เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 18 ม.ค. 65 พ.ต.ท.ก้องภพ สีหาชัย รองผกก.(สส.)สภ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย ได้ออกตรวจสอบที่เกิดเหตุเพลิงไหม้บ้านซ้ำเป็นรอบที่สอง ที่บ้านของนายพลังโชค สมอ่อน อายุ 55 ปี ที่ทำการผู้ใหญ่บ้าน เลขที่ 116 หมู่ 7 บ้านราษฎร์สามัคคี ต.หนองนาง อ.ท่าบ่อ และเป็นผู้ใหญ่บ้าน โดยพบว่าอยู่ระหว่างการเก็บเศษซากที่เสียหายจากเพลิงไหม้ออกจากบ้าน ซึ่งถูกนายวีระยุทธ สมอ่อน อายุ 30 ปี ลูกชายผู้ใหญ่บ้านเป็นผู้เผาบ้านตัวเอง     

        

นายพลังโชค สมอ่อน ผู้ใหญ่บ้าน เล่าว่า เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 17.00 น. วันที่ 15 ม.ค.ที่ผ่านมา ตนกับภรรยาไปทำเกษตรที่สวน มีเพียงนายวีระยุทธ ซึ่งเป็นลูกชายคนเล็ก จากจำนวนลูกสองคน อยู่บ้านเพียงลำพัง มีเพื่อนบ้านไปบอกว่า ลูกชายเผาบ้านตัวเอง ตนรีบกลับมาดูก็เห็นไฟกำลังลุกไหม้บ้านซึ่งเป็นบ้านสองชั้นครึ่งปูนครึ่งไม้ และตนอยู่ระหว่างการต่อเติมบ้านด้านข้าง ถูกไฟไหม้ทั้งหลัง ไม่สามารถเก็บข้าวของได้ทัน ประเมินมูลค่าเสียหายประมาณ 6 แสนบาท ขณะนี้ต้องไปขออาศัยบ้านแม่ยายในหมู่บ้านเดียวกันอยู่ชั่วคราวก่อนจะได้ปรับปรุงบ้านหลังใหม่ และยิ่งรู้ว่าเป็นฝีมือลูกชายตัวเองก็ยิ่งเสียใจ โดยนายวีระยุทธนั้นเสพยาเสพติด พ่อแม่ตักเตือนหลายครั้งแต่ไม่เคยฟัง ก่อนหน้านี้พ่อแม่เคยเซ้นร้านเสริมสวยที่กรุงเทพให้ทำ แต่ก็ทำได้ไม่นานก็เลิกและกลับมาอยู่บ้าน ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด มักจะขอเงินพ่อแม่ไปเสพยาบ้า พอขอไม่ได้ก็จะอาละวาด ด่าทอ ทำลายข้าวของ ก่อนหน้านี้เมื่อเดือน พ.ย.64 ที่ผ่านมา เคยก่อเหตุจะไปเผาโรงเรียนในหมู่บ้าน แต่เผาได้เพียงเอกสารบางอย่าง และชาวบ้านช่วยกันห้ามได้ทัน ส่วนในครั้งนี้ทราบว่าวันเกิดเหตุ ลูกชายได้ไปขโมยน้ำมันเบนซินที่ร้านขายของชำในหมู่บ้านบรรจุขวดขาย หยิบน้ำมันมา 5 ขวด แล้วขังตัวเองอยู่ในห้องชั้นบน จากนั้นไม่นานก็จุดไฟเผาหมอน ทำให้ไฟไหม้บ้าน ชาวบ้านช่วยกันดับไฟและแจ้งเจ้าหน้าที่ดับเพลิงมาช่วยเหลือ โดยระหว่างนั้นนายวีระยุทธได้ขังตัวเองอยู่ในห้อง เจ้าหน้าที่พาตัวออกมาได้ ทั้งนี้อยากให้ตำรวจดำเนินคดีให้ถึงที่สุด จะไม่ประกันตัวไม่ช่วยเหลือใดๆ ทั้งสิ้น เพราะเกรงว่าจะออกมาก่อเหตุซ้ำ สร้างความเดือดร้อนให้กับชาวบ้านอีก

 

ด้าน พ.ต.ท.ก้องภพ สีหาชัย รองผกก.(สส.)สภ.ท่าบ่อ กล่าวว่า หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัวนายวีระยุทธ ผู้ก่อเหตุในข้อหา วางเพลิงเผาทรัพย์ และตรวจปัสสาวะพบสารเสพติด จึงแจ้งข้อหาเสพยาเสพติดด้วย โดยนายวีระยุทธ เป็นผู้ที่อยู่ในบัญชีเฝ้าระวังของเจ้าหน้าที่อยู่แล้ว เคยจับกุมในข้อหาครอบครองยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) 1 เม็ด และจับเสพ ซึ่งได้ส่งศาลพิจารณาโทษทั้งเสพและครอบครองเป็นเวลา 2 เดือน ปรับ 5 พันบาท โทษจำคุกรอลงอาญา และอยู่ระหว่างการบังคับคดี บำเพ็ญประโยชน์ ก็กลับมาอยู่บ้าน แต่มาก่อเหตุวางเพลิงเผาทรัพย์ ซึ่งโทษหนัก เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ฝากขังเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และจะดำเนินการตามกระบวนการทางกฎหมาย โดยจะต้องให้เจ้าของร้านขายของชำแจ้งความในข้อหาลักทรัพย์เพิ่มเติมด้วย.