เศรษฐกิจ
"ชาญศิลป์"สั่งกลุ่มปตท.รับมือการค้าโลก ลั่นผลประกอบการที่เหลือมีแนวโน้มสดใส
วันพฤหัสบดี ที่ 16 พฤษภาคม พ.ศ. 2562, 19.25 น.
ติดตามข่าวด่วน กระแสข่าวบน Facebook คลิกที่นี่
"ชาญศิลป์"สั่งกลุ่มปตท.รับมื อการค้าโลก
ลั่นผลประกอบการที่เหลือมี แนวโน้มสดใส
"ชาญศิลป์" สั่งกลุ่ม ปตท.ปรับตัวรับสถานการณ์ สงครามการค้าสหรัฐ-จีน-ประหยัด ระบุมั่นใจผลประกอบการที่เหลื อจะดีกว่าไตรมาส 1/62 ลั่นปิดบริษัทในเครือ 20-30 แห่งไม่ได้ทำตามคำสั่งรัฐบาล แต่ขึ้นอยู่กับผลงานทางธุรกิจ
นายชาญศิลป์ ตรีนุชกร ประธานเจ้าหน้าที่บริ หารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด(มหาชน)เปิดเผยว่า ปตท.ได้ติดตามสถานการณ์ สงครามการค้าสหรัฐ-จีน ขณะนี้เริ่มมีผลกระทบในวงกว้ างมากขึ้น โดยเฉพาะการส่งออก ซึ่งกำชับบริษัทในเครือให้ดำเนิ นการโดยระมัดระวังและประหยั ดมากที่สุด และในด้านภาคการส่งออกเม็ ดพลาสติกก็ได้ขยายตลาดให้กว้ างขวางมากที่สุด เช่น ไปตลาดแอฟริกา ตลาดอินเดีย เป็นต้น ส่วนโรงงานทั้งปิโตรเคมี โรงกลั่นน้ำมัน กรณีการปิดซ่อมบำรุง ให้พิจารณาว่า ทำอย่างไรให้เกิดประสิทธิภาพ ระยะเวลาสั้น เพื่อให้เกิดต้นทุนต่ำที่สุด
ทั้งนี้ได้ติดตามสถานการณ์ สงครามการค้าและปัญหาภูมิรั ฐศาสตร์โลก ส่งผลทำให้ราคาน้ำมันผั นผวนและราคาน้ำมันดิบดูไบปรับขึ้ นมาอยู่ที่ 70 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล คาดว่ามีผลต่อการทำธุรกิจได้ ประกอบกับได้กำชับบริษัทในเครื อให้ประหยัดและมีการวางแผนรับมื อต่อไป
นายชาญศิลป์ กล่าวว่า ผลประกอบการที่เหลือปีนี้ คาดว่าจะดีขึ้นกว่าไตรมาส 1/2562 ที่ผลประกอบการของบริษัทและบริ ษัทย่อยมีกำไรสุทธิ 29,300 ล้านบาท เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ลดลง 26.3% แต่เพิ่มขึ้นกว่าไตรมาส 4/2561 หรือ 50% ซึ่งก็เป็นไปตามเป้ าหมายผลประกอบการจะต้องดีขึ้ นกว่าไตรมาส 4/2561
อย่างไรก็ตามปตท.ได้รายงานต่ อคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (คนร.) ซึ่งมีนายกรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 15 พ.ค.2562 ในเรื่องการปิดบริษัทในเครือ 20-30 แห่ง จากทั้งหมดกว่า 200แห่ง โดยการดำเนินการปิด-เปิดบริษั ทขึ้นอยู่กับการตัดสิ นใจในการบริหารธุรกิจของ ปตท. ไม่ได้ขึ้นอยู่กับการสั่ งการของรัฐบาล หรือนายกรัฐมนตรีแต่อย่างใด ซึ่งขึ้นอยู่กับผลดำเนิ นงานและโอกาสทางธุรกิจ รวมทั้งความจำเป็นในการดำเนิ นงาน โดยบริษัทที่เหลือส่วนใหญ่มี แนวโน้มธุรกิจที่ดีและมีกำไร
ติดตามข่าวด่วน กระแสข่าวบน Facebook คลิกที่นี่