เมื่อวันที่ 17 ม.ค.66 พ.ต.อ.ศตวรรษ บุญมี ผกก.1 บก.ทล.,พ.ต.ท.ลัทธศักดิ์ ภูถี่ถ้วน,พ.ต.ท.ธัช โพธิ์สุวรรณ รอง.ผกก.1 บก.ทล.พ.ต.ท.ธนศักดิ์ ปราสาททอง สว.ส.ทล.1 กก.1 บก.ทล. ร.ต.อ.วัชรพล  วชิรกุลฑล รอง สว.ส.ทล.1 กก.1 บก.ทล.ร.ต.ท.ประธาน จตุพันธ์ รอง สว.(ป.) ส.ทล.1 กก.1 บก.ทล. พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่สืบสวนสภ.พระอินทร์ราชา  ได้ร่วมกันจับกุมนายจิรพงษ์ อายุ 38 ปี  ตามหมายจับ ต.แสนชาติ อ.จังหาร จ.ร้อยเอ็ด อาชีพรับจ้าง ซึ่งเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลแขวงนครปฐม ที่  13/2563 ลงวันที่ 23 ม.ค. 2563  ข้อหา “ขับรถโดยไม่คำนึกถึงความปลอดภัย” และ เป็นผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดปทุมธานี ที่  จ.79/2563 ลงวันที่ 17 ก.ค. 2563  ข้อหา “ขับรถโดยไม่คำนึกถึงความปลอดภัยของผู้อื่น ให้เสียทรัพย์ และทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กายหรือจิตใจ”

 

 

ด้านพ.ต.ท.ธนศักดิ์ ปราสาททอง สว.ส.ทล.1 กก.1 บก.ทล. ได้ให้ข้อมูลว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงอยุธยาได้รับแจ้งว่านายจิรพงษ์  เป็นผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลแขวงนครปฐม ที่ จ.13/2563 ลงวันที่ 23 ม.ค. 2563  ข้อหา “ขับรถโดยไม่คำนึกถึงความปลอดภัย”และ เป็นผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดปทุมธานี ที่  จ.79/2563 ลงวันที่ 17 ก.ค. 2563  ข้อหา “ขับรถโดยไม่คำนึกถึงความปลอดภัยของผู้อื่น ให้เสียทรัพย์ และทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กายหรือจิตใจ” ได้กลับเข้ามาอาศัยในพื้นที่ ต.บางปะอิน อ.เชียงรากน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้สืบสวนหาข่าวเพื่อจับกุมตัว กระทั่ง เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม เดินทางไปถึง บริเวณหน้าธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาประตูน้ำพระอินทร์ กม.48 ทล.1 ถ.พหลโยธิน ต.บางปะอิน อ.เชียงรากน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา พบชายต้องสงสัย มีลักษณะรูปพรรณ ตรงกับนายจิรพงษ์ แมนจันทึก (ผู้ต้องหา) ซึ่งเจ้าหน้าที่ชุดจับกุม ได้ตรวจสอบชายดังกล่าว ตรงตามตำหริรูปพรรณผู้กระทำผิด เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงแสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมสอบถามชายดังกล่าว ทราบชื่อ นายจิรพงษ์ แมนจันทึก อายุ 38 ปี  บ้านเลขที่  154 ม.9 ต.แสนชาติ อ.จังหาร จ.ร้อยเอ็ด อาชีพรับจ้าง 

 

 

เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม จึงได้นำหมายจับของศาลแขวงนครปฐม ที่  จ.13/2563 ลงวันที่ 23 ม.ค. 2563  ข้อหา “ขับรถโดยไม่คำนึกถึงความปลอดภัย”และ หมายจับของศาลจังหวัดปทุมธานี ที่  จ.79/2563 ลงวันที่ 17 ก.ค. 2563 ข้อหา “ขับรถโดยไม่คำนึกถึงความปลอดภัยของผู้อื่น ให้เสียทรัพย์ และทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กายหรือจิตใจ”แสดงให้นายจิรพงษ์ (ผู้ต้องหา) ดูและอ่านให้ฟังจนเป็นที่เข้าใจดีแล้ว  รับว่าเป็นบุคคลตามหมายจับจริง และยังไม่เคยถูกจับกุมตัวดำเนินคดีในคดีนี้มาก่อน  เจ้าหน้าที่จึงแจ้งให้เขาทราบว่าเขาจะต้องถูกจับกุมตัวในข้อหาดังกล่าวข้างต้นและจะต้องถูกควบคุมตัวไปที่ทำการของ ส.ทล.1 กก.1 บก.ทล. เพื่อทำการบันทึกจับกุม และนำตัวผู้ต้องหาพนักงานสอบสวน  สภ.ลาดหลุมแก้ว ภ.จว.ปทุมธานี  เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย  เมื่อผู้ต้องหารับทราบข้อกล่าวหาและเข้าใจดีแล้ว  จึงควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินการตามกฎหมายต่อไป ซึ่งผู้ต้องหารายนี้เป็นแก็งตบทรัพย์ที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงอยุธยาเคยจับกุมตัวมาดำเนินคดีแล้วก่อนหน้านี้ซึ่งสร้างความเดือนร้อนให้กับพี่น้องประชาชนที่จะต้องมาเสียเงินให้กับคนร้ายเหล่านี้

 

 

ส่วนนายจิรพงษ์ (ผู้ต้องหา) รับสารภาพว่าตนเองเคยนั่งรถมากับแก๊งที่ขับรถยนต์ไปเฉี่ยวชนรถคัน และก็ลงไปเรียกค่าเสียหายโดยตนเองได้ส่วนแบ่งครั้งล่ะ 5-6 พันบาททำมาแล้วหลายครั้ง