เศรษฐกิจ
การเคหะโยงข้อมูล พม.-คลัง ตั้งศูนย์ข้อมูลที่อยู่อาศัย
วันศุกร์ ที่ 13 ธันวาคม พ.ศ. 2562, 10.20 น.
ติดตามข่าวด่วน กระแสข่าวบน Facebook คลิกที่นี่
การเคหะโยงข้อมูล พม.-คลัง ตั้งศูนย์ข้อมูลที่อยู่อาศัย
การเคหะแห่งชาติขอเป็นศูนย์ กลางเชื่อมโยงข้อมูลที่อยู่อาศั ยทั้งจากกระทรวง พม.-คลัง มุ่งบริหารบิ๊กดาต้า สร้างประโยชน์ ในการวางแผนตอบสนองความต้ องการของกลุ่มลูกค้าตรงจุด เสนอปรับขั้นตอนการพิ จารณาโครงการจัดหาที่อยู่อาศั ยให้กระชับขึ้น
ดร.ธัชพล กาญจนกูล ผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติ เปิดเผยถึงโครงการศูนย์ข้อมูลที่ อยู่อาศัยว่า การเคหะแห่งชาติได้ข้อสรุ ปการเชื่อมโยงข้อมูลที่อยู่อาศั ยแล้ว โดยอาศัยแหล่งข้อมูลใหญ่ 2 แหล่ง คือ แหล่งข้อมูลของกระทรวงการพั ฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กับ กระทรวงการคลัง โดยจะเริ่มดำเนินการในปี 2563 “การเคหะแห่งชาติเล็งเห็นถึ งประโยชน์และความจำเป็นในการใช้ บิ๊กดาต้าเหล่านี้ ในการพัฒนาที่อยู่อาศัยให้กั บประชาชน เราคงเข้าไปดำเนินการอย่างจริ งจังภายในปี 2563 นี้”
ผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติกล่ าวว่า เมื่อเชื่อมโยงข้อมูลจาก 2 แหล่งใหญ่ดังกล่าวแล้ว จะทำให้ศูนย์ข้อมูลที่อยู่อาศั ยมีข้อมูลจำนวนมากที่ สามารถนำไปใช้ประโยชน์ ในการสำรวจ วิเคราะห์ ความต้องการ จำนวนที่อยู่อาศัยที่มีอยู่ และสต็อกที่อยู่อาศัย ฯลฯ ซึ่งจำเป็นสำหรับกำหนดยุ ทธศาสตร์ที่อยู่อาศัย วางแผนการตลาด และการลงทุนก่อสร้างหรือร่วมทุ นกับเอกชน
“ข้อมูลด้านเศรษฐกิจ โดยเฉพาะกลุ่มคนมีรายได้น้อย เราจะได้ข้อมูลจากกระทรวงการคลั ง ส่วนข้อมูลด้านสังคม ประชากรวัยเด็ก วัยทำงาน ผู้สูงอายุ จะอยู่ที่กระทรวงการพัฒนาสั งคมและความมั่นคงของมนุษย์ ในขณะที่การเคหะแห่งชาติเองก็ มีข้อมูลที่อยู่อาศัยส่วนหนึ่ งอยู่แล้ว ข้อมูลจากทั้งสามส่วนจะช่วยให้ เห็นรายละเอียดหลายมิติที่เกี่ ยวข้องกับที่อยู่อาศัยอย่างที่ ไม่เคยมีมาก่อน ในฐานะหน่วยงานพัฒนาที่อยู่ อาศัยจะเกิดประโยชน์มากมายทั้ งในเชิงพาณิชย์ การพัฒนา และการตลาด”
อย่างไรก็ดี ดร.ธัชพลกล่าวว่า กระบวนการจัดทำโครงการพัฒนาที่ อยู่อาศัยของการเคหะแห่งชาติยั งมีความซับซ้อนหลายขั้นตอน ต้องใช้เวลาพิจารณานาน เช่น จะก่อสร้างแต่ละโครงการได้ต้ องมีสัดส่วนผู้จอง ไม่น้อยกว่าร้อยละ 50 ของจำนวนหน่วยทั้งหมด ถึงแม้ว่าจะได้รับการอนุมัติแต่ กว่าจะได้ลงมือก่อสร้างต้องรออี ก 2 ปี
“ขั้นตอนเหล่านี้ไม่สอดคล้องกั บความต้องการของลูกค้าผู้มี รายได้น้อยและรายได้ปานกลาง ทำให้เราเสี ยโอกาสในการตอบสนองกลุ่มเป้ าหมายเหล่านั้น เพราะบางส่วนเขาไม่รอเราแล้ว และยังทำให้ต้นทุนการบริหารจั ดการสูงขึ้นด้วย เป็นเรื่องที่ต้องกลับมาทบทวน” ดร.ธัชพลกล่าว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ติดตามข่าวด่วน กระแสข่าวบน Facebook คลิกที่นี่