เศรษฐกิจ
เอสซีจี เซรามิกส์ โชว์ผลกำไรยังแน่นปึก
วันอังคาร ที่ 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2562, 16.04 น.
ติดตามข่าวด่วน กระแสข่าวบน Facebook คลิกที่นี่
เอสซีจี เซรามิกส์ โชว์ผลกำไรยังแน่นปึก
เอสซีจี เซรามิกส์ โชว์ผลประกอบการไตรมาส 2 และครึ่งปีแรกของปี62 กำไร113 ล้านบาทสวนกระแส เดินหน้าสร้างฐานธุรกิจเติบโต ยกระดับมาตรฐานคุณภาพสินค้าด้วย ห้องปฏิบัติการทดสอบได้มาตรฐาน
นายนำพล มลิชัย กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอสซีจี เซรามิกส์ จำกัด (มหาชน) หรือ COTTO ผู้ผลิตและจำหน่ายกระเบื้องภายใ ต้แบรนด์คอตโต้ (COTTO) โสสุโก้ (SOSUCO) และ คัมพานา (CAMPANA) เปิดเผยถึงงบการเงินรวมก่อนสอบท าน ของ COTTO ในไตรมาสที่ 2 ปี 2562 ว่า บริษัทฯ มีรายได้จากการขาย 2,790 ล้านบาท ลดลง 5 %จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และลดลง 7% จากไตรมาสก่อน โดยมีกำไร 21 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และลดลง84% จากไตรมาสก่อน ปัจจัยสำคัญมาจากการตั้งประมาณ การค่าใช้จ่ายตามกฎหมายคุ้มครอง แรงงานฉบับใหม่ที่เพิ่มสิทธิค่ าชดเชยกรณีพนักงานเกษียณอายุจาก 300 วันเป็น 400 วัน ทำให้ต้องตั้งประมาณการสำรองค่า ใช้จ่ายในไตรมาสนี้ เป็นจำนวน 124 ล้านบาท
“ไตรมาสนี้ บริษัทฯ สามารถทำกำไรได้ประมาณ 113 ล้านบาท แต่เนื่องจากเราต้องตั้งประมาณก ารค่าใช้จ่ายตามกฎหมายคุ้มครองแ รงงานฉบับใหม่ที่เพิ่มสิทธิค่ าชดเชยพนักงานเกษียณอายุจาก 300 วัน เป็น 400 วัน เมื่อหักลบในส่วนนี้แล้วจึ งทำให้กำไรลดลงจากไตรมาสแรก ” นายนำพล กล่าว
สำหรับผลประกอบการครึ่งปีแรกของ ปี 2562 เอสซีจี เซรามิกส์ มีรายได้จากการขาย 5,802 ล้านบาท ลดลง4% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากราคาขายเฉลี่ยต่ำกว่ าปีก่อน โดยมีกำไรสำหรับงวด 151 ล้านบาท เพิ่มขึ้น182% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน จากกำไรจากการขายที่ดินในนิคมอุ ตสาหกรรมหนองแค
นายนำพล กล่าวว่า ไตรมาสที่ผ่านมา ถือว่ายังไม่มีปัจจัยบวก การที่ผู้บริโภคชะลอการซื้อและก ารลงทุนในอสังหาริมทรัพย์เพื่อร อดูทิศทางของภาครัฐและสถานการณ์ ในประเทศ ส่งผลกระทบต่อยอดขายเซรามิ กและอัตราการเติ บโตของตลาดเซรามิกในประเทศเป็ นศูนย์ ประกอบกับความขัดแย้งของประเทศเ ศรษฐกิจขนาดใหญ่มีผลทำให้เศรษฐกิ จโลกชะลอตัวและทำให้การแข่งขั นจากสินค้านำเข้ารุนแรงมากยิ่ งขึ้นมีผลกระทบต่อราคาขาย แต่ทั้งนี้ บริษัทฯ สามารถลดต้นทุนจากการดำเนินงานต ามแผนการปรับปรุงและเพิ่มประสิท ธิภาพการผลิตได้ตามเป้าหมาย ทำให้บริษัทฯ ยังสามารถแข่งขันและทำกำไรได้”
ในส่วนของตลาด CLM ตลาดพม่าและกัมพูชายังเติบโตต่อ เนื่อง แต่เริ่มมีการชะลองานโครงการขนา ดใหญ่ที่กัมพูชา ส่วนตลาดลาวมีสัญญาณชะลอตัวเนื่ องจากสถานะขาดดุลต่อเนื่องของรั ฐบาลและการอ่อนค่าของเงินกีบ สำหรับตลาดต่างประเทศอื่น ๆ นั้น มีการแข่งขันที่รุนแรงมากขึ้น เนื่องจากมีสินค้าเพิ่มมากขึ้นใ นสภาวะที่เศรษฐกิจชะลอตัว
นายนำพล กล่าวว่า “บริษัทฯ มีแผนการรองรับโดยเร่งขยายการส่ งออกไปยังประเทศในกลุ่ม CLM โดยไตรมาสที่ผ่านมาสามารถเจาะตล าดและขยายฐานลูกค้าใหม่ได้หลายร ายแม้ว่าการแข็งตัวของค่าเงิ นบาทจะมีผลกระทบต่อกำลังซื้อของ ผู้บริโภคก็ตาม ส่งผลให้ยอดขายในส่วนของตลาด CLM กระเตื้องขึ้น โดยเพิ่มขึ้น 10% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี ก่อน ทั้งนี้ การแข็งตัวของค่าเงินบาทมีผลทำใ ห้ศักยภาพในการส่งออกไปยังประเท ศอื่น ๆ ซึ่งลดลงและทำให้สถานการณ์ การแข่งขันของสินค้านำเข้ารุ นแรงมากขึ้นด้วย”
ทั้งนี้ด้านกลยุทธ์การดำเนิ นงานที่สำคัญ บริษัทฯ ยังคงมุ่งเน้นการดำเนินธุรกิจตา มแนวทางการพัฒนาอย่างยั่งยืน โดยเฉพาะเรื่องการรั กษาและยกระดับมาตรฐานคุณภาพสิ นค้าควบคู่ไปกับการสร้างแบรนด์ สินค้า
“ในการสร้างแบรนด์สินค้าให้อยู่ในใจผู้บริโภคอย่างยั่งยืน สิ่งสำคัญที่บริษัทมุ่งเน้น คือ การรักษามาตรฐานและยกระดับคุณภา พสินค้าซึ่งถือเป็นจุดแข็งที่สำ คัญของแบรนด์โดยเป็นสิ่งที่ผู้บ ริโภครับรู้และให้การยอมรับมาโด ยตลอด ดังจะเห็นได้ว่าในทุกโรงงานที่เ ป็นฐานการผลิตของเราจะมีห้องปฏิ บัติการทดสอบคุณภาพกระเบื้องที่ ได้รับการรับรองมาตรฐาน มอก.17025 (ISO/IEC-17025) ซึ่งเป็นมาตรฐานที่ให้การรับรอง ห้องปฏิบัติการทดสอบที่มีการดำเ นินงานด้านระบบคุณภาพ มีความสามารถทางวิชาการและผลการ ทดสอบที่ออกโดยห้องปฏิบัติการเป็ นที่เชื่อถือได้ว่าถูกต้องตามหลั กวิชาการทุกประการ”นายนำพล กล่าวว่า
ติดตามข่าวด่วน กระแสข่าวบน Facebook คลิกที่นี่