เศรษฐีดูไบชมคำสอนพระุพุทธเจ้าส่งเสริมสันติภาพโลก

เศรษฐีดูไบนักสะสมรถชมคำสอนพระุพุทธเจ้า ส่งเสริมให้มนุษย์มีความรัก หลีกเลี่ยงความรุนแรงและเสริมสร้างสันติภาพโลก นิมนต์พระไทยสนทนาธรรม 

วันที่ 13 ก.ย.2561 เฟซบุ๊กSunthorn Utaithumได้โพสต์ภาพและความว่า นายซูฮาอิล โมฮัมหมัด อัล ซารูนี บุตรชายนายโมฮัมหมัด อับดุล การีม อัล ซารูนี ประธานมูลนิธิอัลซารูนี  ประธานบริหารกลุ่มเอมิเรสต์ และนักสะสมรถชาวสหรัฐอาหรับเอมิเรสต์ ที่มีชื่อเสียงจากการเป็นผู้ที่ได้รับการบันทึกสถิติโลกจากกินเนสบุ๊ค ในฐานะผู้ที่มีรถสะสมมากที่สุดในโลกกว่าสองหมื่นคัน 2 ปีซ้อน คือในปี พ.ศ. 2545-2546 ได้นิมนต์พระภิกษุสงฆ์ไทยไปที่บ้านพักนครดูไบเพื่อสนทนาธรรม

นายอัลซารูนีได้ปฏิสันถารกับคณะสงฆ์จากศูนย์ปฏิบัติธรรมแห่งสหรัฐอาหรับเอมิเรสต์ พร้อมกล่าวชื่นชมสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าว่า คำสอนของพระองค์มุ่งสอนให้มนุษย์หลีกเลี่ยงการใช้ความรุนแรง พระพุทธศาสนามีคุณูปการในการอุทิศตนเพื่อการปลูกฝังคุณธรรมจริยธรรมให้กับมวลมนุษยชาติมาอย่างต่อเนื่องยาวนาน ซึ่งเขาตระหนักเป็นอย่างดีว่า พระพุทธศาสนาเป็นแรงผลักสำคัญในการส่งเสริมความรักและสันติภาพให้กับโลกใบนี้

คณะสงฆ์ได้ตอบคำถามต่อข้อซักถามถึงข้อสงสัยว่าทำไมพระสงฆ์จึงต้องสวมจีวรสีส้มและโกนหัวว่า ความจริงแล้วสีของจีวรที่พระสงฆ์สวมคือ “สีกรัก” โดยมีประวัติย้อนกลับไปตั้งแต่ครั้งพุทธกาลเมื่อ 2,600 ปีก่อน เนื่องจากเป็นสีที่หาได้ง่ายตามธรรมชาติในยุคนั้น มีการใช้สืบต่อกันมาจนกลายเป็นที่นิยม และแพร่หลายในหมู่ภิกษุสงฆ์ฝ่ายเถรวาททั่วทั้งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งแตกต่างจากภิกษุฝ่ายวัชรยานที่นิยมสีน้ำตาลแดงมากกว่า จีวรสีกรักเป็นสัญลักษณ์ที่แสดงถึงความเรียบง่าย และการไม่ยึดติดกับวัตถุนิยม ซึ่งเป็นเหตุผลเดียวกับที่ว่า ทำไมพระภิกษุถึงต้องโกนหัว เพราะไม่เช่นนั้น ในวันหนึ่งๆพระสงฆ์คงต้องเดินไปส่องกระจกวันละหลายครั้ง เพื่อไปหวีหรือจัดทรง หรือไม่ก็ยืนคิดว่าต่อไปจะตัดทรงอะไรดี เหล่านี้คือเหตุผลที่อยู่เบื้องหลังว่าทำไมพระภิกษุจึงต้องโกนหัว

คณะสงฆ์ได้มอบของที่ระลึกให้กับนายอัลซารูนีอันเป็นเครื่องหมายที่แสดงถึงความรักและการให้เกียรติ นายอัลซารูนีได้กล่าวขอบคุณคณะสงฆ์ที่รับอาราธนามายังบ้านพัก และมอบความรู้มากมายเกี่ยวกับพระพุทธศาสนา และเขากล่าวย้ำว่า ความเรียบง่ายและความสำรวมของเหล่าพระภิกษุ สร้างความประทับใจให้กับเขาเป็นอย่างมาก