วันพฤหัสบดี ที่ 18 เมษายน พ.ศ. 2567 10:51 น.

เศรษฐกิจ

บอร์ดทอท.ไฟเขียวผุดสนามบินเชียงใหม่-ภูเก็ตระยะ2

วันพฤหัสบดี ที่ 24 พฤษภาคม พ.ศ. 2561, 19.15 น.

บอร์ดทอท.ไฟเขียวผุดสนามบินเชียงใหม่-ภูเก็ตระยะ2

     

 

ผู้สื่อข่าวรายงานถึงผลการประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือทอท. โดยมีนายประสงค์ พูนธเนศ ประธานกรรมการ ทอท. เป็นประธาน ทั้งนี้ ที่ประชุมได้เห็นชอบในหลักการให้ ทอท.ดำเนินโครงการจัดตั้งศูนย์ตรวจสอบและรับรองคุณภาพสินค้าก่อนส่งออก (Certify Hub) ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ โดยจัดตั้งบริษัทร่วมทุนเพื่อบริหารโครงการฯ ตามที่รัฐบาลได้มีนโยบายพัฒนาระบบการขนส่งสินค้าและบริการด้านโลจิสติกส์ เพื่อผลักดันประเทศไทย สู่การเป็นศูนย์กลางการค้าในภูมิภาคอาเซียน เชื่อมโยงการประกอบธุรกรรมทางการค้าในรูปแบบพาณิชย์ อิเล็กทรอนิกส์ (E-commerce) ส่งเสริมการส่งออกสินค้าภาคเกษตรกรรม ให้มีความได้เปรียบสามารถแข่งขันเวทีโลก และจากการที่ได้มีการแก้ไขพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ.2560 โดยกำหนดให้ท่าอากาศยานที่อยู่ภายใต้การบริหารงานของ ทอท.และท่าอากาศยานอู่ตะเภาสามารถประกอบกิจการเขตปลอดอากรโดยไม่ต้องมีใบอนุญาตสำหรับสินค้าที่จะนำเข้ามาเพื่อส่งออกหรือเป็นศูนย์กระจายสินค้า ส่งผลให้มีผู้ใช้บริการที่ต้องการประกอบกิจกรรมเป็นจำนวนมาก
     

 

นอกจากนี้ บอร์ดยังเห็นชอบในหลักการให้ ทอท.การดำเนินโครงการก่อสร้างท่าอากาศยานเชียงใหม่(ทชม.) และท่าอากาศยานภูเก็ต (ทภก.) แห่งที่ 2 เพื่อเพิ่มศักยภาพในการรองรับผู้โดยสาร และลดปัญหาความแออัดของท่าอากาศยานในปัจจุบัน อย่างไรก็ตาม ทชม.และ ทภก.คาดว่าจะมีปริมาณการจราจรทางอากาศสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากคาดการณ์ปริมาณการจราจรทางอากาศในปี 2581 ทชม.จะมีผู้โดยสารประมาณ 23.33 ล้านคน และจำนวนเที่ยวบิน 137,790 เที่ยวบิน ซึ่งจากแผนแม่บทการพัฒนา ทชม.จะสามารถพัฒนาจนเต็มศักยภาพในปี 2568 โดยมีความสามารถในการรองรับผู้โดยสารได้ 20 ล้านคนต่อปี

 


ส่วน ทภก.จากคาดการณ์ในปี 2581 จะมีผู้โดยสารประมาณ 42.42 ล้านคน จำนวนเที่ยวบิน 211,150 เที่ยวบิน ซึ่งจากแผนแม่บทการพัฒนา ทภก.จะสามารถพัฒนาจนเต็มศักยภาพในปี 2565 จะมีความสามารถในการรองรับผู้โดยสารที่ 18 ล้านคนต่อปี ทอท.ได้มีการศึกษาแนวทางการดำเนินโครงการก่อสร้าง ทชม. และ ทภก.แห่งที่ 2 โดยจะพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและสิ่งอำนวยความสะดวกในระยะแรกให้มีขีดความสามารถในการรองรับผู้โดยสารในเบื้องต้นประมาณ 10-15 ล้านคนต่อปี โดยมี 1 ทางวิ่ง ทั้งนี้จากการสำรวจความเหมาะสมของพื้นที่ก่อสร้าง ทั้งนี้ ปัจจุบัน พบว่าพื้นที่เหมาะสมกับการก่อสร้างทชม.แห่งที่ 2 ได้แก่ พื้นที่ระหว่างอำเภอสันกำแพง จังหวัดเชียงใหม่ กับอำเภอบ้านธิ จังหวัดลำพูน ส่วนพื้นที่เหมาะสมสำหรับการก่อสร้าง ทภก.แห่งที่ 2 ได้แก่ พื้นที่อำเภอโคกกลอย จังหวัดพังงา ซึ่ง ทอท.ได้ประมานการเบื้องต้นวงเงินลงทุนก่อสร้างท่าอากาศยานทั้ง 2 แห่ง รวมประมาณ 1.26 แสนล้านบาท
     

 

 สำหรับพื้นที่ก่อสร้าง คณะกรรมการ ทอท.ให้พิจารณาขนาดที่ดินให้เหมาะสม โดยพิจารณาความสมดุลระหว่างการขยายตัวของสนามบินในอนาคตและระยะเวลาการก่อสร้างที่ต้องไม่ใช้เวลานานจนส่งผลกระทบต่อการให้บริการ 

 

ทั้งนี้ ทอท.จะเร่งศึกษาและวิเคราะห์โครงการก่อสร้างท่าอากาศยานแห่งใหม่ เพื่อนำเสนอกระทรวงคมนาคมและคณะรัฐมนตรีพิจารณาให้ความเห็นชอบ รวมทั้งเสนอผู้ถือหุ้นเพื่อพิจารณาอนุมัติการลงทุนในโครงการดังกล่าว ซึ่งคาดว่า กระบวนการทั้งหมดจะแล้วเสร็จและสามารถดำเนินก่อสร้างได้ก่อนระยะเวลาที่ ทชม.และ ทภก.จะเต็มขีดความสามารถในการรองรับการใช้บริการผู้โดยสาร