พระโค้ชเอกร่วมถก"เปิดโลกสมาธิ" ถอมตนรู้แค่เอาตัวรอด

พระโค้ชเอกร่วมเสวนาวิชาการเรื่อง "เปิดโลกสมาธิ: บทเรียนทรงคุณค่าจาก 13 ชีวิตติดถ้ำหลวง" ถอมตนมีความรู้เพียงแค่เอาตัวรอดเท่านั้น แนะนั่งสมาธิที่ไหนก็ได้ทุกวัดทั่วประเทศ 

วันที่ 5 ก.ย.2561 โรงละครแห่งชาติ เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร สำนักงานพัฒนาคุณธรรมจริยธรรม กรมการศาสนา กระทรวงวัฒนาธรรม ได้จัดเสวนาวิชาการเรื่อง "เปิดโลกสมาธิ: บทเรียนทรงคุณค่าจาก 13 ชีวิตติดถ้ำหลวง"  โดยมีพระเอกพล วิสารโท หรือพระโค้ชเอก แห่งทีมหมูป่าอะคาเดมีแม่สาย จังหวัดเชียงราย และพระรัตนมุนี,ผศ.ดร. ผู้อำนวยการวิทยาลัยสงฆ์เชียงราย มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย(มจร) รักษาการเจ้าคณะจังหวัดเชียงราย ซึ่งเป็นผู้ดูแลอย่ใกล้ชิดในด้านกฎหมายและสภาพจิตใจของพระเอกพลร่วมด้วย

ทั้งนี้พระเอกพล กล่าวถึงเหตุการณ์ภายในถ้ำว่า อันดับแรกจะต้องมีสมาธิก่อนหลังจากนั้นจึงว่างแผนกับน้องๆว่าจะทำอย่างไรจะดำรงชีวิตอย่างไร โดยวิเคราะห์ว่าจุดไหนบ้างที่จะมีทางรอด จุดไหนบ้างมีแหล่งน้ำที่ดื่มได้ และให้นอนใกล้กันที่สุดและก่อนจะนอนก็ประชุมกับน้องๆว่า เราควรที่จะไหว้พระสวดมนต์กันก่อนเพื่อให้จิตสบายขึ้นแล้ว แล้วจึงพาสวดมนต์นั่งสมาธิสักครู่แล้วก็นอน

พระเอกพล กล่าวต่อว่า จากพื้นฐานของการนั่งสมาธิในช่วงที่บวชเป็นสามเณรตั้งแต่อายุ 8 ปีจนถึงอายุ 21 ปี แม้ว่าสึกแล้วก็ยังคงอยู่ที่วัดพระธาตุดอยเว้า อ.แม่สาย จ.เชียงราย ซึ่งเจ้าอาวาสมอบหมายให้ดูแลญาติโยมนำไหว้พระสวดมนต์ ส่วนวิธีปฏิบัติสมาธินั้นได้ใช้วิธีภาวนา "พุทโธ" หลังจากนั้นจะชอบอยู่ในที่เงียบวิเคราะห์ธรรมและสถานการณ์ที่จะดำเนินชีวิตต่อไปในอนาคต อย่างไรก็ตามการนั่งสมาธินั้นอยู่ที่ไหนก็ได้ทุกวัดทั่วประเทศ ส่วนอาตมานั้นมีความรู้เพียงแค่เอาตัวรอดตัวเท่านั้น

ด้าน พ.ท.นพ.ภาคย์ โลหารชุน แพทย์ที่เข้าร่วมภารกิจถ้ำหลวง กล่าวว่า หลักของสติและการมีสมาธิเป็นเรื่องที่จำเป็นมากในสถานการณ์วิกฤติ น่าชื่นชมที่พระเอกพล หรือโค้ชเอก สอนให้เยาวชนทุกคนได้นั่งสมาธิระหว่างการติดถ้ำตลอด 9 วัน เด็กๆ ได้ใช้สติและสมาธิช่วยป้องกันการเจ็บป่วย การกิน และความเป็นอยู่ เพื่อให้เกิดกำลังใจและการคลายความกังวล ตลอดจนการฝึกฝนและจดจำขั้นตอนในการออกจากถ้ำจนเด็กๆ และโค้ชออกจากถ้ำได้อย่างปลอดภัย ซึ่งผู้ปฏิบัติงานอย่างตนต้องใช้สติระหว่างทางออกจากถ้ำที่ต้องพบกับอุปสรรคมากมาย การมีสติและสมาธิทำให้ผ่านอุปสรรคและปฏิบัติภารกิจได้สำเร็จ
 
          

ขณะที่ พระภาวนาวิริยคุณ ผอ.ศูนย์ปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐาน นานาชาติ วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ กล่าวว่า   การฝึกสมาธิที่ง่ายที่สุด คือ หลักสติปัฏฐาน 4 ใช้อิริยาบถในชีวิตประจำวัน คือ ยืน เดิน นั่ง นอน ฝึกสติ หากฝึกควบคู่กับวิปัสสนากรรมฐานจะทำให้ผู้ปฏิบัติมีสติ รู้เท่าทันทุกอารมณ์ที่มากระทบ หากไม่รู้ว่า โกรธ เราจะควบคุมตนเองไม่ได้ ทำให้ชีวิตพังได้ การทำสมาธิเหมาะกับวิถีชีวิตคนเมืองมาก หากนั่งสมาธิได้วันละ 10 นาที จะเห็นผลต่อการเปลี่ยนแปลงอารมณ์ของตนเอง โดยเฉพาะเด็ก จากจิตใจหยาบกระด้างกลับมาอ่อนโยน สมาธิเป็นของดี แก้วิกฤต อยากให้นำไปปฏิบัติ กรณีพระเอกพลกับ12 หมูป่า ขณะติดถ้ำ ทำสมาธิ เพราะนั่งนิ่งๆ ลมหายใจใช้น้อย พลังงานใช้น้อย อดข้าว อดน้ำ ก็อยู่รอดได้ เป็นผลของการฝึกสมาธิให้มีสติ อย่างไรก็ตาม หากประชาชนสนใจฝึกสมาธิก็ไปที่วัด หรือสำนักปฏิบัติธรรมทั่วประเทศที่ขึ้นทะเบียนกว่า 4,000 สำนัก ซึ่งปัจจุบันก็ยังไม่เพียงพอ ที่สำคัญพระวิปัสสนาจารย์ที่สอนสมาธิได้ยังขาดแคลนอีกมา โดยเฉพาะพระวิปัสนาจารย์สอนสมาธิในต่างประเทศ

ในการนี้แอดมินเพจ PR.Chiangrai ประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย  ได้ติดตามไลฟ์สดด้วย

​

แนะเลี่ยงเส้นทางจัดงานเลี้ยงทีมช่วย13หมู่ป่า
 

พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร. ประชาสัมพันธ์การอำนวยความสะดวกและจัดการจราจร การจัดงานเลี้ยงขอบคุณผู้ร่วมปฏิบัติหน้าที่ในการช่วยเหลือนำเยาวชนและผู้ฝึกสอนทีมหมูป่า อะคาเดมี 13 คน ออกจาก วนอุทยานถ้ำหลวง -ขุนน้ำนางนอน อ.แม่สาย จว.เชียงราย ในวันพฤหัสบดีที่ 6 กันยายน 2561 ณ พระลานพระราชวังดุสิต ว่า

          
กองบัญชาการตำรวจนครบาล จะมีการจัดการจราจรตามเส้นทางในช่วงจัดงานดังนี้ 1. ปิดการจราจรถนนอู่ทองใน จนถึงแยกพระรูป ร. 5  ในที่ 5 ก.ย.2561 เวลา 24.00 น. จนเสร็จสิ้นพิธี  2.จัดเดินรถทางเดียวในถนน ราชดำเนินนอก จากแยกมิสกวันถึงแยกพระรูป ร. 5  เลี้ยวซ้ายแยก พล.ร.1 และเลี้ยวขวาไปแยกวัดเบญจฯ ในวันที่ 6 ก.ย. 2561 ตั้งแต่เวลา 17.00 น.
          

เส้นทางที่ ปิดการจราจรเพื่อใช้เป็นพื้นที่จัดงาน ตลอดเวลา
          

-ปิดการจราจรตลอดเวลา วันที่ 5 ก.ย. พ.ศ. 2561 เวลา 24.00 น. ในถนนอู่ทองใน ตั้งแต่ แยกอู่ทองใน- พระลานพระราชวังดุสิต – แยกพระรูป ร. ๕ วางแนวแผงเหล็ก ตามถนนศรีอยุธยา ตั้งแต่แยกวัดเบญจฯ ถึง แยกพล.1 หนึ่งช่องทาง ด้านซ้ายติดขอบทางเท้าฝั่งสนามเสือป่าและ ช่องคู่ขนานฝั่งสวนอัมพร เพื่อให้ ประชาชนเดินผ่านจุดคัดกรอง
          

เส้นทางจัดการจราจร วันพฤหัสบดีที่ 6 ก.ย. 2561 ตั้งแต่เวลา 18.00 น. จนเสร็จสิ้นการจัดงาน
          

-จัดเดินรถทางเดียว ในถนนราชดาเนินนอก จากแยกสวนมิสกวัน มุ่งหน้าแยกพระรูป ร.5 ที่แยกพระรูป ร.5 (2) ถนนศรีอยุธยา ตั้งแต่แยกพระรูป ร.5 ไปแยกวัดเบญจฯ และ จากแยกพระรูป ร.5 ไป แยก พล.1
          

-ห้ามจอดรถตลอดเวลา ในถนน 3 สาย คือ ถนนพิษณุโลก , ถนนนครราชสีมา และถนนราชดาเนินนอก ตั้งแต่แยกสวนมิสกวัน ถึง แยก พระรูป ร.5 ทั้งสองฝั่ง
          

สถานที่จอดรถสำหรับประชาชนที่มาร่วมงาน
          

รถยนต์สามารถจอดได้ที่สนามม้านางเลิ้งและสวนสัตว์ดุสิต รถจักรยานและรถจักรยานยนต์สามารถจอดได้ที่ถนนนครปฐมบริเวณหน้าวัดเบญจฯ รถบริการประชาชน รถ Suttle Bus ออกจากสนามม้านางเลิ้ง – แยกพระรูป รถโดยสารเฉพาะกิจ ออกจากหมอชิต อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ สนามหลวง หัวลำโพง วงเวียนใหญ่ ถึงบริเวณงาน
          

รองโฆษก ตร. กล่าวต่ออีกว่า พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทุกพื้นที่ออกปฏิบัติหน้าที่ร่วมบูรณาการกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในการจัดการจราจรประชาชนที่สัญจรไปมาเพื่อร่วมงานกิจกรรม เร่งระบายรถ เพื่ออำนวยความสะดวกให้พี่น้องประชาชนในทุกรูปแบบ และจัดการจราจรให้เกิดประสิทธิภาพมากที่สุด สามารถเดินทางไปที่หมายได้อย่างสะดวกและปลอดภัย จึงขอประชาสัมพันธ์พี่น้องประชาชนที่จะเดินทางให้ปฏิบัติตามกฎจราจรและคำสั่งของเจ้าพนักงานจราจรด้วย ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนผู้ใช้รถใช้ถนนได้รับทราบหากจำเป็นจะต้องใช้เส้นทางดังกล่าวควรเตรียมความพร้อมและวางแผนในการเดินทางหากต้องการสอบถามข้อมูลเส้นทางแจ้งอุบัติเหตุจราจร และข้อมูลสภาพจราจรเพิ่มเติมสามารถสอบถามได้ที่ศูนย์ควบคุมและสั่งการจราจร (บก.02) หมายเลขโทรศัพท์ 1197 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง