วันพุธ ที่ 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2568 11:17 น.

อาชญากรรม

จับครบทีม รองนายก อบต.-ผู้ใหญ่บ้าน-มือปืน ฆ่า 2 ศพ หมกขนำในสวนปาล์ม อ้างแค้นชอบลักผลปาล์ม

วันศุกร์ ที่ 26 มกราคม พ.ศ. 2567, 18.33 น.

กรณีเหตุการณ์คนร้ายใช้อาวุธปืน9มม.และลูกซองยาวยิงนายเอกวัฒน์หรือน้อง   วงละคร อายุ 31ปี และนายสาคร อักษรพาลี อายุ 47ปี เสียชีวิตคาที่2ศพหมกในขนำไม่มีเลขที่ในสวนปาล์มน้ำมัน บ้านบางกระบือ ม.6 ต.ท่าไร่ อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช พบศพเมื่อเย็นวันที่ 21มกราคม2567ที่ผ่านมา โดยหลังเกิดเหตุกำลังตำรวจแล้วทาง พล.ต.ต.สมชาย ซื่อต่อตระกูล ผบก.ภ.นครศรีธรรมราชพร้อมด้วย พ.ต.อ.นัษฐวุฒิ   ทองทิพย์ รอง ผบก.ภ.นครศรีธรรมราช ได้นำกำลังตำรวจชุดสืบสวนภาค8 สืบสวนจังหวัดและสืบสวนสภ.เมืองนครศรีธรรมราชลงพื้นที่ทำการสืบสวนเพื่อเร่งล่าตัวคนร้ายรายนี้ โดยเบื้องต้นทาง ผบก.ภ.นครศรีธรรมราช ระบุผู้ตายทั้งสองสองศพมีความประพฤติไม่เรียบร้อยชอบลักเล็กขโมยน้อยอาจจะทำให้เจ้าของทรัพย์โกรธแค้นตามายิงล้างแค้นก็ได้ตามข่าวนั้น

ล่าสุดเมื่อวันที่ 26 มค.2567 ทางตำรวจชุดคลี่คลายคดีนำโดย พล.ต.ต.สมชาย ซื่อต่อตระกูล ผบก.ภ.นครศรีธรรมราชและพ.ต.อ.นัษฐวุฒิ ทองทิพย์ รอง ผบก.ภ.นครศรีธรรมราช, พ.ต.อ.พิศิษฐ์ วิเศษวงศ์ ผกก.กก.สส.ภ.จว.นครศรีธรรมราช  ได้ร่วมกันคลี่คลายคดีและสามารถจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดนครศรีธรรมราช ที่ร่วมก่อเหตุแล้ว 2 คน คือนายบุญนำ อายุ 66 ปี เป็นรองนายก อบต. และอีกคนชื่อนายทวีศักดิ์ อายุ 47ปี เป็นผู้ใหญ่บ้าน โดยตำรวจได้มีการควบคุมตัวนายบุญนำและนายทวีศักดิ์ มาทำการสอบสวนปากคำเบื้องต้นทั้งสองให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหาว่าได้ร่วมกันก่อเหตุฆ่านายเอกวัฒน์หรือน้องและนายสาคร จำนวน 2 ศพจริง โดยสาเหตุมาจากความโกรธที่ผู้ตายทั้งสองชอบลักขโมยผลปาล์มน้ำมันและสิ่งของต่างๆในนากุ้งของนายบุญนำมาหลายครั้งแล้ว แต่ห้ามไม่ฟังทั้งสองยังแอบลักขโมยอีกเลยทำให้แค้นหนัก

จากนั้นนายบุญนำ ได้ร่วมวางแผนกับนายทวีศักดิ์ ว่าจ้างให้นายวีระพงศ์ อายุ 30 ปีเศษ เป็นคนพาอาวุธปืน 9 มม.และลูกซองยาวบุกไปยิงนายเอกวัฒน์และนายสาครเสียชีวิตทั้งสองศพคาขนำดังกล่าว ซึ่งหลังจากนายบุญนำและนายทวีศักดิ์ รับสารภาพแล้วทางตำรวจได้คุมตัวทั้งสองไปยังขนำนากุ้งของนายบุญนำห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 200 เมตรเพื่อหาปลอกกระสุนปืนลูกซองยาวแต่ไม่พบและไปหาปลอกกระสุนปืนลุกซองยาวที่ขนำที่เกิดเหตุอีกครั้งแต่ก็ไม่พบ ซึ่งทางตำรวจจะเร่งสอบสวนขยายล่าตัวนายวีระพงศ์หรือปาล์ม ผู้ต้องหาที่ยังหลบหนีอีกคนมาดำเนินคดีตามกม.ต่อไป

โดยผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามนายบุญนำและนายทวีศักดิ์ 2 ผู้ต้องหาถึงสาเหตุที่แท้จริงทมี่ก่อเหตุครั้งแต่ทั้งสองปิดปากเงียบไม่ยอมให้สัมภาษณ์ใดๆกับผู้สี่อข่าว.

ทั้งนี้เมื่อเวลา 14.30 น.วันที่ 26 มค. 2567 พ.ต.อ.นัษฐวุฒิ ทองทิพย์ รอง ผบก.ภ.นครศรีธรรมราช นำกำลังตำรวจชุด กก.สส.ภ.จว. นครศรีธรรมราช พร้อมด้วยหมายจับของศาลจังหวัดนครศรีธรรมราชไปจับกุมนายวีระพงศ์ อายุ 30ปี ผู้ต้องหาที่ถูกออกหมายจับ ได้ขณะกบดานกับแฟนสาวที่บ้านทาวเฮาส์ 2 ชั้นไม่ทราบเลขที่ จ.นครศรีธรรมราช โดยเมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แสดงหมายจับและทำการจับกุมตัวนายวีระพงศ์หรือปาล์ม ทำให้นายวีระพงศ์หรือปาล์มถึงกับตกใจหน้าซีดเกือบจะเป็นลม ซึ่งจนท.ตำรวจได้ปลอบใจและให้ยาดม หลังจากอาการดีขึ้นแล้วตำรวจได้คุมตัวนายวีระพงศ์หรือปาล์ม ไปชี้ที่เกิดเหตุ 

โดยในเบื้องต้นนายวีระพงส์ ให้การรับสารภาพว่าได้รับการว่าจ้างเป็นเงินจำนวน 5 หมื่นจากนายบุญนำ รองนายก อบต. และนายทวีศักดิ์ ผู้ใหญ่บ้าน ให้ไปยิงนายเอกวัฒน์และนายสาคร จนเสียชีวิตคาขนำ 2 ศพจริง แต่หลังจากเดิเหตุแล้วตนได้หลบหนีมากบดานบ้านแฟนสาวในซอยดังกล่าว โดยยังไม่ได้รับเงินค่าจ้าง 5 หมื่นบาทก็มาถูกตำรวจบุกจับได้เสียก่อนดังกล่าว โดยคืนเกิดเหตุวันที่ 20 มค.2567 ตนได้เดินทางไปพร้อมกับนายบุญนำ ซึ่งนำอาวุธปืนทั้งลูกซองยาวและอาวุธปืน 9มม.มาให้ตนบุกยิง2ศพดังกล่าวซึ่งทางตำรวจกำลังคุมตัวไปชี้จุดที่เกิดเหตุและสอบสวนปากคำขยายผลอีกครั้งว่าให้การเท็จจริงอย่างไรต่อไป ก่อนคุมตัวดำเนินคดีตามากม.ต่อไป

ด้านนายบุญนำ และนายทวีศักดิ์ ทางตำรวจได้แจ้งข้อหา ร่วมเป็นผู้ใช้จ้างวานให้ฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน,ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน,ร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาค,ร่วมกันพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุจำเป็นเร่งด่วน” ส่วนนายวีระพงส์หรือปาล์ม ทางตำรวจได้แจ้งข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน,ร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต,ร่วมกันพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุจำเป็นเร่งด่วน”


 

หน้าแรก » อาชญากรรม