วันศุกร์ ที่ 19 เมษายน พ.ศ. 2567 12:24 น.

อาชญากรรม

เจ้าของอาคารพาณิชย์ ร้องสื่อถูกนักการเมืองท้องถิ่นคุกคาม หลังเตือนที่จอดรถ

วันอังคาร ที่ 11 พฤษภาคม พ.ศ. 2564, 13.26 น.
วันที่ 11 พ.ค เวลา10.00น. นายฤธี  รัตนวิมล ทนายความ พร้อม 2 แม่ลูก  เจ้าของอาคารพาณิชย์ 9 คูหา (สงวนชื่อนามสกุลกลัวไม่ปลอดภัย) ร้องสื่อคดีไม่คืบหน้า สืบเนื่องมาจากผู้เสียหาน 2 แม่ลูก ได้มีการเดินทางมาแจ้งความร้องทุกลงบันทึกประจำวันไว้ สภ.พระนครศรีอยุธยา เมื่อวันที่ 30 ธันวาคม 2563 ว่ามีคู่กรณีซึ่งเป็นนักการเมืองท้องถิ่นเข้ามาก่อเหตุทำลายทรัพย์สิน ภายในเขตพื้นที่ซึ่งเป็นพื้นที่ส่วนบุคคล ของผู้เสียหาย ซึ่งเรื่องดังกล่าวทางทนายได้มีการติดตาม เรื่องมาหลายครั้งแล้วแต่ก็ไม่มีคดีความคืบหน้าวันนี้ จึงเดินทางมา พบพนักงานสอบสวนเพื่อ ติดตาม ความคืบหน้าของคดี  แต่ผู้ก่อเหตุดังกล่าวยังไม่มีความเกรงกลัวในกฎหมาย อีกทั้งยังเป็นผู้รู้กฎหมาย ยังย้อนเข้าไปเกะกะระรานภายในพื้นที่ของผู้เสียหาย อีกเมื่อประมาณ 2 สัปดาห์ก่อน ทำให้ผู้เสียหายรู้สึกไม่ปลอดภัยในชีวิตประจำวัน  ซึ่งผู้เป็นแม่ก็มีอายุมากแล้วและก็ยังมีลูกสาวอยู่กันตามลำพัง
 
จนมาวันนี้จึงเดินทางมาพบพนักงานสอบสวนเจ้าของคดีแต่พบว่าหยุดไม่ได้เข้าเวรจึงได้โทรไปสอบถาม ได้ความว่าได้มีการเรียกคู่กรณีเข้ามาสอบถามแล้วแต่ทางคู่กรณีให้การกับพนักงานสอบสวนว่าจะเข้าไปไกล่เกลี่ยขอเจรากับทางผู้เสียหายเอง ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเห็นว่าเรื่องแบบนี้ สามารถไกล่เกลี่ยยอมความกันได้ จึงปล่อยให้ไปเจรากันเอง แต่ในเมื่อ ผู้ก่อเหตุไม่เข้าไปไกล่เกลี่ย  ทางพนักงานสอบสวนก็จะดำเนินการตามกฎหมายต่อไปเลย
 
ซึ่งตนเองเป็นทนายความตัวแทน ผู้เสียหาย จึงได้แจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้ในข้อหา ทำให้เสียทรัพย์และข่มขู่ทำให้ตกใจกลัว
ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดบริเวณหน้าอาคารพานิชย์ 9 คูหาติตกัน หมู่ 7 ต.คลองสวนพลู อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา ได้มีกล้องวงจรปิดบันทึก ติดตามไว้ได้ช่วงเวลาประมาณ 23.00 น ของวันที่ 29 ธันวาคม 2563 ไว้ได้ขณะชายคนหนึ่งเข้าไปก่อเหตุลักษณะป่วนทำลายสิ่งของซึ่งเป็นแผงเหล็ก ที่เจ้าของอาคารพาณิชย์นำไปวางกั้นไม่ให้มีคนนำรถเข้ามาจอดในพื้นที่ส่วนบุคคล โดยการใช้เท้าถีบเหล็กแผงกั้นให้ล้มจากนั้น เดินไปทำลายท่อปูนที่เจ้าของกั้นไว้ให้ล้มและลากไปวางไว้ที่บริเวณหน้าสำนักงานจากนั้นกล้องอีกตัวก็สามารถจับพฤติกรรมของผู้ก่อเหตุคนนี้ไว้ได้ขณะไป ลากถังขยะที่อยู่บริเวณด้านนอกมากองรวมไว้ที่หน้าสำนักงานทำให้ผู้เสียหายรู้สึกไม่ปลอดภัยในการใช้ชีวิตประจำวันเนื่องจากถูกนักการเมืองท้องถิ่นเข้ามาป่วนและทำลายทรัพย์สินภายในเขตพื้นที่ของผู้เสียหายถึง 5 ครั้ง บางครั้งก็นำประทัดเข้ามาจุดในเวลายามวิกาล
  
ส่วนทางด้านเจ๊หน่อยเจ้าของอาคารพาณิชย์ กล่าวว่า เรื่องเกิดขึ้นเกี่ยวกับสถานที่จอดรถซึ่งเรื่องนี้ก็ได้มีการตักเตือนคุยกันแล้วหลายรอบ โดยผู้เช่าซื้อ สามารถจอดรถที่บริเวณหน้าตึกของตัวเองได้ และก็ด้านนอก หากนำมาจอดในบริเวณที่มีการกั้นพื้นที่ไว้ ก็ไม่สมควรที่จะจอดนานเนื่องจากจะมีคนอื่นเข้าออกแต่ก็ได้ไปเตือนจนทำให้ทางนักการเมืองท้องถิ่นนั้นไม่พอใจ เขามาทำลายสิ่งของในช่วงกลางดึกหลายครั้ง ตนเองจึงเดินทางเข้าแจ้งความแต่เรื่องนั้นยังคงเงียบหาย  จึงอยากวอนให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งดำเนินการกลัวเรื่องเงียบหายและก็ต้องอยู่อย่างหวาดระแวง
 
ต่อมาผู้สื่อข่าวจึงเดินทางติดต่อสัมภาษณ์ทางผู้ถูกกล่าวหา ซึ่งเป็นนักการเมืองท้องถิ่นจริง  กล่าวว่า ก่อนหน้านั้นตนได้ไปซื้ออาคารพานิชย์ดังกล่าวที่บริเวณที่เกิดเหตุได้มีการเซ็นสัญญาตกลงซื้อขายเรียบร้อย และก็ไม่ได้พูดอะไรเกี่ยวกับเรื่องที่จอดรถเพราะ หากเราซื้อแล้วก็ต้องมีที่จอดรถให้ลูกค้า แต่พอซื้แล้วกลับมีปัญหาเรื่องที่จอดรถ ให้จอดได้คันเดียว ทั้งที่มันต้องมีพื้นที่ส่วนกลางให้จอดรถ และเมื่อนำรถไปจอดก็ไม่สามารถจอดได้ มีคนมาหาหรือ มาทำธุระหรือทำกิจกรรมต่างๆก็ไม่สามารถที่จะจอดได้เนื่องจากจะถูกไล่ตลอด ซึ่งตนเองคิคว่ามันไม่ยุติธรรมกับผู้เช่าซื้อ ซื้อแล้วไม่มีที่จอดแล้วจะซื้อทำไมแต่ตนเองนั้นก็ยอมรับผิดเกี่ยวกับเรื่องการที่ตนเองมีความโมโหและคุณหันไปหน่อยก็ยอมรับผิดแต่หากต้องส่วนการจุดประทัดนั้นตนเองได้มีการไหว้เจ้าที่ของตึกอยู่แล้วไม่ได้ไปกลั่นแกล้งแต่อย่างใดหากมีการแจ้งความ ตนเองก็ยินยอมรับใช้ให้กับสิ่งที่เสียหาย พร้อมนำโฉนดการซื้อขายของตึกมาให้ดูว่าเป็นผู้เช่าซื้อ ถูกต้องตามกฏหมาาย ส่วนเรื่องของการแจ้งความ หากต้องมีการไกล่เกลี่ยก็ขอไกล่เกลี่ยและรับใช้สิ่งที่เสียหายแต่ก็ต้องดูทางทนายว่าจะมีการพูดคุยกันอย่างไร

หน้าแรก » อาชญากรรม