วันอาทิตย์ ที่ 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2568 12:55 น.

อาชญากรรม

แฉ “ไอ้เจ” พ่อนรกไลฟ์สด ข่มขู่ฆ่าลูกประชดเมีย

วันพฤหัสบดี ที่ 04 มิถุนายน พ.ศ. 2563, 21.02 น.

จากกรณีที่ชายหนุ่มไลฟ์สดทางเฟซบุ๊ค “สายลม ที่มองไม่เห็น” ประชดเมียด้วยการทำร้ายลูกชายวัย 3 ขวบก่อนจะใช้มีดจี้ข่มขู่จะฆ่าลูกโชว์เพื่อให้เมียกลับมาอยู่ด้วยกัน ในขณะที่เมียพยายามพูดจาตอบโต้และท้าทายจนกลายเป็นกระแสการวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง เมื่อประมาณ02.00-03.00น. ของของวันที่ 3 มิ.ย.ที่ผ่านมา โดยพื้นที่ไลฟ์สดดังกล่าวถูกระบุว่าอยู่ในซอยคลองห้วย ต.โพธิ์เสด็จ  อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช
 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าทาง พ.ต.อ.มนเทียร   เบ้าทอง ผกก.สภ.เมืองจ.นครศรีธรรมราชได้สั่งการให้ พ.ต.ท.จริญ   ขาวเอี่ยม สว.(สอบสวน)สภ.เมืองนครศรีธรรมราชพร้อมด้วยกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช และเจ้าหน้าที่ พม.นครศรีธรรมราช ได้ลงพื้นที่สืบหาจุดที่ชายคนดังกล่าวอาศัยอยู่ในซอยคลองห้วยทั้งซอย 1 และซอย 2 แต่ไม่พบจนได้เบาะแสว่าแท้จริงอาศัยอยู่ในซอยต้นหว้า 6 /1 ชุมชนต้นหว้า ต.โพธิ์เสด็จ  อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช และอยู่ในเขตพื้นที่เทศบาลนคร นครศรีธรรมราช เจ้าหน้าที่จึงเดินทางเข้าไปหาพบว่าจุดดังกล่าวเป็นค่ายเลี้ยงและผสมพันธ์ไก่ชนของนายวารุณ วันดาว อายุ 45 ปี หรือ “แอ๊ด ต้นหว้า” จึงเข้าไปตรวจสอบทราบว่าชายหนุ่มที่โพสต์ขู่ทำร้ายลูกชายคนดังกล่าวชื่อนายนพสิทธิ์หรือเจ สนู  อายุ 29 ปี บ้านเดิมอยู่ชุมชนสวนจันทร์ เลขที่ 49/1 หมู่5 ต.ปากพูน อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช มาขออาศัยอยู่พร้อมลูกชายวัย 3 ขวบ แต่หลังก่อเหตุไลฟ์สดจนอื้อฉาวแล้วได้พาลูกชายวัย3ขวบหลบหนีไปก่อนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจและ พม.จะเข้ามาถึงแล้ว
 

นายวารุณ หรือแอ๊ด “ต้นหว้า” กล่าวว่านายนพสิทธิหรือเจ คนที่ไลฟ์สดเป็นเพื่อนรุ่นน้อง กับตนรู้จักกันหลายปีแล้วตั้งแต่สมัยที่ตนยังเที่ยวเกเรอยู่  แต่ในปัจจุบันตนมาได้เมียในที่เกิดเหตุและหันมาประกอบอาชีพเลี้ยงและเพาะพันธุ์ไก่ชนขายทั้งในและต่างประเทศ โดยเมื่ออาทิตย์ก่อนนายเจ ได้พาลูกมาที่บ้านและบอกว่าขอพักอาศัยสักคืน ตนก็อนุญาต แต่หลังจากนั้นนายนพสิทธิ์หรือเจ ก็ก็อยู่ต่อตนก็ไม่กล้าขับไล่เพราะสงสารเด็กอายุ 3 ขวบ จึงบอกว่าอยากจะอยู่ก็อยู่ได้แต่อย่าสร้างปัญหา โดยตนยอมสละเตียงที่นอนในค่ายเลี้ยงไก่ชนให้นายเจ นอนกับลูก และยังช่วยซื้อแพมเพิส และนมให้อีกด้วย  เท่าที่สอบถามประวัตินายเจ มีภรรยาเป็นชาว จ.พัทลุง ชื่อ นส.เปรมสุดา  ขุนภักดี อายุ25ปีอดีตภรรยา แต่ไปทำงานในประเทศพม่า มีลูกด้วยกัน 2 คน ต่อมานายนพสิทธิ์หรือเจ ไปมีเมียใหม่แต่ก็เลิกรากันไป นายนพสิทธิ์หรือเจ จึงมาขอคืนดีกับกับนส.เปรมสุดาเมียเก่าคนดังกล่าว แต่เมียเก่าไม่ยอมคืนดีด้วย นายนพสิทธิ์หรือเจ จึงขอลูกชายคนโต นำกลับประเทศไทย ส่วนลูกชายคนเล็กให้เมียเลี้ยงดูอยู่ที่ประเทศพม่า ซึ่งนายเจ บอกตนว่าเมียจะตามมาอยู่ด้วยที่จังหวัดนครศรีธรรมราช และจะโอนเงินมาให้นายเจ ใช้เลี้ยงลูกชายทุกวัน ๆ ละ 300-400 บาท
 


อย่างไรก็ตามนายนพสิทธิ์หรือเจ รอคอยเมียรักเป็นเวลานานก็ไม่ยอมกลับมา จ.นครศรีธรรมราช ทำให้นายเจ ไม่พอใจและเกิดการหึวงพวงเพราะเข้าใจว่าเมียรักมีผู้ชายคนใหม่ ในคืนเกิดเหตุตนยอมไปนอนที่มุมหนึ่งในค่ายเลี้ยงไก่ชน เพราะสละเตียงและที่นอน พร้อมมุ้งให้นายเจ นอนกับลูกชายและไลฟ์สดกับผู้หญิงคนหนึ่งเข้าใจว่าเป็นเมียของนายเจ และทำการทุบตีลูกชายจนร้องไห้เพื่อบีบกดดันให้เมียกลับมาอยู่ด้วยกันที่นครศรีธรรมราช โดยบอกว่าจะกระทำทารุณกรรมลูกชายทุกวันจนกว่าเมียจะยอมกลับมา ในขณะที่เมียก็พูดตอบโต้ในลักษณะท้าทายทำให้นายเจ มีอารมณ์โกรธแค้นมากยิ่งขึ้นและยิ่งทุบตีลูกชายหนักมากขึ้น ตนจึงตัดสินใจเข้าไปห้าม ในขณะที่นายเจ ได้ใช้มีดจี้ข่มขู่พร้อมตะโกนบอกเมียว่าหากไม่ยอมกลับมาอยู่กินด้วยกันที่นครศรีธรรมราชกูจะฆ่าลูกให้ตาย ตนทนไม่ไหวจึงตรงเข้าไปบอกนายเจ ว่าหากมึงแทงลูกกูจะแทงมึงให้ตายตกไปตามกัน พร้อมขอร้องให้เมียนายเจ วางสายไปอย่าพูดยั่วอารมณ์เพราะนายเจ จะมีอารมณ์โกรธแค้นทำร้ายลุกหนักยิ่งขึ้น จนเมียนายเจ ยอมวางสายจนสถานการณ์จึงกลีบเข้าสู่ภาวะปกติ หลังจากนั้นตนได้บอกกับนายเจ ว่าอย่าทำแบบนี้กับลูก หากทำแบบนี้อีกให้ออกไปอยู่ที่อื่น ตนไม่ให้อยู่อีกแล้ว นาเจ ก็รับปากว่าจะไม่ทำแบบนั้นอีก
 

นายวารุณ กล่าวอีกว่าจนกระทั่งเมื่อเช้าวันนี้ (4 มิ.ย.) เจ้าหน้าที่ตำรวจและ พม.นครศรีธรรมราช ยกขบวนแห่มาจำนวนมาก แต่นายเจ ได้หอบลูกน้อยวิ่งหลบหนีไปทางด้านหลังบ้านโดยบอกว่าอยู่ไม่ได้แล้วจะไปอยู่บ้านญาติที่ อ.นบพิตำ หรือ อ.ขนอม  เจ้าหน้าที่จึงยังไม่สามารถจับกุมนายนพสิทธิ์หรือเจ และตนมั่นใจว่าลูกนายเจ ยังปลอดภัย แต่ก็ไม่แน่ใจว่านายเจ จะกล้าฆ่าลูกตัวเองตามที่ไลฟ์สดข่มขู่หรือไม่  แต่หากเมียของนายเจ ไม่พูดจายั่วยุอารมณ์นายเจ คงไม่ทำร้ายหรือฆ่าลูกอย่างแน่นอน  สำหรับตนที่ยอมให้นายเจ และลูกอาศัยเพราะสงสารเด็ก และการมาอยู่ตนก็ไม่ได้ประโยชน์อะไรและยังต้องเสียค่าใช่จ่ายช่วยเหลือเด็ก โดยซื้อนม แพมเพิสให้ด้วย และรู้สึกไม่สบายใจที่ญาติ ๆ และเพื่อนบ้านไม่ค่อยพอใจตนที่หาเรื่องเดือดร้อน แต่ตนให้อยู่อาศัยและช่วยเหลือตามหลักมนุษยธรรม ซึ่งตนได้ให้รายละเอียดทั้งหมดกับตำรวจและ พม.ไปหมดแล้ว และหากนายเจ ติดต่อกลับมาจะบอกว่าให้มอบลูกให้เจ้าหน้าที่ไปเลี้ยงดูจะดีกว่า  นายวารุณ หรือ แอ๊ด ต้นหว้า”กล่าวยืนยันในที่สุด.

 

หน้าแรก » อาชญากรรม