วันที่ 19 ต.ค.2564 นายศักดิ์ชัย จงกิจวิวัฒน์ ผู้อำนวยการสำนักป้องกัน ปราบปราม และควบคุมไฟป่า เปิดเผยว่า จากสถานการณ์การบุกรุก ทำลายทรัพยากรป่าไม้ ในพื้นที่ป่าอนุรักษ์ ป่าชุมชม ป่าชายเลน  และพื้นที่ป่าตามที่กฎหมายกำหนดไว้ ได้ทวีความรุนแรงมากขึ้น โดยเฉพาะพื้นที่การบุกรุกเพื่อใช้ประโยชน์  จากนายทุนทั้งใน และนอกพื้นที่ รวมทั้งการตัดไม้ หรือการบุกรุกแผ้วถางพื้นที่ ในช่วงสถานการณ์ติดเชื้อไวรัส โคโรนา 2019(covid 19)  นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม และนายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม ได้มอบนโยบายในเรื่อง การป้องและปราบปราม การบุกรุกทำลายทรัพยากรป่าไม้ ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ดำเนินการป้องกัน และหยุดยั้งการบุกรุก ทำลายทรัพยากรป่าไม้ ให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ  ภายใต้การอำนวยการของ นายธัญญา เนติธรรมกุล อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ได้สั่งการให้สำนักป้องกัน ปราบปราม และควบคุมไฟป่า ดำเนินการแก้ไขปัญหา กรณีมีนายทุนข้ามชาติได้ว่าจ้างราษฎร จากสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว  เข้ามาลักลอบตัดไม้มีค่าทางเศรษฐกิจ (ชิงชัน ประดู่) ในเขตป่าประเทศไทย และชักลากข้ามกลับไปฝั่งประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว  ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติภูซาง ท้องที่บ้านสา หมู่ที่ 6 และบ้านหัวนา หมู่ที่ 7 ตำบลทุ่งกล้วย อำเภอภูซาง จังหวัดพะเยา ซึ่งติดแนวชายแดนระหว่างประเทศไทย กับสาธารณรัฐประชาธิปไตย ประชาชนลาว ระหว่างหลักพรมแดนที่ 18-20  

 

 

ทั้งนี้นายศักดิ์ชัย จงกิจวิวัฒน์ ผู้อำนวยการสำนักป้องกัน ปราบปราม และควบคุมไฟป่า นายพนัชกร โพธิบัณฑิต ผู้อำนวยการส่วนยุทธการ ด้านป้องกันและปราบปราม นายมงคล ไชยภักดี หน.หน่วยเฉพาะกิจพญาเสือ นายชัยชาญ ศรียงค์ หัวหน้าสำนักงาน สนับสนุนการป้องกัน และปราบปรามที่ 3 (ภาคเหนือ) นายสมบูรณ์  พุทธวงศ์ หัวหน้าหน่วยปฏิบัติการพิเศษที่ 5 เจ้าหน้าที่หน่วยปฏิบัติการพิเศษที่ 5 เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติภูซาง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง นำกำลังออกปฏิบัติการออกลาดตระเวน ในพื้นที่ป่าแนวชายแดนไทย-ลาว ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติภูซาง พบตอไม้และร่องรอยการแปรรูปไม้ ทั้งชิงชัน ประดู่ และอื่นๆ จำนวน 96 จุด  พบร่องรอยบริเวนช่องทางธรรมชาติ ที่กลุ่มขบวนการลักลอบตัดไม้ชาวลาว ใช้เป็นเส้นทางแอบลักลอบเข้ามาตัดไม้ และนำไม้ออกจากประเทศไทย ค่อนข้างใหม่ประมาณ 1 สัปดาห์ เรียกว่าช่องประตู 2 และตามเส้นทางในป่า พบร่องรอยการลักลอบตัดไม้ชิงชัน ไม้ประดู่ โค่นล้ม และแปรรูปไม้คาตอ จำนวนหลายจุด ทั้งใหม่และเก่า 

 

 

 

ขณะเดียวกันกำลังเจ้าหน้าที่ ที่กระจายกันซุ่มอยู่จุดเฝ้าระวัง ซึ่งอยู่ห่างจากแนวหลักเขตชายแดน เข้ามาฝั่งประเทศไทยราว 2-3 กิโลเมตร ได้ยินเสียงเครื่องเลื่อยโซ่ยนต์ อยู่ห่างจากจุดเฝ้าระวังค่อนข้างไกล คณะเจ้าหน้าที่จึงได้วางแผนกระจายกำลัง ทำดักซุ่มตามเส้นทางที่คาดว่าจะมีการลักลอบขนไม้ออกมา กระทั่งพบกลุ่มชายจำนวน 6 คน แบกไม้แปรรูปเดินออกมาจาราวป่า เจ้าหน้าที่สังเกตพบว่ามีชายคนที่ 3 และคนที่ 6 ในกลุ่มแบกไม้ ถืออาวุธปืนยาวมาด้วย  

 

เจ้าหน้าที่จึงได้แสดงตัวเพื่อจับกุม เมื่อกลุ่มมอดไม้ทั้ง 6 เห็นเจ้าหน้าที่ จึงทิ้งไม้แปรรูป วิ่งหลบหนี ส่วนชายคนที่ 3 ได้ใช้อาวุธปืนยาวยิงเข้าใส่เจ้าหน้าที่ เดชะบุญกระสุนพลาดไม่ถูกเจ้าหน้า เจ้าหน้าที่จึงยิงตอบโต้ พร้อมวิทยุขอกำลังเสริม จากเจ้าที่หน้าที่ ที่ดักซุ่มจากจุดอื่น เข้ามาสมทบ หลังเสียงปืนสงบ เจ้าหน้าที่สามารถควบคุมตัวผู้ต้องหา จำนวน 1 คน ทราบชื่อ นายโต้ง แสงมัว อายุ 48 ปี ชาวบ้านปางมอญ เมืองคอบแขวงไชยบุรี สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ถูกกระสุนเข้าที่หลังด้านขวา ได้รับบาดเจ็บ พร้อมยึดไม้ประดู่แปรรูป ยาว 200 ซม. กว้าง 50 ซม. หนา 5 ซ.ม.จำนวน 1  แผ่น/เหลี่ยม  อาวุธปืนประดิษฐ์ จำนวน 2 กระบอก พร้อมเครื่องกระสุน จำนวนหนึ่ง   

 

 

สอบสวนเบื้องต้นทราบว่า กลุ่มขบวนการชาวลาวทั้ง6 ได้รับการว่าจ้างจากนายทุนชาวเวียดนาม ให้ข้ามฝั่งจากประเทศลาวเข้ามาในพื้นที่ฝั่งไทย และลักลอบตัดไม้มีค่าทั้งไม้ประดู่ ไม้ชิงชัน จากนั้นแปรรูปเป็นแผ่น และขนไม้ทั้งหมดข้ามไปฝั่งประเทศลาว โดยได้ค่าจ้างแบกขนแผ่นละ 1,500 บาท ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้นำตัวผู้ต้องหาส่งรพ.พร้อมนำของกลางทั้งหมด ส่งพนักงานสอบสวน ดำเนินการตามกฎหมาย  อย่างไรก็ตามกำลังเจ้าหน้าที่ จะออกปฏิบัติการกวาดล้าง กลุ่มขบวนการลักลอบตัดไม้ข้ามชาติ นี้อย่างต่อเนื่องเฉียบขาดต่อไป