วันที่ 21 ก.พ.63 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เกิดเหตุ 3 คนร้ายสวมไอ้โม่งปกปิดใบหน้าถือปืนบุกปล้นผัวเมียพร้อมลูกชายวัย 3 ขวบคนงานตัดยางพาราชาวเมียนมาเชื้อสายมอญตอนกลางคืน โดยใช้ปืนจี้หัวมัดมือเท้าให้นอนคว่ำหน้าได้เงินสด  ทองรูปพรรณ และรถจักรยานยนต์รวมทรัพย์สินสูญหายไปเกือบครึ่งล้านบาท

โดยอดีตข้าราชการวัยเกษียณ ซึ่งเป็นนายจ้างของคนงานตัดยางชาวเมียนมา ออกมาเปิดเผยพร้อมพาไปดูที่เกิดเหตุเป็นบ้านพักคนงานในสวนยางพาราเนื้อที่ 15 ไร่ พื้นที่ หมู่ 2 ตำบลท่าหิน บ้านหินสามก้อน อำเภอสวี จ.ชุมพร โดยเล่าว่า เกิดเหตุเมื่อเวลาประมาณ 02.00 น.ของคืนวันที่ 19 ก.พ.ที่ผ่านมาขณะที่นายดำและภรรยา พร้อมลุกชายวัย 3 ขวบนอนหลับผู้ภายในห้องนอน จู่ๆ ได้ยินเสียงตะโกนอยู่นอกบ้านโดยอ้างว่าเป็นตำรวจขอตรวจค้นยาเสพติด พร้อมกับถีบประตูเข้าไปล็อคตัวเอาปืนจี้หัวสองผัวเมียโดยมีลูกชายหวีดร้องอยู่ใกล้ๆ โดยมีคนร้าย 1 คนอยู่นอกบ้านดูต้นทางสวมไอ้โม่งปิดหน้า ส่วนสองคนเข้ามาในบ้านไม่ปิดหน้า เอาปืนจี้หัวจี้หลัง มัดมือไขว่หลังและมัดเท้าให้นอนคว่ำลงกับพื้น คนร้ายบอกว่าขอเงิน 3,000 บาท นายดำคนงานจึงเอาให้ คนร้านเห็นว่านายดำมีเงินเยอะจึงขออีก 20,000 บาท แต่เปลี่ยนใจจึงเอาทั้งหมด 300,000 บาท พร้อมทองรูปพรรณน้ำหนัก 1 บาท รถจักรยานยนต์ 1 คัน โทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง มูลค่ารวมเกือบครึ่งล้านบาท

นายจ้างของแรงงานชาวเมียนมา เผยอีกว่า หลังเกิดเหตุได้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจลงพื้นที่ตรวจสอบเก็บหลักฐานและร่องรอยคนร้ายพร้อมทั้งเช็คกล้องวงจรปิดเส้นทางการหลบหนีของคนร้ายกลุ่มนี้แล้ว และสอบปากคำนายดำและภรรยานานหลายชั่วโมงเพื่อหาเบาะแสของคนร้าย หลังเกิดเหตุทำให้ครอบครัวของนายดำไม่กล้าพักบ้านหลังเกิดเหตุโดยไปอาศัยคนรู้จักอยู่เป็นการชั่วคราวเพราะเกรงกลัวว่าคนร้ายกลุ่มนี้จะย้อนกลับมาทำร้ายครอบครัวตน นายดำเล่าให้ฟังอีกว่าน้ำเสียงคนร้ายพูดภาษาใต้ชัดเจน แต่คนที่ปิดหน้าคาดว่าอาจเป็นคนชี้เป้าให้มาร่วมปล้นในครั้งนี้

ทั้งนี้ตำรวจชุดสืบสวนสภ.สวี ร่วมกับชุดสืบสวน กองกำกับตำรวจภูธรจังหวัดชุมพร นำโดย พ.ต.อ.ธานี  นาคหกวิค ผกก.สส.ภ.จ.ชุมพร เร่งสอบสวนติดตามคนร้ายกลุ่มนี้ให้ได้โดยเร็วเนื่องจากเป็นคดีอุกอาจสร้างความสะเทือนขวัญและความปลอกภัยในชีวิตทรัพย์สินของประชาชนในพื้นที่อำเภอสวี