การศึกษา
เงินอุดหนุนเด็กเล็กถ้วนหน้า ใช้งบประมาณแพงเกินไปไหม?
วันพฤหัสบดี ที่ 11 ตุลาคม พ.ศ. 2561, 16.22 น.
ติดตามข่าวด่วน กระแสข่าวบน Facebook คลิกที่นี่
เงินอุดหนุนเด็กเล็กถ้วนหน้า ใช้งบประมาณแพงเกินไปไหม?
ในห้วงเวลากว่าปีที่ผ่านมา ได้มีความพยายามจากหลายภาคส่ วนในการโน้มน้าวให้รั ฐบาลไทยขยายความครอบคลุ มของโครงการเงินอุดหนุนเด็ กแรกเกิดจากปัจจุบันที่ให้ เฉพาะเด็กที่เกิดในครอบครั วยากจนให้เป็นแบบถ้วนหน้า คือเด็กทุกคนที่อายุอยู่ในเกณฑ์ จะได้รับเงินอุดหนุนหมดไม่ว่ าจะยากดีมีจนอย่างไร โดยให้ถือว่าเป็นสิทธิ์ (right) ที่เด็กทุกคนมีมาตั้งแต่เกิด ความพยายามนี้เผชิญกับข้อโต้แย้ งที่สำคัญสองประการ ซึ่ง ดร.สมชัย จิตสุชน ผู้อำนวยการวิจัย ด้านการพัฒนาอย่างทั่วถึง ทีดี อาร์ไอ ให้ความเห็นไว้ว่า
ประการแรก งบประมาณที่ต้องใช้ในกรณีให้ แบบถ้วนหน้าจะสูงกว่ามาก ยิ่งหากมีการขยายอายุการได้สิ ทธิ์ไปจนถึง 6 ปี (จากปัจจุบัน 3 ปี) ตามดำริของนายกรัฐมนตรีด้วยแล้ว งบประมาณจะสูงกว่าปัจจุบัน 4-5 เท่าตัว คือคาดว่าจะต้องใช้งบประมาณราว 2 หมื่นล้านบาทหากดำเนินการถ้ วนหน้า 0-6 ปีในทันที คือ ตั้งแต่ปีงบประมาณ 2562
ประการที่สอง การให้เงินกับเด็กทุกคนหมายถึ งการให้เงินกับลูกคนรวยหรือคนชั้ นกลางด้วยทั้งที่เด็กเหล่านั้ นมีพ่อแม่ที่ฐานะดีและไม่ ขาดแคลนเงินทองดูแลอย่างเต็มที่ อยู่แล้ว ดังนั้นนอกจากจะเป็นการเสียเงิ นโดยใช่เหตุแล้วยังไม่น่าจะก่ อให้เกิดผลดีใด ๆ กับเด็กกลุ่มนั้นเนื่องจากเงิ นที่เพิ่มเพียง 600 บาทเป็นเรื่ องเล็กน้อยมากสำหรับครอบครั วเหล่านั้น จะเป็นการดีกว่าถ้าคงระบบปัจจุ บันที่ให้เงินเฉพาะเด็ กในครอบครัวยากจนที่ขาดแคลนเงิน และถ้าไม่ต้องให้เงินกับลู กคนรวยก็สามารถนำเงินส่วนนี้ มาเพิ่มให้กับเด็กยากจนได้อีกด้ วย
ตรรกะข้างต้นดูเหมือนเป็นสิ่งที่ โต้แย้งได้ยาก เพราะเป็นการจัดสรรงบประมาณอย่ างชาญฉลาด ไม่สิ้นเปลืองโดยใช่เหตุ และการมีเงินมาช่วยเหลือเด็ กยากจนได้มากขึ้นย่อมเป็นสิ่งที่ พึงปรารถนา อย่างไรก็ตาม มีข้อเท็จจริงหนึ่งที่คนส่ วนใหญ่ไม่รู้ ข้อเท็จจริงดังกล่าวคื อจากประสบการณ์การให้เงินอุดหนุ นเด็กทั่วโลก พบว่า หากต้องมีกระบวนการคั ดกรองว่าครอบครัวใดจน ครอบครัวใดไม่จน กระบวนการคัดกรองนั้นจะทำให้เด็ กที่ไม่จนจริงได้รับสิทธิ์ แต่ ที่สำคัญคือจะเกิดกรณี ‘เด็ กยากจนตกหล่น’ คือเด็กในครอบครั วยากจนกลับถูกคัดออก โดยการตกหล่นนี้จะมีเสมอไม่ว่ ากระบวนการคัดกรองจะออกแบบไว้ดี อย่างไร(ความจริงแล้วยิ่งการคั ดกรองเข้มงวด คนจนตกหล่นก็ยิ่งมาก)
ในกรณีของไทย ผลการศึกษาพบว่าอัตราการตกหล่ นอยู่ที่ร้อยละ 30 กล่าวคือ ในเด็กยากจนทุก 100 คน จะมีเด็กไม่ได้รับเงินอุดหนุน 30 คน และเพราะการมีเด็กยากจนตกหล่ นภายใต้นโยบายที่ให้เงินอุดหนุ นเฉพาะเด็กในครอบครัวยากจนนี่ เองทำให้มี 32 ประเทศเลือกที่ จะให้เงินอุดหนุนแบบถ้วนหน้ าเพราะเป็นเพียงวิธีเดียวที่แก้ ปัญหาเด็กตกหล่นได้
ส่วนกรณีของไทยนั้นทราบว่ามี แนวคิดจะปรับเกณฑ์รายได้จากเดิม 36,000 บาทต่อคนต่อปี เป็นเกณฑ์เดียวกับบัตรสวัสดิ การแห่งรัฐคือ 100,000 บาทต่ อคนต่อปีของคนอายุ 18 ปีขึ้นไป ด้วยความหวังว่าจะทำให้อั ตราการตกหล่นลดลง ซึ่งจะใช้งบประมาณครึ่งหนึ่ งของกรณีถ้วนหน้า แม้จะเป็นเจตนาที่ดีแต่การปรั บเกณฑ์รายได้โดยไม่ทำให้ถ้วนหน้ าหมายความว่าจะยังมีกระบวนการคั ดกรองอยู่ จึงยังไม่แก้ปัญหาคนจนตกหล่นอยู่ ดี
กลับมาคำถามว่างบประมาณที่ใช้ กรณีถ้วนหน้าแพงไปหรือไม่ เราต้องจ่ายเงินมากขึ้นสองเท่ าตัว (เทียบกับกรณีใช้เกณฑ์รายได้ 100,000 บาท) เพื่อขจัดอัตราการตกหล่นร้อยละ 30 เป็นสิ่งที่คุ้มค่าหรือไม่ เ รื่องนี้แล้วแต่จุดยืนทางการเมื องและการให้น้ำหนักกับการตกหล่ นของเด็กยากจน 30% ว่าเป็นเรื่ องคอขาดบาดตายเพียงใด สำหรับผู้เขียนเห็นว่าคุ้มค่ าเพราะไทยเป็นสังคมสูงอายุแล้ว และจำเป็นต้องมีการลงทุนในเด็ กเล็กอย่างทั่วถึงเพื่อให้ สามารถสร้างคนรุ่นใหม่ที่มีศั กยภาพโดยไม่ตกหล่น
นอกจากนั้นแล้วยังเป็นการแก้ปั ญหาความเหลื่อมล้ำในระยะยาวที่ ได้ผลที่สุดด้วย ส่วนที่ว่าเด็กรวยไม่สมควรได้รั บเงินนั้น เราสามารถมองว่าเป็นการคืนเงิ นภาษีให้เขา เพราะต้องยอมรับว่าอย่างไรเสี ยรายได้ภาษีของรัฐบาลก็ มาจากกระเป๋าคนรวยมากกว่า (รวมถึงภาษีมูลค่าเพิ่มก็ มาจากกระเป๋าคนรวยไม่น้อยกว่า 70-80%) หากการคืนภาษีให้ คนรวยในรูปของเงินอุดหนุนเด็กมี ส่วนช่วยป้องกันการตกหล่นของเด็ กยากจน ก็เป็นสิ่งที่สมควรทำมิใช่หรือ และอย่าลืมว่าจำนวนเด็กที่เกิ ดน้อยลงไปเรื่อย ๆ จะทำให้งบประมาณส่วนนี้ ลดลงและไม่เป็ นภาระของประเทศแบบปลายเปิดแน่ นอน
กล่าวโดยสรุป เป็นความจริงว่าการให้เงินอุ ดหนุนเด็กเล็กแบบถ้วนหน้ามีต้ นทุนงบประมาณสูงกว่า แต่งบส่วนนี้เป็นการใช้เพื่อสร้ างอนาคตของชาติโดยไม่ตกหล่นเด็ กยากจน ลดความเหลื่อมล้ำ จึงเป็นงบประมาณที่คุ้มค่ากว่ าการใช้ในเรื่องอื่นอี กหลายประการ
ติดตามข่าวด่วน กระแสข่าวบน Facebook คลิกที่นี่
หน้าแรก » การศึกษา
Top 5 ข่าวการศึกษา
- โรงเรียนบ้านท่าชุม ซ้อมแผน"หนี*ซ่อน*สู้" 28 มี.ค. 2567
- สพม.พังงา ภูเก็ต ระนอง ยกระดับการสอนภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร 28 มี.ค. 2567
- ฮือฮา! เทคนิคระยองใช้หุ่นยนต์ AI Robot ‘น้องชะมวง’ อ่านรายชื่อ นศ. รับใบประกาศนียบัตรสำเร็จการศึกษา 28 มี.ค. 2567
- “ศุภมาส” ปลื้ม กว่า 170 มหาวิทยาลัยทั่วประเทศ รวมพลังขับเคลื่อนการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ 28 มี.ค. 2567
- สสวท.- อค.- มสด. ขยายความร่วมมือหนังสือเรียนทั่วถึง เด็กไทยทันใช้เปิดเทอม 28 มี.ค. 2567
ข่าวในหมวดการศึกษา
- "พระพรหมบัณฑิต-พวงเพ็ชร" หารือเตรียมพร้อม ไทยเป็นเจ้าภาพ “วิสาขบูชาโลก” 19-20 พ.ค.นี้ 16:36 น.
- อธิบดีกรมส่งเสริมการเรียนรู้ ตรวจราชการจังหวัดเชียงใหม่ 15:34 น.
- มูลนิธิสมาน-คุณหญิงเบญจา แสงมลิ เยี่ยมเกษตรกรปัตตานี 14:24 น.
- วช. มุ่งเป้าใช้งานวิจัยและนวัตกรรม รุกแผนลดอุบัติเหตุทางถนน 13:05 น.
- ม.วลัยลักษณ์ เตรียมจัดประชุมวิชาการนานาชาติ WRC 2024 ฉลองครบรอบ 32 ปี 13:01 น.