ทอท.แจงดอนเมืองเฟส3 ชงก.หูกวางแล้ว มั่นใจรับเต็มศักยภาพ55ล.คน/ปี

       

เรืออากาศโท สัมพันธ์ ขุทรานนท์ รองผู้อำนวยการท่าอากาศยานดอนเมือง (สายปฏิบัติการ) บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. เปิดเผยภายหลัง นำคณะผู้บริหารและผู้สื่อมวลชนศึกษาดูงาน ที่ท่าอากาศยานนานาชาติดานัง ประเทศ สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม ว่ามีการพัฒนาไปอย่างรวดเร็วโดยปัจจุบันประเทศเวียดนามก็มีแผนที่จะก่อสร้างโครงการอาคารผู้โดยสารหลังที่ 3 (เทอร์มินอล3) อย่างไรก็ตาม ในส่วนของท่าอากาศดอนเมือง (ทดม.)ก็มีแผนที่จะพัฒนาขีดความสามารถในการรองรับผู้โดยสาร ที่ใช้บริการอย่างเติบโตในปัจจุบัน โดยมีแผนก่อสร้างโครงการพัฒนาท่าอากาศยานดอนเมืองระยะที่3 ซึ่งตามแผนโครงการจะแล้วเสร็จในปี 2566 โดยจะต้องใช้ระยะเวลานานกว่า 4ปี ระหว่างรอการดำเนินการก่อสร้างดังกล่าว จะต้องศึกษาความเหมาะสมว่าจะทำอย่างไรที่จะช่วยระบายความแอดอัดในปัจจุบัน
         

อย่างไรก็ตาม สำหรับสัดส่วนการเติบโตของผู้โดยสารท่าอากาศยานดอนเมืองแบ่งเป็นผู้โดยสารในประเทศมีการโตเพิ่มขึ้นเล็กน้อย หากเปรียบเทียบกับผู้โดยสารระหว่างประเทศมีการอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นสูง จากเดิมที่มีอัตราส่วนผู้โดยสารในประเทศอยู่ที่ร้อยละ63 ผู้โดยสารระหว่างประเทศอยู่ที่ร้อยละ 37 แต่ขณะนี้เปลี่ยนเป็นผู้โดยสารระหว่างประเทศ มีอัตราส่วนที่สูงกว่า ซึ่งปริมาณผู้โดยสารที่ใช้บริการสนามบินดอนเมืองในขณะนี้อยู่ที่เกือบ40ล้านคนต่อปี และมีแนวโน้มจะเพิ่มขึ้นอีกร้อยละ 1-2 อย่างไรก็ตาม มีแผนที่จะดำเนินการก่อสร้างอาคารเทอร์มินอล3 ให้มีขีดความสามารถในการรองรับผู้โดยสารได้ 50 -55 ล้านคนต่อปี และมีแผนปรับปรุงอาคารผู้โดยสารอาคาร 1 เพื่อรองรับผู้โดยสารภายใน ประเทศ ทั้งนี้ การปรับปรุงอาคารผู้โดยสารอาคาร 1 เป็นการปรับปรุงเพื่อฟื้นฟูสภาพอาคารให้อยู่ในสภาพใหม่ และยกระดับการให้บริการผู้โดยสาร โดยเมื่อแล้วเสร็จอาคารผู้โดยสารอาคาร 1 และ อาคาร 2 จะรองรับผู้โดยสารภายในประเทศรวม 22 ล้านคนต่อปี และดำเนินการขยายระบบจราจรเพื่อรองรับปริมาณรถที่เพิ่มขึ้นภายใน ทดม. ก่อสร้างอาคารจอดรถยนต์ ขยายลานจอดอากาศยาน รวมทั้งปรับปรุงระบบสาธารณูปโภคให้สอดคล้องตามงานในโครงการ
       

“สำหรับแผนความคืบหน้าโครงการก่อสร้างสนามบินดอนเมืองระยะที่3นั้น ขณะนี้ได้ดำเนินการจัดทำรายละเอียดแผนโครงการ โดยผ่านการเห็นชอบของคณะกรรมการ (บอร์ด) ทอท.เรียบร้อย และได้เสนอต่อกระทรวงคมนาคมเพื่อพิจารณา ก่อนที่จะเสนอต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่ออนุมัติต่อไป ภายหลังจากครม.อนุมัติ ก็จะเริ่มออกแบบรายละเอียดเพื่อจะดำเนินการจัดซื้อจัดจ้าง หาบริษัทผู้รับเหมาโครงการ หากผ่านครม.เรียบร้อย คาดว่าจะใช้ระยะเวลาไม่เกิน 1ปี ออกแบบเสร็จ วงเงินลงทุนประมาณ4หมื่นล้านบาท นอกจากนี้ ยังได้ทำแผนต่อเชื่อมโครงการรถ ไฟฟ้าสายสีเขียวช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต และโครงการรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดงช่วงบางซื่อ-รังสิต ซึ่งเป็นการรองรับการเดินทางมาใช้บริการของผู้โดยสารที่ท่าอากาศยานดอนเมือง ควบคู่ไปด้วย ส่วนการรื้อถอนอาคารผู้โดยสารหลังที่1 เพื่อเตรียมพื้นที่ในการก่อสร้างอาคารผู้โดยสารหลังที่3นั้น จะเริ่มในปี2563 คาดว่าจะใช้ระยะเวลา 1ปี โดยเป็นลักษณะการประมูลขายซากตึก” เรืออากาศโท สัมพันธ์ กล่าว
           

อย่างไรก็ตาม สำหรับการศึกษาดูงานที่สนามบินดานังนั้น พบว่าระบบบริหารจัดการโครงการก่อสร้างนั้น มีความรวดเร็วเนื่องจากเวียดนามได้ดำเนินการก่อสร้างในลักษณะใช้คนงานก่อสร้าง 3 ผลัด ผลัดละ8ชั่วโมง โดยเป็นการก่อสร้าง 24ชั่วโมง แต่ในส่วนของไทยก็เป็นลักษณะดำเนินการแบบ3ผลัด แต่ไม่ได้ใช้ลักษณะ 3 ผลัดทุกช่วง โดยจะนำแนวคิดของเวียดนามมาปรับวิธีการเพื่อให้เกิดความรวดเร็วขึ้น นอกจากนี้ สำหรับปริมาณผู้โดยสารที่ใช้บริการสนามบินดานังมีประมาณ 8.6 ล้านคนต่อปี ซึ่งเป็นนักท่องเที่ยวจากประเทศไทยประมาณ 2แสนคนต่อปี อย่างไรก็ตาม หากโครงการก่อสร้างเทอร์มินอล3 แล้วเสร็จจะสามารถรองรับผู้โดยสารได้ทั้งหมด 45-50ล้านคนต่อปี