วันศุกร์ ที่ 19 เมษายน พ.ศ. 2567 10:42 น.

การศึกษา

แนะนักการสื่อสารเชิงพุทธไม่ถูกเชิญก็ต้องทำหน้าที่ให้เป็นวิถีชีวิต

วันจันทร์ ที่ 10 กันยายน พ.ศ. 2561, 15.02 น.
tags : มจร

แนะนักการสื่อสารเชิงพุทธไม่ถูกเชิญก็ต้องทำหน้าที่ให้เป็นวิถีชีวิต​ 

 

วันที่ 10 ก.ย.2561 จากการโฟกัสกรุ๊ปดุษฎีนิพนธ์หลักสูตรปริญญาเอก สาขาสันติศึกษา รุ่น 1 มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่มแรก  เรื่อง"รูปแบบการพัฒนาวิทยากรต้นแบบธรรมะโอดีโดยพุทธสันติวิธี" ของพระปราโมทย์ วาทโกวิโท  โดยมีผู้เชี่ยวชาญและผู้ทรงคุณด้านพระพุทธศาสนา พุทธสันติวิธี สันติวิธี สันติภาพ วิทยากรการฝึกอบรม การพัฒนาวิทยากรมืออาชีพ และการพัฒนางานวิจัยจากทั่วประเทศ จำนวน 16 รูป/คน แสดงความคิดเห็น โดยมีพระเมธาวินัยรส,รศ.ดร.รองอธิการบดีมหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย (มมร)  เป็นประธาน ดร.ขันทอง วัฒนะประดิษฐ์ อาจารย์ประจำหลักสูตรสันติศึกษา เป็นวิทยากร เพื่อให้การทำวิจัยประกอบดุษฎีนิพนธ์ครั้งนี้ดีที่สุดเพื่อเป็นประโยชน์ต่อพระพุทธศาสนาและสังคมต่อไป เมื่อวันเสาร์ที่ 1 เดือนกันยายน พ.ศ.2561 ที่ผ่านมานั้น 

 

พระมหาสมบูรณ์ วุฑฺฒิกโร,ดร. คณบดีบัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย(มจร) เป็นผู้ทรงคุณวุฒิ ได้เสนอคุณสมบัติของพระวิทยากรต้นแบบธรรมะโอดีคือองค์แห่งธรรมกถึกสำหรับการเผยแผ่  5 ประการ คือ 1)แสดงธรรมไปตามลำดับไม่ตัดให้สับสนหรือขาดความ 2)ชี้แจงยกเหตุผลมาแสดงให้ผู้ฟังเข้าใจ 3)สอนด้วยเมตตา ตั้งจิตปรารถนาให้เป็นประโยชน์แก่ผู้อื่น 4)ไม่แสดงธรรมเพราะเห็นแก่ลาภหรืออามิส 5)ไม่แสดงธรรมกระทบตนและผู้อื่นด้วยการไม่ยกตน ไม่เสียดสีข่มขี่ผู้อื่นนั้น 

 

สอดคล้องกับหลักวาจาสุภาษิต 5 ประการคือ จริง ไพเราะ เหมาะกาล ประสานผลประโยชนและประกอบด้วยเมตตา ซึ่งบูรณาการเข้ากับหลักการสื่อสารเพื่อสันติภาพตามแนวคิดของโยฮัล กันตุง นักวิชาการสันติภาพ ที่ประกอบด้วย สื่อเพื่อสันติภาพมุ่งเน้นเรื่องสันติภาพ    สื่อเพื่อสันติภาพมุ่งเน้นรายงานความจริง  สื่อเพื่อสันติภาพมุ่งเน้นรายงานเสียงจากประชาชนทั่วไปและเหยื่อ และสื่อเพื่อสันติภาพให้น้ำหนักในเรื่องทางออกของความขัดแย้ง ดังนั้น นักการสื่อสารเชิงพุทธจะต้องมีกระบวนการ เนื้อหามีเหตุผลตามพระธรรมวินัยเถรานุเถระเสริม ประสานผลประโยชน์ ไม่หวังอามิส  จิตมีเมตตาไม่เสียดสีตนและผู้อื่น พร้อมกันนี้จะต้องมีจิตว่างด้วย พร้อมกันนี้ยังต้องยึดบุคคลต้นแบบที่ประสบผลสำเร็จช่นหลวงพ่อชา ท่านพุทธทาส พร้อมกันนี้นักการสื่อสารเชิงพุทธทำหน้าที่เป็นวิถีชีวิตแม้ไม่ถูกหรับเชิญก็ต้องทำ

 

ทั้งนี้พระปราโมทย์ระบุว่า  ผู้วิจัยมองว่า ผู้ทรงคุณวุฒิพยายามจะบอกว่า การนักเผยแผ่กับธรรมทูตเป็นเรื่องเดียวต้องมีความสัมพันธ์กัน พระสงฆ์ทุกรูปจึงเป็นนักเผยแผ่ ซึ่งการเผยแผ่มิใช่การพูดเท่านั้น สมณสารูปทั้งปวงย่อมเป็นการเผยแผ่เหมือนพระอัสสชิ เผยแผ่ด้วยการมีสมณสารูปที่งดงาม วิชายอด จรณะเยี่ยม การเผยแผ่ต้องยึดในองค์แห่งธรรมกถึก โดยเฉพาะการไม่กระทบตนและไม่กระทบผู้อื่น นักเผยแผ่จะต้องมีความตระหนักเป็นพิเศษ หน้าที่ของนักเผยแผ่ต้องนำพาผู้คนเข้าสู่ธรรมะอย่างเรียบง่ายเพื่อสามารถนำไปใช้ได้ในชีวิตการทำงาน ผู้วิจัยต้องค้นไปให้ถึงพระธรรมทูตในพระคัมภีร์พระไตรปิฎก เช่น บุคคลที่จะเป็นทูต นักเผยแผ่จะต้องเป็นทูตสันติภาพควรมีคุณลักษณะอย่างไร และศึกษาพระสงฆ์ต้นแบบด้านเผยแผ่ในเมืองไทยว่ามีปัจจัยอะไรที่ทำให้การเผยแผ่ประสบความสำเร็จ จะเผยแผ่จึงต้องเผยแผ่ทั้งปริยัติและเผยแผ่ปฏิบัติ 

 

"วิทยากรผู้ส่งสารต้องมีความแม่นยำในหลักคำสอนตามพระไตรปิฏก จึงต้องสร้างอัตลักษณ์ในการความเป็นวิทยากรแนวพุทธ ด้วยการสร้างความแตกต่างอย่านำทางโลกนำทางธรรม แต่ต้องนำทางโลกมาปรับใช้เพื่อสนับสนุนการเผยแผ่ เรียกว่า"ปรับศาสตร์เข้าหาพระพุทธศาสนา" หมายถึง นำศาสตร์สมัยใหม่มาสนับสนุนให้การเผยแผ่พระพุทธศาสนาเกิดความน่าสนใจมากขึ้น" พระปราโมทย์ระบุ

หน้าแรก » การศึกษา