วันเสาร์ ที่ 20 เมษายน พ.ศ. 2567 05:43 น.

เศรษฐกิจ

สบน.แจงกู้เงินจีนสร้างรถไฟความเร็วสูงไทย-จีน

วันพุธ ที่ 23 มกราคม พ.ศ. 2562, 12.43 น.

สบน.แจงกู้เงินจีนสร้างรถไฟความเร็วสูงไทย-จีน

         

นางจินดารัตน์ วิริยะทวีกุล ผู้อำนวยการสำนักนโยบายและแผนสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ กล่าวถึงประเด็นชี้แจงเกี่ยวกับข้อวิจารณ์การกู้เงินจากจีน สำหรับโครงการพัฒนาระบบรถไฟความเร็วสูงเพื่อเชื่อมโยงภูมิภาค

 

ช่วงกรุงเทพมหานคร – หนองคาย (ระยะที่ 1 ช่วงกรุงเทพมหานคร – นครราชสีมา) ว่าสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) ขอชี้แจงการดำเนินความร่วมมือระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยและรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีนในโครงการพัฒนาระบบรถไฟความเร็วสูงเพื่อเชื่อมโยงภูมิภาคเป็นไปตามกรอบความร่วมมือระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยและรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีนว่าด้วยการกระชับความร่วมมือในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางรถไฟ (Framework of Cooperation: FOC)


ภายใต้กรอบยุทธศาสตร์การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานการคมนาคมขนส่งของประเทศไทยพ.ศ. 2558-2565 เมื่อวันที่ 24 สิงหาคม 2559 ซึ่งใน FOC ทั้ง 2ฝ่ายได้เห็นชอบในหลักการว่า
แหล่งที่มาของเงินทุนสำหรับดำเนินโครงการฯ จะมาจากหลายแหล่ง ประกอบด้วย งบประมาณของรัฐบาลไทย เงินกู้ภายในประเทศ และแหล่งเงินกู้อื่น โดยหลักเกณฑ์และเงื่อนไขเงินกู้ของฝ่ายจีนจะต้องดีที่สุดเมื่อเปรียบเทียบกับแหล่งเงินกู้อื่น เมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม 2560 คณะรัฐมนตรีได้มีมติอนุมัติให้สำนักงบประมาณและกระทรวงการคลังพิจารณาจัดหาแหล่งเงินทุนสำหรับดำเนินโครงการดังกล่าว ซึ่งมีวงเงินลงทุนรวม 179,412.21 ล้านบาท แบ่งเป็นเงินงบประมาณ 13,273.89 ล้านบาท และเงินกู้ 166,342.61 ล้านบาท 
         

 โดยในส่วนเงินกู้ จะใช้เงินกู้ในประเทศเป็นส่วนใหญ่สำหรับว่าจ้างผู้ประกอบการในประเทศไทยในงานก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐาน
วงเงินประมาณ 127,784.23 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 80 ของวงเงินกู้ และจะใช้เงินกู้ต่างประเทศสำหรับรายการที่จำเป็นต้องใช้เทคโนโลยีจากต่างประเทศและใช้จ่ายเป็นเงินตราต่างประเทศ เช่น งานระบบไฟฟ้าและเครื่องกล งานจัดหาขบวนรถ งานวางรางและการฝึกอบรมบุคลากร ซึ่งมีวงเงินประมาณ 38,558.38 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม กระทรวงการคลังจึงเห็นควรเปิดกว้างให้สามารถจัดหาเงินกู้ได้ทั้งจากแหล่งเงินในประเทศและต่างประเทศสำหรับนำมาให้การรถไฟแห่งประเทศไทยกู้ต่อเพื่อให้เป็นประโยชน์ต่อประเทศไทยให้มากที่สุด
           

สำหรับข้อกังวลที่ว่าประเทศไทยจะติดกับดักหนี้จีนนั้น ขอเรียนชี้แจงว่า ประเทศไทยเป็นผู้ลงทุนในโครงการพัฒนาระบบรถไฟความเร็วสูงเพื่อเชื่อมโยงภูมิภาคเองทั้งหมด ไม่ได้ร่วมลงทุนกับฝ่ายจีน และดำเนินการในพื้นที่ประเทศไทย
ประเทศไทยจึงเป็นเจ้าของโครงการแต่เพียงผู้เดียว โดยที่ฝ่ายจีนเป็นเพียงผู้ให้บริการด้านเทคโนโลยีระบบรถไฟความเร็วสูงแก่ประเทศไทยเท่านั้น