เศรษฐกิจ
ก.พลังงานผนึก“สาธารณสุข” นำร่อง 8 โรงพยาบาลไฟจากฟ้า
วันพฤหัสบดี ที่ 04 มีนาคม พ.ศ. 2564, 18.54 น.
ติดตามข่าวด่วน กระแสข่าวบน Facebook คลิกที่นี่
ก.พลังงานผนึก“สาธารณสุข” นำร่ อง 8 โรงพยาบาลไฟจากฟ้า
“พลังงาน” จับมือ “สาธารณสุข” “มูลนิธิแพทย์ชนบท” ระบุนำร่อง 8 โรงพยาบาลไฟจากฟ้า
สนับสนุนการใช้พลังงานสะอาด เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นของทุ กคน ขณะที่ตั้งเป้า 77 โรงพยาบาลชุมชน 77 จังหวัดทั่วประเทศ
คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน กกพ.ร่วมกับ กระทรวงพลังงาน กระทรวงสาธารณสุข มูลนิธิแพทย์ชนบท และภาคีเครือข่าย นำร่องส่งมอบการติดตั้งระบบผลิ ตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์กำลั งการผลิตโรงพยาบาลละ 100 กิโลวัตต์ ให้กับ 8 โรงพยาบาลชุมชน ในพื้นที่ 8 จังหวัด ภายใต้กิจกรรม“101 วัน จากแสงแรกสู่โรงพยาบาลไฟจากฟ้า” ในแคมเปญ “Clean Energy for Life : ใช้พลังงานสะอาด เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นของทุ กคน” โดยได้รับเกียรติจากรองนายกรั ฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลั งงาน “สุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์” พร้อมด้วย ประธานกรรมการกำกับกิจการพลั งงาน (กกพ.) “เสมอใจ ศุขสุเมฆ” ร่วมเป็นประธานส่งมอบ และได้รับเกียรติจากรองนายกรั ฐมนตรี และรัฐมนตรีว่ าการกระทรวงสาธารณสุข “อนุทิน ชาญวีรกุล” พร้อมด้วย นายแพทย์สุภัทร ฮาสุวรรณกิจ กรรมการมูลนิธิแพทย์ชนบท และตัวแทนจาก 8 โรงพยาบาล เป็นผู้รับมอบ ณ โรงพยาบาลไทรน้อย จังหวัดนนทบุรี
นายเสมอใจ ศุขสุเมฆ ประธานกรรมการกำกับกิจการพลั งงาน (กกพ.) เปิดเผยว่า แคมเปญ “Clean Energy for Life ใช้พลังงานสะอาด เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นของทุ กคน” เกิดขึ้นจากการดำเนินงานตาม พ.ร.บ.การประกอบกิจการพลังงาน พ.ศ.2550 ตามมาตรา 97 (5) เพื่อต้องการสร้างความตระหนักรู้ เรื่องพลังงานสะอาดให้กั บประชาชน และสร้างแรงบันดาลใจให้ทุกคนหั นมาตระหนักเรื่องประโยชน์ ของการใช้พลังงานสะอาดในชีวิ ตประจำวันให้มากขึ้น ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิ จการพลังงาน หรือ สำนักงาน กกพ. โดยกองทุนพัฒนาไฟฟ้า ได้ดำเนินการต่อเนื่องมาตั้งแต่ ปี 2562 และได้ต่อยอดมาสู่การสร้ างโอกาสให้ทุกคนได้เข้าถึงพลั งงานสะอาด ภายใต้ความร่วมมือระหว่าง กกพ. กระทรวงพลังงาน กระทรวงสาธารณสุข และมูลนิธิแพทย์ชนบท ผ่านกิจกรรม “101 วัน จากแสงแรกสู่โรงพยาบาลไฟจากฟ้า ซึ่งจะนำร่องการติดตั้งระบบผลิ ตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ให้ กับ 8 โรงพยาบาล ในพื้นที่ 8 จังหวัด ได้แก่ โรงพยาบาลไทรน้อย จังหวัดนนทบุรี โรงพยาบาลบางบ่อ จังหวัดสมุทรปราการ โรงพยาบาลอู่ทอง จังหวัดสุพรรณบุรี โรงพยาบาลขุนหาญ จังหวัดศรีสะเกษ โรงพยาบาลย่านตาขาว จังหวัดตรัง โรงพยาบาลหลังสวน จังหวัดชุมพร โรงพยาบาลบ้านบึง จังหวัดชลบุรี และโรงพยาบาลปลวกแดง จังหวัดระยอง โดยระบบผลิตไฟฟ้าจากโซลาร์เซลล์ ที่มีกำลังผลิต 100 กิโลวัตต์ จะสามารถช่วยลดภาระค่าไฟฟ้ าของโรงพยาบาลได้ถึงเดื อนละประมาณ 60,000 บาท ดังนั้นในระยะเวลา 1 ปี โรงพยาบาลจะสามารถลดภาระค่าไฟฟ้ าได้ราว 720,000 บาท โดยแผงโซลาร์เซลล์จะมีอายุ การใช้งานประมาณ 25 ปี จึงสามารถช่วยโรงพยาบาลลดภาระค่ าไฟฟ้าได้ถึงประมาณ 18 ล้านบาท ทั้งนี้ โครงการดังกล่าวมีเป้ าหมายจะดำเนินการทั้งหมด 77 โรงพยาบาล 77 จังหวัดทั่วประเทศ ซึ่งในอนาคตอาจจะมีการขยายไปพื้ นที่อื่นๆ เช่น ชุมชน และ โรงเรียน ในพื้นที่ห่างไกล เพื่อให้ทุกคนได้เข้าถึงการใช้ พลังงานสะอาดเพื่อคุณภาพชีวิตที่ ดีขึ้นกันตามวัตถุประสงค์ ของโครงการต่อไป
นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลั งงาน กล่าวว่า ปัจจุบันประเทศต่างๆ ทั่วโลกต่างให้ความสำคัญต่อพลั งงานสะอาด และมีความมุ่งมั่นที่จะร่วมมื อกันลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ตามความตกลงปารีส หรือ COP 21 ที่มีเป้าหมายจะรักษาระดับอุ ณหภูมิเฉลี่ยโลกให้สูงขึ้นไม่ เกิน 2 องศาเซลเซียส เมื่อเทียบกับอุณหภูมิโลกในยุ คก่อนปฏิวัติอุตสาหกรรม สำหรับของประเทศไทย ตาม NDC (Nationally Determined Contribution) ที่เสนอไปนั้น กำหนดเป้าหมายการลดการปล่อยก๊ าซเรือนกระจกให้ได้20-25% หรือจำนวน 111-139 ล้านตันคาร์บอนไดออกไซด์เที ยบเท่า ภายในปี 2573 ซึ่งในปัจจุบันประเทศไทยได้มี การขับเคลื่อนนโยบายด้านเศรษฐกิ จและด้านพลังงานให้ตอบโจทย์ทิ ศทางของโลกและข้อตกลงดังกล่ าวอย่างชัดเจน ทั้งการขับเคลื่อนเศรษฐกิจผ่ านโมเดล BCG ที่มุ่งเน้นการพัฒนาเศรษฐกิจใน 3 ด้าน คือ “ด้านเศรษฐกิจชีวภาพ-เศรษฐกิ จหมุนเวียน-เศรษฐกิจสีเขียว” และตามแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้ าของประเทศไทย พ.ศ. 2561 – 2580 ก็ได้กำหนดเป้าหมายกำลังการผลิ ตไฟฟ้าจากพลังงานทดแทนให้ได้ร้ อยละ 37 ภายในปี พ.ศ. 2580 โดยจะสนับสนุนการผลิตไฟฟ้ าจากพลังงานแสงอาทิตย์ และส่งเสริมยานยนต์ไฟฟ้ าในประเทศ เพื่อเพิ่มการเข้าถึงพลั งงานสะอาด ช่วยลดมลพิษทางอากาศ ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ เพื่อนำไปสู่ความมั่นคงด้านพลั งงานอย่างยั่งยืนให้กับประเทศ และที่สำคัญเกิดพลังความร่วมมื อระหว่างภาครัฐและภาคประชาชนที่ สอดประสานกับทิ ศทางนโยบายเศรษฐกิจสีเขียวของรั ฐบาลและนโยบายการส่งเสริมการใช้ พลังงานทดแทนของกระทรวงพลั งงานเพื่อนำไปสู่เป้ าหมายการลดการปล่อยก๊าซเรื อนกระจกตามข้อตกลงปารีสร่วมกั นอย่างเป็นรูปธรรมอีกด้วย
นายอนุทิน ชาญวีรกุล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่ าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ในแต่ละปีโรงพยาบาลมีภาระค่ าใช้จ่ายด้านพลังงานโดยเฉพาะค่ าไฟฟ้าจำนวนมาก ซึ่งโครงการความร่วมมือในครั้ งนี้ นับเป็นโครงการที่เป็นประโยชน์ อย่างมากในการช่วยลดภาระค่าใช้ จ่ายด้านไฟฟ้าให้กับโรงพยาบาล และสามารถนำงบประมาณรายจ่ายค่ าไฟฟ้าที่เหลือจ่ายจากการจ่ายค่ าไฟฟ้าน้อยลงไปใช้ประโยชน์ด้ านอื่นๆ เช่น การซื้ออุปกรณ์การแพทย์ จัดหาเวชภัณฑ์ และการพัฒนาคุณภาพชีวิตของบุ คลากรทางการแพทย์ และสนับสนุนระบบสาธารณสุ ขของประเทศให้มีความพร้อมทั้งต่ อสถานการณ์โควิด-19 และการบริการทั่วไปให้กั บประชาชน ให้มีศักยภาพเพิ่มมากขึ้น อย่างเช่น โรงพยาบาลไทรน้อยซึ่งเป็นหนึ่ งใน 8 โรงพยาบาลนำร่องที่ได้รับการสนั บสนุนในครั้งนี้ ได้มีเป้าหมายจะนำเงินส่วนต่ างของค่าไฟฟ้า ไปดำเนินการจัดหาเตียงไฟฟ้ ารองรับผู้ป่วยติดเตียง เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้ป่ วยให้ดีขึ้น ซึ่งในฐานะรัฐมนตรีว่ าการกระทรวงสาธารณสุข ก็ขอขอบคุณโครงการดีๆ จากสำนักงาน กกพ. ที่สร้างโอกาสความร่วมมือครั้ งนี้ขึ้นมาเพื่อช่วยสนับสนุ นระบบสาธารณสุขของประเทศในครั้ งนี้
ติดตามข่าวด่วน กระแสข่าวบน Facebook คลิกที่นี่