วันที่ 18 ก.ค. 68 ที่ สภ.เมืองอุดรธานี พ.ต.อ.จตุรวิทย์ คชน่วม หรือ รองเทน รองผู้บังคับการกองตรวจราชการ 4 สำนักงานจเรตำรวจ พร้อมคณะ ได้เดินทางมาตรวจราชการ สภ.เมืองอุดรธานี โดยมี พ.ต.อ.พัฒนวงศ์ จันทร์พล ผกก.สภ.เมืองอุดรธานี นำผู้ใต้บังคับบัญชาในสังกัดให้การต้อนรับและนำตรวจราชการในสภ.เมืองอุดรธานี โดยขณะรองเทนได้เดินตรวจการทำงานของตำรวจที่ห้องรับแจ้งความพบนางอุทัยวรรณ บุญเลิศ อายุ 63 ปี ชาวบ้านบ้านศรีบุญเรือง ต.นาดี อ.เมืองอุดรธานี พร้อมหลานมารอแจ้งความ รองเทนได้เดินเข้าไปสอบถามทันทีว่าวันนี้มาแจ้งความเรื่องอะไรญาติ นางอุทัยวรรณฯ ก็ตอบไปว่า วันนี้มาแจ้งความดำเนินคดีแจ้งความจับนายโน่หรือนิว อดีตลูกเขยคลั่งบุกรุกมาในบ้านเผาเครื่องซักผ้าหวิดลามบ้านไหม้ทั้งหลัง  โดยรองเทนได้ให้ความสนใจพร้อมรับเรื่องและสั่งการให้ตำรวจไปเชิญตัวนายโน่หรือนายนิว คนก่อเหตุมาก่อนจะตรวจราชการเสร็จ 

ทันทีที่รับคำสั่ง รอง ผกก.สภ.เมืองอุดธานีได้วิทยุให้ตำรวจสายตรวจนายโน่มาที่ สภ.เมืองอุดรธานี พอมาถึงโรงพักนายนิว ลูกเขยที่แม่ยายบอกว่าคลั่งเผาเครื่องซักผ้าหวิดไหม้บ้านทั้งหลัง โดยนายนิวก็ไม่ได้ขัดขืนและยินยอมมาตามคำเชิญของตำรวจ จากการตรวจฉี่พบว่ามีผลเป็นบวก มีสารเสพติดในร่างกาย ตำรวจจึงดำเนินการตามอำนาจหน้าที่โดยแจ้งข้อหาเสพยาเสพติดให้โทษแก่ร่างกายส่งตัวบำบัดรักษาต่อไป ส่วนเรื่องเผาเครื่องซักผ้าเจ้าตัวให้การปฏิเสธตำรวจว่าไม่ได้เผา จึงนำตัวส่งพนักงานสอบสวนให้ตำรวจสืบสวนหาหลักฐานก่อนจะสอบสวนอีกครั้งต่อไป

หลังรองเทน ตรวจราชการแล้วเสร็จได้ลงมาพบกับนางอุทัยวรรณ พร้อมบอกว่า เรื่องนี้ตำรวจยืนยันดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ของตำรวจตามกรอบของกฎหมาย  ตำรวจไม่สามารถทำอะไรตามใจ ได้แต่สัญญาเรื่องนี้ตำรวจจะดำเนินคดีตามกฎหมายให้ถึงที่สุด ขอให้พี่อุทัยวรรณสบายใจ เรื่องนี้ทางผู้กำกับและรองผู้กำกับจะให้ตำรวจสายตรวจ เข้าไปตรวจในพื้นที่บ่อยและถี่ขึ้น ส่วนกรณีที่ทางประชาชนผู้เสียหายแจ้งตำรวจ 191 ไปแล้วทำงานล่าช้าเรื่องนี้ตนขอยอมรับผิดพลาดจะมีการแก้ไขปรับปรุงให้ดีขึ้น ซึ่งรองเทนได้ยกมือไหว้กล่าวขอโทษประชาชนที่ไม่ได้รับความสะดวก ซึ่งป้าอุทัยวรรณก็ได้ลุกขึ้นยกมือไหว้ของคุณรองเทนช่วยจัดการเรื่องนี้ให้อย่างเร่งด่วน

นางอุทัยวรรณ เล่าว่า ที่มาสถานีตำรวจก็เพราะจะมาแจ้งความจับอดีตลูกเขย เนื่องจากวันที่ 15 ก.ค.68 ที่ผ่านมา อดีตลูกเขยมันบุกรุกมาในบ้านแล้วเผาเครื่องซักผ้าหวิดไฟไหม้บ้านทั้งหลัง ดีที่ชาวบ้านและรถดับเพลิงอบต.นาดีมาดับไว้ทัน สำหรับอดีตลูกเขยคนนี้พอทะเลาะกับเมีย ก็จะมาตามหาเมียที่บ้านแล้วเอะอะโวยวายทำลายทรัพย์สินจนพังขู่แม่ยายด้วย ด่าเมียอย่างโน้นอย่างนี้ โดยวันที่ 15 ก.ค. เขาก็เข้ามาตามหาเมียอีก โดยได้เผายางในรถจักรยานยนต์แล้วก็หย่อนลงในเครื่องซักผ้าจนเครื่องซักผ้าไหม้หมด และหลายๆครั้งเมื่อทะเลาะกับเมียก็จะมาลงอารมณ์ที่บ้าน ทำให้ตอนนี้ตกอยู่ในความหวาดกลัวหวาดระแวง เพราะบ้านหลังนี้ตนอยู่คนเดียว

นายโน่หรือนายนิว บอกว่า ผมไม่ได้เผาครับเจ้านาย วันนี้ยู่บ้านทั้งวันตั้งแต่เช้าไม่ได้ออกไปไหนเลย ทั้งนี้ตนเป็นลูกเขยของบ้านหลังนั้นจริง ที่ไปบ้านนั้นเป็นที่ไปถามหาเมียเท่านั้นไม่ได้ไปทำอะไรเลย ส่วนเครื่องซักผ้าก็ไม่รู้ว่าใครเผา ผู้สื่อข่าวถามว่าเคยไปก่อเรื่องอะไรที่ไหนไหม  นายโน่หรือนิวบอกว่าไม่เคยทำอะไรเลยผมก็ทำงานปกติออกไปหากินกับเมียตามปกติครับ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเพิ่มเติมว่า สำหรับนายนิว เคยถูกแม่แท้ๆ แจ้งจับมาแล้วครั้งหนึ่งเมื่อวันที่ 24 ต.ค. 67 ที่ผ่านมา เพราะเขาเคยถือมีดขู่ทำร้ายแม่แท้ๆของตัวเอง และลากมีดกลางถนนไปทั่วหมู่บ้าน ซึ่งตอนนั้นนายนิวหายซ่าไป 3 เดือน จนมาก่อเหตุอาละวาดเผาเครื่องซักผ้าหวิดลามไหม้บ้านแม่ยายอีกครั้ง