จากกรณีที่ได้เกิดเหตุ นศ.ใช้อาวุธมีดแทงกันได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตในเวลาต่อมาที่สถานศึกษาระดับอาชีวะแห่งหนึ่ง ต.ห้วยเหนือ อ.ขุขันธ์  ซึ่ง พ.ต.ท.จำนงค์  ประสพสุขมั่งดี รอง ผกก.สส.สภ.ขุขันธ์  พร้อมด้วย พ.ต.ต.ปฏิธาณ โคกกลาง สว.สส.และ ร.ต.อ.จำนงค์  สารชาติ รอง สวป. นำกำลังเจ้าหน้าที่ ตร.จำนวนหนึ่งไปยังที่เกิดเหตุ  และได้เข้าไปทำการจับกุมตัวคนร้ายเอาไว้ได้  จากการตรวจค้นภายในตัวพบอาวุธมีดพับได้ ความยาวประมาณ 22 ซม. จำนวน 1 เล่ม และสนับมือ  จำนวน 1 อัน  จึงได้ควบคุมตัวไปยัง สภ.ขุขันธ์ ส่วนผู้ที่ได้รับบาดเจ็บถูกส่งตัวไปยัง รพ.ขุขันธ์และเสียชีวิตแล้ว  โดยผู้ที่เสียชีวิตชื่อ นายรัณ  (นามสมมุติ) อายุ 16 ปี  บ้านอยู่ที่ ต.ห้วยตามอญ อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ  เป็นนักศึกษาชั้นปีที่ 1 อยู่ที่สถาบันแห่งนี้  ส่วนผู้ที่ก่อเหตุชื่อ นายภพ  (นามสมมุติ) อายุ  15 ปี บ้านอยู่ ต.หัวเสือ อ.ขุขันธ์ และเป็นนักศึกษาอยู่ที่เดียวกัน   ญาติได้รับศพของผู้เสียชีวิตนำกลับไปประกอบพิธีทางศาสนาที่บ้านเกิด ตามข่าวที่ได้นำเสนอไปแล้วนั้น

 

ความคืบหน้า เมื่อวันที่ 10 ก.ค. 63  ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บ้านเลขที่ 220 หมู่ 5 บ้านพนมชัย  ต.ห้วยตามอญ  อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ  ซึ่งเป็นบ้านของ นางดวงใจ  สุวรรณจันทร์ อายุ  36 ปี  แม่ของ นายรัณ  (นามสมมุติ) อายุ 16 ปี ที่เสียชีวิต  พ่อแม่ญาติพี่น้องได้ช่วยกันจัดสถานที่เพื่อตั้งศพของนายรัณ เพื่อประกอบพิธีสวดพระอภิธรรมศพของนายรัณ มีการกางเต็นท์และนำศพของนายรัณ มาตั้งบำเพ็ญกุศลบริเวณหน้าบ้าน โดยในวันนี้จะเป็นการสวดศพคืนที่ 2 มีบรรดาญาติพี่น้องพากันมาเคารพอย่างต่อเนื่อง บรรยากาศเป็นไปอย่างเศร้าสลดมาก ขณะเดียวกันสถานศึกษาที่นายรัณ เรียนอยู่ได้มีผู้บริหารและคณะอาจารย์รวมทั้งเพื่อน นศ.พากันนำเอาพวงหรีดมาไว้อาลัยต่อการจากไปของนายรัณ ตั้งไว้ข้างโลงศพของนายรัณด้วย

 

นายบัวลี  ศรีเลิศ อายุ  65 ปี ซึ่งเป็นปู่ของผู้เสียชีวิต กล่าวว่า  ตนเลี้ยงดูนายรัณ หรือแดน มาตั้งแต่เด็ก ๆ  โดยนายแดน จะเป็นเด็กเรียบร้อยว่านอนสอนง่าย และมักจะติดตามเข้าไปกรีดยางทุกวันเพื่อหาเงินไว้เป็นค่าเล่าเรียนหนังสือ ต่อมาเมื่อเรียนจบ ม.3 แดน ได้เข้าไปทำงานรับจ้างที่กรุงเทพกับอา และต่อมาเมื่อวันที่ 7 ก.ค. 63  นายแดร ได้กลับมาบ้าน  เพื่อต้องการมาเรียนหนังสือต่อระดับ ปวช. โดยสมัครเข้าเรียนวิชาช่างไฟฟ้า และได้ไปเข้าเรียนเพียง 2 วันเท่านั้น ก่อนเกิดเหตุเมื่อเวลาประมาณ 10.00 น. วันที่ 9 ก.ค. 63 นายแดน หลานชายของตนได้นำเอาเครื่องตัดหญ้าไปทำการตัดหญ้าในบริเวณของสถานศึกษาที่เรียนอยู่โดยมีเพื่อน นศ.หญิง 2 คนไปช่วยตัดหญ้าด้วย เมื่อตัดหญ้าเสร็จแล้ว นายแดน ได้บอกกับเพื่อน นศ.หญิง 2 คนว่า ให้รอก่อนเพื่อจะได้ไปกินข้าวเที่ยงด้วยกัน 

 

โดยนายแดน ได้นำเอาเครื่องตัดหญ้าไปเก็บไว้ที่ห้องเก็บของติดกับห้องเรียน  เมื่อเก็บเครื่องตัดหญ้าแล้ว ขณะที่นายแดน กำลังเดินออกมาผ่านบริเวณหน้าห้องเรียนที่อยู่ห้องใกล้กัน ได้มีนายภพ (นามสมมุติ) อายุ 15 ปี  ซึ่งเคยมีเรื่องกันมาก่อน มาดักรออยู่และได้ใช้มีดปลายแหลมที่เตรียมมาวิ่งเข้าไปแทงนายรัณเข้าที่บริเวณลำคอ  และบริเวณใต้ราวนมขวา ทำให้นายรัณ ร้องออกมาด้วยความเจ็บปวดและทรุดลงจมกองเลือด  โดยที่นายรัณไม่ได้มีการต่อสู้ป้องกันตัวแต่อย่างใด เพื่อน นศ.หญิง 2 คน ได้ยินเสียงร้องของนายรัณ ได้รีบวิ่งมาดูและรีบไปร้องขอความช่วยเหลือจากอาจารย์และเพื่อน นศ.เพื่อรีบนำตัวนายรัณ ส่งไป รพ.ขุขันธ์และเสียชีวิตในเวลาต่อมา  ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้ตนเสียใจมากที่หลานชายที่ตนรักมากต้องมาเสียชีวิตก่อนวัยอันควรแบบนี้ ตามข่าวที่บอกว่า มีการต่อสู้ชกต่อยกันนั้น ตนเชื่อว่าไม่น่าจะเป็นความจริง เพราะว่า คนร้ายได้เตรียมมีดมาเพื่อที่จะแทงฆ่านายรัณโดยมีเจตนาจึงได้เตรียมการไว้ก่อนแล้ว

 

นางสมศรี เข็มทอง อายุ 52 ปี ซึ่งเป็นป้าของผู้เสียชีวิต กล่าวว่า แดนเป็นเด็กที่ชอบเข้าวัดเพื่อปฏิบัติธรรมตามที่ปู่และป้าพาเข้าไปวัด  จะชอบนั่งสมาธิตามที่หลวงตาอยู่ที่วัดพาปฏิบัติ เป็นเด็กว่านอนสอนง่าย ไม่ค่อยชอบพูด  แต่เมื่อเกิดเหตุขึ้นมา ตนเห็นลักษณะท่าทางของญาติฆาตกรแล้วแทบระงับอารมย์ไม่อยู่ เพราะจะถามตำรวจว่า จะประกันตัวคนร้ายยังไง  จะไม่ให้คนร้ายนอนคุก  ไม่ถามพวกตนซักคำว่า คนบาดเจ็บเป็นอย่างไรบ้าง เพราะว่าทำแบบนี้ทำให้คนร้ายที่เป็นเด็กไม่รู้จักว่า ความผิดของตนเองเป็นอย่างไร  เนื่องจากว่ามีคนคอยให้ท้ายในทางที่ไม่ถูกต้อง ซึ่งคนร้ายรายนี้ ผู้บริหารสถานศึกษาเล่าให้ฟังว่า ตอนช่วงที่เรียนอยู่ชั้น ป.6 เคยใช้มีดไล่ฟันครูใน ร.ร.มาแล้ว  ถือได้ว่าเป็นคนที่มีจิตใจชอบใช้ความรุนแรงโหดเหี้ยมมาก

 

ทางด้าน นางดวงใจ  สุวรรณจันทร์ อายุ 36 ปี แม่ของนายรัณ ที่เสียชีวิต กล่าวว่า  ตนเสียใจมากที่เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นมา นายรัณ หรือแดน เป็นลูกชายคนโตของครอบครัวที่มีลูกอยู่ 3 คน  มีลูกชาย 2 คนผู้หญิง 1 คน แดนจะมีอายุห่างจากน้องกว่า 10 ปี ตอนแรกเมื่อรู้ว่าลูกตนเองโดนแทงตายตนก็จะไปฆ่าเขา แต่มาคิดว่า ลูกของตนเองตายแล้ว หากไปฆ่าเขาแล้วลูกตนเองก็ไม่ได้ฟื้นคืนมา  จึงได้แค่ทำใจ  ตนอยากให้คนร้ายมาขอขมาศพของลูกชายตน  และตามกฎหมายแล้วอยากให้ฆาตกรโหดเหี้ยมคนนี้ถูกประหารชีวิต เพราะว่าหากมีชีวิตอยู่ต่อไปจะต้องไปสร้างความเดือดร้อนให้กับสังคมส่วนรวมในอนาคต เนื่องจากว่าฆาตรกรโหดคนนี้มีจิตใจที่โหดเหี้ยมมาก

 

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า สำหรับคนร้ายรายนี้  พนักงานสอบสวน สภ.ขุขันธ์ ได้ตั้งข้อหาว่า พกพาอาวุธ (มีด สนับมือ) ติดตัวเข้าไปในเมืองหมู่บ้าน ทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร ทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนถึงแก่ความตาย  ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป