ทอท.เผยชดเชยสนามบินงู 3พันล.แพงเกินไป นัดเจรจายังไม่คืบ

นายกีรติ กิจมานะวัฒน์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จํากัด (มหาชน) หรือ ทอท. เปิดเผยความคืบหน้า การเจรจาขอใช้สนามกอล์ฟกานตรัตน์ (สนามงู) ของกองทัพอากาศ (ทอ.)ให้รัฐบาลใช้ประโยชน์ด้านการบินพลเรือนเพื่อเพิ่มขีดความสามารถท่าอากาศยานดอนเมืองว่า ขณะนี้ ทอท.ยังคงรอการนัดหมายเจรจาจาก ทอ. หลังจากที่นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ได้สั่งตั้งคณะกรรมการร่วมระหว่าง ทอท.กับ ทอ.เพื่อเจรจารายละเอียดกันในเรื่องดังกล่าวตั้งแต่เดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา 

“ทอ.เคยออกมาระบุว่า หากจะให้ ทอท.ใช้ประโยชน์พื้นที่สนามงู ก็อาจต้องจ่ายชดเชยแก่ ทอ.ประมาณ 3,000 ล้านบาท สำหรับการใช้ประโยชน์ 30 ปี หรือเฉลี่ยประมาณ 90-100 ล้านบาทต่อปี จากผลกระทบต่อบุคลากรที่ทำงานอยู่ในสนามกอล์ฟ เช่น พนักงานถือถุงกอล์ฟ (แคดดี้) รวมทั้งต้องสูญเสียรายได้จากการเปิดให้บริการสนามกอล์ฟ  โดย ทอ.มีรายได้จากสนามงูปีละประมาณ 90 ล้านบาท กำไร 5 ล้านบาท เพราะมีรายจ่ายที่ต้องดูแลหลายส่วน”

นอกจากนี้ ในส่วนของ ทอท.ระบุว่า ตัวเลขชดเชยที่ 3,000 ล้านบาทนั้น เป็นอัตราที่สูงเกินไป ซึ่งหากมีการเจรจากันในลำดับต่อไป ก็คงต้องนำรายละเอียดมาแสดงเพื่อความชัดเจนว่า รายได้แต่ละเดือน แต่ละปีของสนามงูอยู่ที่เท่าใด และมีรายจ่ายเท่าใด เพื่อนำมาวิเคราะห์ประเมินร่วมกันว่าหาก ทอท.ขอใช้ประโยชน์ 30 ปี ควรเป็นอัตราเท่าใด

สำหรับพื้นที่สนามงูจะอยู่ตรงกลางระหว่างทางวิ่ง (รันเวย์) 2 เส้นของท่าอากาศยานดอนเมือง  ซึ่งที่ผ่านมาแม้องค์กรการบินระหว่างประเทศ (ICAO) จะรับรองว่าเป็นความเสี่ยงที่ยอมรับได้ แต่ก็พบว่ามีปัญหาเกิดขึ้นเป็นระยะ เช่น มีรถกอล์ฟฝ่าฝืนสัญญาณไฟเข้ามาในเขตการบิน เป็นต้น อีกทั้งทำให้การขึ้น-ลงของแต่ละเที่ยวบินต้องใช้เวลานานขึ้น เพราะทั้ง 2 รันเวย์มีทางขับ (แท็กซี่เวย์) เป็นจุดเชื่อมตรงหัวรันเวย์เพียงจุดเดียว ทำให้เครื่องบินต้องขับไปไกลเพื่อเชื่อมต่อไปยังรันเวย์อีกฝั่ง ดังนั้นหาก ทอท.ได้รับพื้นที่สนามงูมาใช้ประโยชน์ด้านการบิน ก็มีแผนที่จะก่อสร้างทางขับอีก 3 จุด วงเงินลงทุนประมาณ 400 ล้านบาท เมื่อรวมกับแท็กซี่เวย์ปัจจุบันที่มีอยู่ 1 จุด จะทำให้มีแท็กซี่เวย์รวมเป็น 4 จุด ซึ่งจะช่วยประหยัดเวลาของแต่ละเที่ยวบินลงได้มาก