วันศุกร์ ที่ 29 มีนาคม พ.ศ. 2567 19:14 น.

การศึกษา

พระโอวาทสมเด็จพระสังฆราช "ปฏิบัติธรรมนำไปสู่ ปฏิเวธธรรม ปราศจากปริยัติธรรมมิได้"

วันพุธ ที่ 22 สิงหาคม พ.ศ. 2561, 18.44 น.

พระโอวาทสมเด็จพระสังฆราช "ปฏิบัติธรรมนำไปสู่ ปฏิเวธธรรม ปราศจากปริยัติธรรมมิได้"


พระโอวาทสมเด็จพระสังฆราช "การปฏิบัติธรรมซึ่งนำไปสู่การบรรลุผลเป็นปฏิเวธธรรม จะปราศจากปริยัติธรรมคือการศึกษาอบรมให้รอบรู้ในพระธรรมวินัยไปมิได้เลย"


วันพุธที่ ๒๒ สิงหาคม ๒๕๖๑ เจ้าพระคุณ สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก เสด็จไปวัดพระศรีมหาธาตุ เขตบางเขน กรุงเทพมหานคร ในการประทานโล่ประกาศเกียรติคุณ และทุน แก่สำนักเรียนพระปริยัติธรรมแผนกธรรมดีเด่น ประจำปีการศึกษา ๒๕๖๐

 

โอกาสนี้ เจ้าพระคุณ สมเด็จพระสังฆราช ประทานพระโอวาท ความตอนหนึ่งว่า “ขออนุโมทนาชื่นชมทุกท่านที่ช่วยกันดำเนินภารกิจนี้ด้วยดี อันนับเป็นการสืบอายุพระพุทธศาสนา และสนองพระราโชบายของสมเด็จบรมบพิตร พระราชสมภารเจ้า ผู้ทรงพระคุณอันประเสริฐ ในฐานะพระราชูปถัมภก แห่งการศึกษาเล่าเรียนพระปริยัติธรรม

 

พระพุทธศาสนาเป็นศาสนาแห่ง ‘ปัญญา’ ซึ่งแปลว่าความรอบรู้ หน้าที่ของบรรพชิตในพระพุทธศาสนา และพุทธศาสนิกชนจึงได้แก่การเล่าเรียน ให้บังเกิดความรู้ในทาง ‘ปริยัติธรรม’ อย่างแตกฉาน กระทั่งสามารถเข้าถึง ‘ปฏิบัติธรรม’ ที่ถูกต้อง กล่าวคือความกระจ่างในกุศลขั้นต่างๆ จนมีสติสัมปชัญญะระลึกรู้ลักษณะที่ถูกต้องตามความเป็นจริง สามารถบรรลุมรรคผลเป็น ‘ปฏิเวธธรรม’ ได้ในที่สุด

 

เพราะฉะนั้น การปฏิบัติธรรมซึ่งนำไปสู่การบรรลุผลเป็นปฏิเวธธรรม จะปราศจากปริยัติธรรมคือการศึกษาอบรมให้รอบรู้ในพระธรรมวินัยไปมิได้เลย

 

การที่ท่านได้ร่วมกันปลูกฝังอบรมให้พุทธบริษัท มีคุณสมบัติด้านพุทธศาสนศึกษา ทั้งหลักสูตรนักธรรมและหลักสูตรธรรมศึกษาอย่างพรั่งพร้อม นับว่าได้ทั้งผู้จัดการศึกษาและผู้อุตสาหะเล่าเรียน เป็นผู้ธำรงรักษาพระพุทธศาสนาด้วยการกระทำ นับเป็นบุญกิริยาที่น่าอนุโมทนายกย่องอย่างยิ่ง

 

ในนามคณะสงฆ์ ผมขอกล่าวต่อบรรดาสหธรรมิกทุกรูป ทั้งที่อยู่ ณ ที่นี้ และที่ได้ชื่อว่าเป็นพระสงฆ์ไทยในทุกหนทุกแห่งว่า ขอให้ท่านเล่าเรียนพระธรรมวินัยในหลักสูตรนักธรรม จนสำเร็จเป็นนักธรรมเอกทุกรูป เพื่อให้คณะสงฆ์เป็นปึกแผ่นมั่นคงด้วยสีลสามัญญตา และทิฐิสามัญญตา เพราะความคลอนแคลนที่เกิดขึ้นนั้น เพราะมีผู้บวชเล่น แต่ไม่บวชเรียน ทั้งๆ ที่หน้าที่ของบรรพชิตคือการศึกษาเล่าเรียน

 

พระสังฆาธิการผู้ปกครองต้องกำชับกวดขันให้บรรพชิตในปกครองของท่าน ประพฤติตนเป็น ‘สาวก’ คือเป็นผู้ฟังพระธรรมวินัยของพระพุทธเจ้า ให้ถึงพร้อมด้วยหลักไตรสิกขา อย่างสมกับการเป็นผู้ ‘บวชเรียน’

 

ในขณะเดียวกัน อาตมภาพขอเชิญชวนให้หน่วยงานต่างๆ ทั้งภาครัฐ และภาคเอกชนนำพาสมาชิกในหน่วยงานของท่าน มาศึกษาพระธรรมตามหลักสูตรธรรมศึกษา เพื่อพลเมืองไทยจักได้ชื่อว่าเป็นผู้รู้ และสามารถปฏิบัติธรรมได้ถูกต้องตามปริยัติธรรม สมความเป็นพุทธศาสนิกชนกันทุกคน”

................
(หมายเหตุ : ขอบคุณข้อมูลจากเฟซบุ๊กสำนักงานเลขานุการสมเด็จพระสังฆราช)

หน้าแรก » การศึกษา