วันอังคาร ที่ 23 เมษายน พ.ศ. 2567 19:15 น.

เศรษฐกิจ

ศักดิ์สยามควงถาวร ตรวจงานแรกแก้จราจรถ.พระราม2

วันอาทิตย์ ที่ 21 กรกฎาคม พ.ศ. 2562, 14.36 น.

ศักดิ์สยามควงถาวร ตรวจงานแรกแก้จราจรถ.พระราม2

         

นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม พร้อมด้วย นายถาวร เสเนียม รัฐมนตรีช่วยว่ากระทรวงคมนาคม นายชัยวัฒน์ ทองคำคูณ ปลัดกระทรวงคมนาคม และนายอานนท์ เหลืองบริบูรณ์ อธิบดีกรมทางหลวง (ทล.) ลงพื้นที่บริเวณก่อสร้างโครงการปรับปรุงทางหลวงหมายเลข 35 ตอน ทางแยกต่างระดับ บางขุนเทียน - เอกชัย ระหว่าง กม.9+800.000 – กม.21+500.000 ระยะทางประมาณ 11.700 กิโลเมตร โดยทำการขยายคันทางเดิมจาก 10 ช่องจราจร เป็น 14 ช่องจราจร เป็นการก่อสร้างขยาย ในช่องทางขนานจาก 2 ช่องจราจร เป็น 3 ช่องจราจร และในช่องทางหลัก จาก 3 ช่องจราจร เป็น 4 ช่องจราจร พร้อมยกระดับสูงขึ้นประมาณ 0.40 – 0.70 เมตร และก่อสร้างสะพานกลับรถเพิ่มอีก 2 แห่ง ที่ กม. 12+000.000 (แสมดา) และ กม. 16+000.000 (ก่อนถึงซอยพันท้ายนรสิงห์)
           

อย่างไรก็ตาม ภายหลังรับฟังบรรยายสรุปและตรวจสอบโครงพบว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการก่อสร้างขยายคันทางในช่องทางขนาน ทั้งนี้ เส้นทางดังกล่าวมีปริมาณการจราจรหนาแน่นทำให้ประชาชนผู้ใช้เส้นทางได้รับความเดือดร้อน โดยพบว่าปัจจุบันบริเวณที่เกิดการจราจรติดขัดมี 3 จุด คือ บริเวณ กม. 13+500 ที่มีการก่อสร้างล่าช้า เนื่องจากระบบสาธารณูปโภค เช่น ท่อประปา ไฟฟ้า บริเวณซอยพันท้ายนรสิงห์ ทั้งฝั่งขาออกและขาเข้า ซึ่งกรมทางหลวงได้ให้ผู้รับเหมาเร่งรัดการก่อสร้างบริเวณดังกล่าวพร้อมคืนผิวจราจรให้แล้วเสร็จภายใน2สัปดาห์นี้
         

“สำหรับโครงการดังกล่าวได้เริ่มลงนามในสัญญาเมื่อปี 2561 และจะสิ้นสุดสัญญาในปี 2563 แบ่งสัญญาออกเป็น 3ตอน ซึ่งปัญหาที่พบในการก่อสร้างโครงการนั้น ดินที่ใช้ในการก่อสร้างมีความจำเป็นต้องใช้ทรายถมเพื่อเป็นฐานรากสร้างความแข็งแรง ซึ่งจะต้องรอให้ทรายเซตตัว 180วัน รวมถึงการโยกย้ายสาธารณูปโภคที่ล่าช้า โดยโครงการขณะนี้คืบหน้าร้อยละ 38 และช้ากว่าแผนประมาณร้อยละ 18 นอกจากนี้ ยังได้ประสานไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจ และโรงงานในซอยวัดพันท้ายฯ ให้เริ่มวิ่งหลังจากชั่วโมงเร่งด่วน และประสานกับการประปาและการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ให้เร่งดำเนินการเคลื่อนย้ายโดยด่วน เพื่อให้สามารถดำเนินโครงการต่อไปได้อย่างรวดเร็ว ไม่ส่งผลกระทบต่อประชาชน พร้อมกำชับให้มีการชี้เแจงทำความเข้าใจกับประชาชนในพื้นที่ ไม่ให้เกิดความเข้าใจคลาดเคลื่อน สำหรับการเปิดพื้นผิวจราจรนั้น แต่ละฝั่งจะต้องเปิดไม่ให้ตรงข้ามกันเพื่อเป็นการแก้ปัญหาจราจรคอขวด โดยจะใช้มาตรการจัดการจราจรแบบช่วงเทศกาล อย่างไรก็ตาม ในวันที่ 29 กรกฎาคมนี้ จะลงพื้นที่ตรวจการจราจรอีกครั้ง”นายศักดิ์สยาม กล่าว
           

อย่างไรก็ตาม หากการก่อสร้างแล้วเสร็จจะช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการรองรับปริมาณการจราจรที่มีอยู่ในปัจจุบันและที่จะเพิ่มขึ้นในอนาคต อีกทั้งยังลดระยะเวลาการเดินทาง ส่งผลให้ประชาชนผู้ใช้เส้นทางได้รับความสะดวก ความปลอดภัยในการใช้เส้นทางเพิ่มมากขึ้น