผู้ต้องหาไปให้แก่ทางเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน ภ.จว.ฉะเชิงเทรา ทำการเก็บตัวอย่างดีเอ็นเอจากกระพุ้งแกล้ม ตลอดจนลายนิ้วมือ และทำการถ่ายภาพตัวผู้ต้องหาไว้ประกอบ พร้อมได้ส่งของกลางที่ผู้ต้องหาใช้ในการก่อเหตุ ทั้งอาวุธปืนขนาด 11 มม. ปลอกกระสุนปืนจำนวน 5 ปลอก และเสื้อผ้าที่สวมใส่ในวันก่อเหตุ เพื่อทำการเก็บตัวอย่างดีเอ็นเอเอาไว้เปรียบเทียบกัน

ซึ่งขณะนี้ได้ทำการสอบปากคำจากผู้ต้องหาไว้จนเสร็จเรียบร้อยแล้ว โดยที่ผู้ต้องหาได้ให้การยอมรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา จึงได้ตั้งข้อกล่าวหาว่า "ฆ่าผู้อื่นตายโดยเจตนา มีอาวุธปืนพร้อมเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต พาอาวุธปืนไปในเมืองหมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันสมควรหรือจำเป็นเร่งด่วน" พ.ต.ท.สุรพิสิฐ กล่าว

ผู้สื่อข่าวจากจังหวัดบุรีรัมย์รายงานว่าศพของ น.ส.อริสา ปราบภัย ผู้เสียชีวิต มาถึงบ้านเกิดเลขที่ 87 หมู่ 3 บ้านหนองเตียน ต หนองไทร อ.นางรองแล้ว โดยบรรยากาศเป็นไปอย่างโศกเศร้า มีชาวบ้านมาให้กำลังใจไม่ขาดสาย โดยเฉพาะแม่ของ น.ส.อริสา หลังทราบข่าวถึงกับช็อคเพราะเหตุการณ์เกิดขึ้นเร็วเกินไป

โดยนางนางพึง ปราบภัย อายุ 58 ปี แม่ของ น.ส.อริสา เล่าว่า ลูกสาวไปทำงานกับสามีที่ อ.ปากเกล็ด จ.นนทบุรี ลูกสาวเป็นช่างสี ส่วนลูกเขยเป็นผู้รับเหมางานตกแต่งภายใน (บิ้วอิน) ตนมีหน้าที่เลี้ยงหลานซึ่งเป็นลูกของ น.ส.อริสา 2 คน อายุ 8 ขวบและ 2 ขวบ

เมื่ออาทิตย์ที่แล้ว ลูกสาวกับลูกเขยเดินทางกลับมาช่วยแม่เก็บเกี่ยวข้าวจนเสร็จ ก่อนจะเดินทางไปลูกสาวยังบอกหลานว่าจะกลับมาอีกในเร็วๆนี้ แล้วจะซื้อของมาฝาก แต่เพียงไม่ข้ามคืนก็ทราบข่าวร้าย

ตอนนี้ตนไม่รู้จะทำอย่างไรกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น คงต้องพึ่งตำรวจ ที่จะคลี่คลายคดี และหาคนก่อเหตุมารับผิดชอบการเสียชีวิตของลูกสาว รวมถึงหลานอีก 2 คนที่ต้องกำพร้าแม่ตั้งแต่เล็กๆ