ผศ.วุฒิศักดิ์  ลาภเจริญทรัพย์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยรามคำแหง เป็นประธานให้โอวาทในการปฐมนิเทศนักศึกษาใหม่ ประจำปีการศึกษา 2562 เพื่อเป็นแนวทางการใช้ชีวิตในมหาวิทยาลัยอย่างมีความสุข ให้ข้อมูลข่าวสารที่เป็นประโยชน์ในการเรียนการสอน และสร้างแรงบันดาลใจสู่ความสำเร็จ โดยมีคณะผู้บริหาร และคณาจารย์จากทุกคณะร่วมต้อนรับนักศึกษาใหม่ พร้อมทั้งถ่ายทอดสัญญาณภาพและเสียงจากอาคารสองแคว ชั้น 7 วิทยาเขตบางนาไปยังสาขาวิทยบริการเฉลิมพระเกียรติทั้ง 23 จังหวัดทั่วประเทศ

 

 

โอกาสนี้ ผศ.วุฒิศักดิ์ อธิการบดี ม.ร. กล่าวต้อนรับว่า ในนามของมหาวิทยาลัยรามคำแหง     ขอต้อนรับนักศึกษาใหม่ทุกท่านด้วยความยินดี มหาวิทยาลัยภาคภูมิใจที่ได้ทำหน้าที่ในการให้โอกาสทางการศึกษาแก่ทุกคนในสังคมไทย  รามคำแหงเป็นมหาวิทยาลัยตลาดวิชาเพียงแห่งเดียวในประเทศไทย คือเป็นหนึ่งมหาวิทยาลัยสองระบบ มีระบบการเรียนการสอนทั้งระบบเปิดและระบบปิด ถ้านักศึกษามีความประสงค์มาเรียนมีคณาจารย์สอนในทุกวิชา เหมือนมหาวิทยาลัยปิด ส่วนนักศึกษาที่ไม่สะดวกเข้าเรียนหรือต้องทำงานไปด้วยเรียนไปด้วย มีสื่อการสอนต่างๆ ผ่านทางอินเทอร์เน็ต การเรียนการสอนทางไกล หรือสื่อการสอนที่บันทึกไว้ให้นักศึกษาได้ยืมไปเรียนเมื่อนักศึกษาสะดวก

 

 

 

“ที่นี่มีความหลากหลาย นักศึกษาที่มาเรียนเป็นทั้งผู้ที่มีฐานะร่ำรวยที่สุด และยากจนที่สุด     รามฯต้องทำหน้าที่อุดช่องว่างตรงนี้เพื่อให้เกิดความเท่าเทียมกัน อยากจะบอกอีกครั้งว่า ถือเป็นบุญของประเทศที่มีมหาวิทยาลัยรามคำแหงเกิดขึ้นเมื่อปี 2514 เพื่อแก้ไขปัญหาการขาดแคลนที่เรียนของเด็กที่สอบเอ็นทรานซ์ไม่ติด  เด็กที่อยู่ห่างไกลจากชนบท รวมถึงคนที่ทำงานแล้วยังไม่จบปริญญาตรีให้มีโอกาสพัฒนาในสายงานของตนเอง และคนพิการที่อยากเรียนหนังสือให้มีโอกาสได้เรียนด้วย”

 

 

อธิการบดี ม.ร. กล่าวด้วยว่า 48 ปีที่ผ่านมา รามคำแหงถือเป็นเสาเอกของประเทศที่ให้การศึกษาอย่างทั่วถึง มีความเสมอภาคและเท่าเทียมกัน ไม่ว่านักศึกษาจะอยู่ที่แห่งใดในประเทศก็สามารถเรียนหนังสือได้ โดยไม่ต้องทิ้งครอบครัวมากรุงเทพฯ รามคำแหงหยิบยื่นโอกาสทางการศึกษาให้กับคนจำนวนมาก  และยกระดับอาชีพให้กับคนอีกหลายคน ยกตัวอย่าง รปภ.ของมหาวิทยาลัยที่มุ่งมั่นใช้เวลา 16 ปี เรียนจนจบคณะรัฐศาสตร์ จากนั้นไปสอบข้าราชการเป็นปลัดอำเภอ ทำให้ชีวิตการทำงานเปลี่ยนไป 

 

 

ขณะนี้มหาวิทยาลัยได้พัฒนาเทคโนโลยีการเรียนการสอนให้ทันสมัยยิ่งขึ้น มีบริษัทยักษ์ใหญ่เข้ามาช่วยสนับสนุนเครือข่ายดิจิทัลให้นักศึกษาสามารถเข้าถึงระบบอินเทอร์เน็ตได้อย่างรวดเร็ว รามฯเดินหน้าพัฒนารูปแบบให้ตอบสนองความต้องการของทุกคน เช่น การสอบ e-testing การเรียนแบบ course on demand  การจัดการเรียนการสอนคณะทัศนมาตรศาสตร์ จบไปเป็นผู้เชี่ยวชาญดูแลสุขภาพสายตาให้กับประชาชน โดยความร่วมมือกับมหาวิทยาลัยอินเดียน่า ประเทศสหรัฐอเมริกา และยังมีอีกหลายสาขาวิชาที่ตอบสนองความต้องการของตลาดแรงงานในสังคม

 

 

“ขอให้นักศึกษามีความมั่นใจในคุณภาพการศึกษาของมหาวิทยาลัยรามคำแหงที่หยิบยื่นให้ทุกคน เมื่อตัดสินใจมาเรียนรามฯแล้วต้องเรียนให้จบ อย่าท้อแท้ แบ่งเวลาเรียนให้ดี นึกถึงพ่อแม่ผู้ปกครองที่เหน็ดเหนื่อยเพื่อลูกและเฝ้าคอยดูความสำเร็จ

 

 

หากมีปัญหาใดๆขอให้ปรึกษากับครูอาจารย์ โดยเฉพาะนักศึกษาที่มาจากต่างจังหวัด เพิ่งเข้ามาอยู่กรุงเทพฯ ขอใช้ชีวิตอย่างมีสติ คบเพื่อนให้ดี ไม่ยุ่งเกี่ยวกับอบายมุข ครูอาจารย์จะดูแลลูกศิษย์ให้เหมือนลูกหลาน ดูแลทั้งให้การศึกษาและชีวิตความเป็นอยู่ในหอพัก โดยมีโครงการหอพักเครือข่าย “หอพักติดดาว” ร่วมมือกับผู้ประกอบการหอพักให้ช่วยดูแลลูกศิษย์เหมือนลูกหลานเช่นเดียวกับมหาวิทยาลัย”

 

 

 

อธิการบดี ม.ร.กล่าวด้วยความห่วงใยว่า ลูกศิษย์ต้องตระหนักในหน้าที่ของตนเอง เมื่อมีเวลาขอให้มาเข้าเรียนหนังสือ มารู้จักครูอาจารย์ที่ให้วิชาความรู้ ขอให้เรียนหนังสืออย่างมีความสุข สำเร็จการศึกษาแล้วให้นำความรู้ไปสร้างประโยชน์ให้กับประเทศ

 

 

“ขอให้คำนึงเสมอว่า การศึกษาเป็นสิ่งที่สำคัญในชีวิตมนุษย์ ดังที่สุภาษิตจีน บอกไว้ว่า ทรัพย์สมบัติ เงินทอง สักวันก็ใช้หมด แต่ถ้าคนมีความรู้ติดตัว เป็นสมบัติที่ไม่มีใครเอาไปจากเราได้ และขอให้คิดถึงพ่อแม่ที่ส่งมาเรียนหนังสือ ให้ท่านเป็นแรงใจให้มีพลังในการเรียน ขยัน อดทน และมุ่งมั่นเรียนให้จบ ทุกอุปสรรคที่เกิดขึ้นมีไว้ให้แก้ไข ขอให้นักศึกษาตั้งใจศึกษาเล่าเรียน เชื่อว่าความสำเร็จอยู่ไม่ไกลเกินเอื้อม เมื่อจบไปแล้วตั้งมั่นเป็นคนดีของบ้านเมืองต่อไป”