เมื่อเวลา 09.00  น.วันที่ 16  ก.ย.63 ร.ต.ท.เกรียงไกร เสวตสมบูรณ์ ร้อยเวรสอบสวนสภ.ธัญบุรี ได้รับแจ้งเหตุมีคนรมควันตัวเองเสียชีวิตภายในรถกลางลานจอดรถห้างดังย่านธัญบุรี ม.4 ต.รังสิต อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี จึงไปที่เกิดเหตุพร้อมด้วยพ.ต.อ.วิวัฒน์ อัศวะวิบูลย์ ผกก.สภ.ธัญบุรี พ.ต.ท.บุญยิ่ง บัณฑิตไทย รอง ผกก..สอบสวน สภ.ธัญบุรี เจ้าหน้าที่ตำรวจศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 1 แพทย์เวรโรงพยาบาลธัญบุรี เจ้าหน้าที่ปอเต็กตึ้ง

ที่เกิดเหตุเป็นลานจอดรถพบรถเก๋งยี่ห้อมาสด้า2 สีเทา หมายเลขทะเบียน 7 กญ5181 กรุงเทพมหานคร จอดสตาร์ตเครื่องอยู่บริเวณเบาะนั่งคนขับพบผู้เสียชีวิตเป็นหญิง 1 รายทราบชื่อนางสาวสุกัญญา ไทรชมพู อายุ33 ปี บ้านอยู่ จ.นครปฐม ภายในรถพบยานอนหลับและยาแก้โรคซึมเศร้าอยู่จำนวนหนึ่ง และเตาถ่านซึ่งถูกจุดถ่านหมอดหมดแล้วพร้อมกับถ่านจำนวน 1 ถุง เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเก็บไว้เป็นหลักฐานโดยแพทย์ระบุว่าเสียชีวิตแล้วประมาณ 6-8 ชม.

จากการสอบถามนายทยาวัต กิมาคม อายุ29ปี บอกว่าเมื่อวานนี้แฟนสาวไปส่งตนทำงานที่สนามบินดอนเมืองซึ่งตนเองทำงานเป็นช่างปริ้นเตอร์และตนเองคุยกับแฟนครั้งสุดท้ายเมื่อตอนบ่ายโมงซึ่งแฟนสาวก็บอกกับตนเองว่าต้องรับสภาพให้ได้และตนเองก็ได้ยินเสียงไอตนสงสัยว่าแฟนสาวมีปัญหาด้านการเงินเพราะเมื่อวานนี้มีเจ้าหนี้เงินกู้โทรศัพท์มาหาตนเอง 4 เจ้าซึ่งตลอดระยะเวลา3 ปีที่คบกันมาแฟนไม่ได้บอกตนเองเลยเรื่องการเงินและแฟนก็ไม่ได้ทำงานเพียงพอว่าที่บ้านอยู่กับแบบใช้เงินกงสี จากนั้นตนเองก็ติดต่อแฟนสาวไม่ได้จึงโทรศัพท์ไปแจ้ง191 และเมื่อคืนก็ออกตามหาทั้งคืนจนมีเจ้าหน้าที่ตำรวจโทรศัพท์ไปบอกว่าแฟนของตนรมควันตัวเองตายในรถ ส่วน รปภ. ของห้างดังกล่าว ให้การว่า ตนพบเห็นรถคันดังกล่าวจอดอยู่ตั้งแต่เมื่อวันที่ 15 ก.ย. ที่ผ่านมา แต่ก็ไม่ได้เอะใจอะไร จะกระทั้งวันนี้มาทำงานอีกรอบ ก็ยังเห็นอีก จึงได้เดินมาดูพบหญิงสาวนอนอยู่ จึงได้เคาะกระจกเรียกก็ไม่ตื่น จึงได้รีบไปบอกหัวหน้าให้เข้ามาดูอีกรอบ ก่อนจะรีบโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจและ เจ้าหน้าที่กู้ภัยให้เข้ามาตรวจสอบ

ด้าน พ.ต.อ.วิวัฒน์ อัศวะวิบูลย์ ผกก.สภ.ธัญบุรี กล่าวว่า จากการสอบถามแฟนหนุ่มคาดว่าผู้ตายคิดสั้นเรื่องเป็นหนี้ เพราะมีการไปกู้ยืมเงินมาหลายแห่ง ส่วนรถคันนี้ก็เช่ามาได้ประมาณ 2 อาทิตย์ ในราคาวันละ 900 บาท ซึ่งในเบื้องต้นได้เชิญแฟนผู้เสียชีวิตมาสอบสวนถึงสาเหตุอย่างละเอียด ส่วนศพมอบให้มูลนิธิฯ นำส่งผ่าชันสูตรยัง สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ รพ.ธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ เพื่อหาสาเหตุการตายที่แท้จริงต่อไป