เศรษฐกิจ
อมตะVN-รัฐ ชงยุทธศาสตร์บุกตลาดเวียดนาม
วันอังคาร ที่ 26 มกราคม พ.ศ. 2564, 16.59 น.
ติดตามข่าวด่วน กระแสข่าวบน Facebook คลิกที่นี่
อมตะVN-รัฐ ชงยุทธศาสตร์บุกตลาดเวียดนาม
สภาธุรกิจไทย–เวียดนาม ร่วมกับสถานทูตเวี ยดนามประจำประเทศไทย และบริษัท อมตะ วีเอ็น จำกัด (มหาชน) เปิดโอกาสทองสำหรับนักลงทุ นไทยในเวียดนาม” เปิดมุมมองถึงศักยภาพการเติ บโตของเศรษฐกิจประเทศเวี ยดนามในปัจจุบั นและอนาคตโอกาสของนักลงทุนไทย
นายฟัน จิ้ ทัน เอกอัครราชทูตเวี ยดนามประจำประเทศไทย กล่าวว่า แม้ว่าปี 2563 เศรษฐกิจทั่วโลกจะได้รั บผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรั สโควิด-19 แต่เวียดนามเป็นหนึ่งในไม่กี่ ประเทศในโลกที่มีการเติ บโตทางเศรษฐกิจเชิงบวก (GDP) ที่มีการเติบโตถึง 2.91 % ในปี 2020 เนื่องจากสามารถควบคุมการแพร่ ระบาดของเชื้อไวรัสได้ตั้งแต่ช่ วงแรก โดยอัตราการเติบโตของ GDP เวียดนามในช่วงปี 2559-2563 เฉลี่ยอยู่ที่ 5.9% ซึ่งเป็นการเติบโตที่สูงที่สุ ดในโลก ส่งผลให้แนวโน้มเศรษฐกิจของเวี ยดนามในปี 2564 สดใสโดยองค์กรการเงินระหว่ างประเทศ อาทิ World Bank, International Monetary Fund, Asian Development Bank คาดการณ์ไว้ว่า GDP จะเติบโตอยู่ที่ 6.5-7.0%
“ปัจจัยที่เอื้อให้มีการเข้ ามาลงทุนจำนวนมากเพราะเวี ยดนามมีเสถียรภาพทางการเมืองสูง มีแรงงานจำนวนมาก และด้วยขนาดของตลาดในประเทศที่ มีประชากรสูงถึง 100 ล้านคน และที่สำคัญเวียดนามยังเป็นจุ ดยุทธศาสตร์ที่สามารถเชื่ อมโยงกับตลาดอาเซียน จีนและอีกหลายประเทศทั่วโลก ทำให้เวียดนามเป็นเป้าหมายของนั กลงทุนกว่า 132 ประเทศ ที่สนใจเข้ามาลงทุนโดยปัจจุบั นนักลงทุนชาวไทยเข้ ามาในประเทศเวียดนามเวียดนามถึง 603 โครงการ คิดเป็นมูลค่าการลงทุนรวม 13 พันล้านเหรียญสหรัฐหรือ 400 พันล้านบาทจัดอยู่ที่ลำดับ 9 ที่มีเข้ามายังเวียดนาม ” นายฟัน จิ้ ทัน กล่าว
อย่างไรก็ตามในอีก 5 ปี 2564-2568 ข้างหน้ารัฐบาลเวียดนามได้ วางแผนการขับเคลื่อนเศรษฐกิ จและสังคม ภายใต้แผนยุทธศาสตร์ 10 ปี การพัฒนาสังคมและเศรษฐกิจฉบั บใหม่ปี 2564-2573 ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการพิ จารณาของสภาแห่งชาติเวียดนามที่ คาดว่าจะนำไปสู่การพั ฒนาประเทศให้มีการเติบโตได้อย่ างต่อเนื่อง รวมถึงการเดินหน้าพัฒนาความสั มพันธ์แบบทวิภาคีกับประเทศต่างๆ รวมถึงประเทศไทยที่สามารถนำไปสู่ การสร้างโอกาสใหม่ๆ สำหรับนักลงทุนไทยที่จะเข้ ามาในประเทศเวียดนามมากขึ้นในอี ก 5 ปีข้างหน้า
นายธานี แสงรัตน์ อธิบดีกรมสารนิเทศ และโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า เวียดนามยังเป็นจุ ดหมายปลายทางของการลงทุนจากนั กลงทุนต่างประเทศซึ่งรวมถึงนั กลงทุนไทยเพราะเป็นตลาดที่ใหญ่ และเติบโตต่อเนื่อง ขณะเดียวกันก็มีทั้งความท้ าทายและโอกาสสำหรับนักลงทุนต่ างชาติ ดังนั้นความสำเร็จของการลงทุ นของไทยในเวียดนามในอีกไม่กี่ปี ข้างหน้าขึ้นอยู่กับความต่อเนื่ องของนโยบายการลงทุนในปัจจุบัน และการสนับสนุนของรัฐบาลเวี ยดนาม การเติบโตทางเศรษฐกิจของเวี ยดนามรวมถึงการเติบโตของหุ้นส่ วนทางเศรษฐกิจของเวียดนาม ความสามารถของนักธุรกิจไทยและนั กลงทุนในเวียดนามในการร่วมมือกั นซึ่งจะเป็นกุญแจสำคัญในการเติ บโตและการอยู่รอดในอนาคต
นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานสภาธุรกิจไทย-เวียดนาม กล่าวว่า ประเทศเวียดนามมีประชากรในวั ยทำงานจำนวนมาก และมีสัดส่วนหนี้ครัวเรือนต่ำ ทำให้ตลาดเวียดนามมีกำลังซื้อสู ง อีกทั้งการส่งออกสินค้ามีการเติ บโตอย่างก้าวกระโดด โดยในปีที่ผ่านมามีการส่ งออกรวมมูลค่าถึง 281,500 ล้านเหรียญสหรัฐ ได้ดุลการค้า 19,100 ล้านเหรียญสหรัฐฯซึ่งเป็ นผลจากการทำความตกลงด้านการค้ ากับประเทศต่างๆ ทั่วโลกรวม 17 ฉบับ ขณะเดียวกันเวียดนามให้สิทธิพิ เศษในด้านภาษีและสิทธิประโยชน์ อื่นๆ เพื่ออำนวยความสะดวกในการดำเนิ นธุรกิจการค้าและการลงทุน (Ease of doing business) ควบคู่ไปกับการส่งเสริมการลงทุน การก่อสร้างสาธารณูปโภค และอื่นๆ นับเป็นยุทธศาสตร์ที่สำคัญที่ส่ งผลให้เกิดการลงทุนในประเทศเวี ยดนามอย่างต่อเนื่อง
นางสมหะทัย พานิชชีวะ กรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริ หารบมจ. อมตะวีเอ็น (AMATAV) กล่าวในมุมมองของผู้พัฒนานิคมอุ ตสาหกรรมในเวียดนามว่า อมตะเชื่อในการเติบโตของเวี ยดนาม นั่นคือเหตุผลที่อมตะอยู่ในเวี ยดนามมานานกว่า 26 ปี และถือว่าประสบความสำเร็ จในการดำเนินธุรกิจ โดยปัจจุบันอมตะมีการพัฒนานิ คมอุตสาหกรรมอยู่ทั้งทางตอนเหนื อและตอนใต้ของเวียดนาม มีทั้งหมด 6 โครงการรวมพื้นที่พัฒนา 2,500 เฮกตาร์หรือ 15,625 ไร่ ด้วยเงินลงทุนประมาณ 840 ล้านเหรียญสหรัฐหรือประมาณ 27,200 ล้านบาท ในขณะที่รัฐบาลเวียดนามอยู่ ระหว่างการจัดทำแผนพัฒนาสังคม – เศรษฐกิจ อมตะวีเอ็นก็ได้วางเป้ าหมายในการพัฒนานิคมอุ ตสาหกรรมในประเทศเวียดนามสู่ การเป็น “เมืองอัจฉริยะ” ซึ่งแนวคิดเมืองอัจฉริยะครอบคลุ มทั้งด้านพลังงาน ชุมชน การผลิต การขนส่งและคมนาคม การศึกษา เทคโนโลยี และการจัดการสิ่งแวดล้อมอัจฉริ ยะ ซึ่งมีความสอดรับกับแผนพั ฒนาประเทศของเวียดนามอีกด้วย
ติดตามข่าวด่วน กระแสข่าวบน Facebook คลิกที่นี่