วันที่ 4 ส.ค. ที่ผ่านมา พ.ต.อ.รณฤทธิ์ สุธาพจน์ ผกก.สภ.เมืองเพชรบูรณ์ เปิดเผยถึงกรณีคนร้ายก่อเหตุกระชากสร้อยคอทองคำนางเกี้ยว  ชื่นชม อายุ 54 ปี อยู่บ้านเลขที่ 264 หมู่ 2 ต.นาป่า อ.เมือง จ.เพชรบูรณ์ เหตุเกิดที่บ้านปากน้ำ หมู่ 12 ต.นาป่า ของบ่ายวันที่ 3 ส.ค. ที่ผ่านมา โดยคนร้ายได้สร้อยไปราว 1 ใน 6 ส่วนของสร้อยคอทองคำน้ำหนัก 1 บาท เนื่องจากขาดด้วยแรงกระชากและผู้เสียหายคว้าจับเอาไว้

 

 

พ.ต.อ.รณฤทธิ์ กล่าวต่อว่า เราได้ให้ความสำคัญกับคดีนี้ เพราะคนร้ายก่อเหตุในช่วงประชาชนเดือดร้อนจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 จึงสั่งการให้ พ.ต.ท.วิสุทธิ์  ภิมาลย์ รอง ผกก.สส. พ.ต.ต.อดิศร  สมานทร สว.สส. นำกำลังแกะรอยคนร้าย กระทั่งทราบเบาะแสรูปพรรณคนร้ายจากกล้องวงจรปิดและพยานแวดล้อม จนสามารถติดตามจับกุมนายอัครเดช  นิ่มทอง หรือ "หรั่ง ชอนไพร" อายุ 22 ปี อยู่บ้านเลขที่ 32/1 หมู่ 2 ต.ชอนไพร อ.เมืองเพชรบูรณ์ คนร้ายผู้ก่อเหตุคดีดังกล่าวได้ที่บ้านพักเมื่อช่วงบ่ายของวันนี้พร้อมของกลางที่ใช้ก่อเหตุประกอบด้วย หมวกกันน็อคเต็มใบสีดำ รถจยย. ยี่ห้อฮอนด้า เวฟ 110 ไอ สีดำ-แดง ทะเบียน 1 กข 1861 เพชรบูรณ์ เสื้อยืดแขนสั้น และกางเกงขายาวสีเทา ส่วนสร้อยทองของกลางคนร้ายได้นำไปขายที่ร้านทองแห่งหนึ่งในเขตเทศบาลเมืองเพชรบูรณ์ จึงตามไปตรวจยึดพบว่า สร้อยทองมีลักษณะขาด มีความยาว 16 ซม. น้ำหนักราว 1.8 กรัม และเคยก่อเหตุลักษณะเดียวกันมาแล้ว 2 ครั้งต่อเนื่องกัน ในท้องที่ ต.วังชมพู และ ต.ท่าพล อ.เมืองเพชรบูรณ์ ระยะเวลาห่างกันราว 2-3 เดือน และครั้งนี้เป็นครั้งที่ 3 โดยพฤติการณ์ก่อเหตุจะขับขี่รถจยย.ตระเวนดูเลือกก่อเหตุเฉพาะเหยื่อที่เป็นหญิงสวมใส่สร้อยคอทองคำ เมื่อสบโอกาสก็ลงมือทันที ทั้งนี้หากผู้เสียหายรายใดที่ถูกคนร้ายก่อเหตุลักษณะนี้ และคิดว่าเป็นคนร้ายรายเดียวกัน ก็มาดูตัวได้ที่ สภ.เมืองเพชรบูรณ์

 

 

สอบสวนนายอัครเดช ยอมรับสารภาพว่า เป็นผู้ก่อเหตุกระชากสร้อยจริง และก่อเหตุเพียงคนเดียว ไม่ได้ประกอบอาชีพอะไร โดยอาศัยอยู่กับยาย 2 คน และที่เลือกลงมือกับเหยื่อที่เป็นหญิงนั้น เพราะหลีกเลี่ยงการต่อสู้ และมีการป้องกันตัวน้อยกว่าผู้ชาย ส่วนแรงจูงใจที่ก่อเหตุเพราะอยากได้โทรศัพท์มือถือ แต่ไม่มีเงินซื้อ จึงลงมือก่อเหตุในครั้งล่าสุดนี้พบเห็นเหยื่อเป็นหญิงกลางคนใส่สร้อยคอทองคำเส้นโต จึงค่อยๆติดตามและเมื่อปลอดคนจึงลงมือ แต่ไม่คิดว่าเจ้าของจะขัดขืนจับสร้อยเอาไว้ พร้อมกับร้องให้คนช่วย ตนจึงรีบออกแรงกระชากทำให้สร้อยขาดติดมือมาเพียงเล็กน้อย และนำไปขายร้านทองได้เงินแค่ 2,500 บาท ก่อนจะนำไปซื้อโทรศัพท์จนหมด และเพิ่งจะใช้โทรศัพท์ได้เพียงแปปเดียวก็มาถูกตำรวจตามจับ เจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อหา วิ่งราวทรัพย์ โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิดหรือการพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นการจับกุม ก่อนคุมตัวดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.

 

 

ขอบคุณภาพบางส่วนจากเฟสบุ๊ค ยินดี ที่ได้ รู้จัก