วันเสาร์ ที่ 20 เมษายน พ.ศ. 2567 09:59 น.

การศึกษา

ศาลปกครองสูงสุดพิพากษายืน "ผศ.ดร.ยุวลักษณ์" มีคุณสมบัตินั่งอธิการบดี มรธ.

วันพฤหัสบดี ที่ 02 เมษายน พ.ศ. 2563, 08.45 น.
ศาลปกครองสูงสุดพิพากษายืน "ผศ.ดร.ยุวลักษณ์" มีคุณสมบัตินั่งอธิการบดี มรธ.
 
เมื่อวันที่ 31 มีนาคม พ.ศ.2563 ศาลปกครองสูงสุดได้มีคำพิพากษา คดีพิพาทเกี่ยวกับการที่เจ้าหน้าที่ของรัฐออกคำสั่งโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย (อุทธรณ์คำพิพากษา) คดีหมายเลขดำที่ อบ.377-378/2560 และคดีหมายเลขแดงที่ อบ.11-12/2563 โดยศาลปกครองสูงสุดเห็นพ้อง พิพากษายืนยกฟ้องตามคำพิพากษาของศาลปกครองชั้นต้น
 
ทั้งนี้ ศาลปกครองชั้นต้นมีคำพิพากษายกฟ้อง โดยวินิจฉัยว่า ตามที่พระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยราชภัฏ พ.ศ.2547 กำหนดคุณสมบัติของผู้ที่จะดำรงดำแหน่งอธิการบดีของมหาวิทยาลัยราชภัฏต่างๆ ไว้อย่างเปิดกว้าง โดยผู้ที่จะมาเป็นอธิการบดี อาจเป็นบุคคลที่อาจอยู่ในระบบราชการและมีอายุไม่เกิน 60 ปี ก็ได้ หรืออาจเป็นบุคคลที่ไม่ได้อยู่ในระบบราชการ แต่เป็นผู้มีประสบการณ์ด้านการบริหารงานในมหาวิทยาลัย หรือสถาบันอุดมศึกษาต่างๆ หรือเป็นบุคคลที่เคยดำรงตำแหน่งกรรมการสภามหาวิทยาลัยหรือสถาบันอุดมศึกษาต่าง ๆ หรือเป็นบุคคลที่ดำรงตำแหน่งหรือเคยดำรงตำแหน่งศาสตราจารย์มาแล้วก็ได้ ซึ่งคำว่า "เคยเป็น" ตามที่กฎหมายกำหนดไว้นั้น บุคคลต่างๆ เหล่านั้นอาจเป็นบุคคลที่มีอายุเกิน 60 ปี หรือเป็นบุคคลที่เกษียณอายุราชการแล้วก็ได้
 
ส่วนกรณีที่ผู้ฟ้องคดีทั้งสองไม่ได้โต้แย้งเรื่องคุณสมบัติของผู้ช่วยศาสตราจารย์ยุวลักษณ์ นั้น เนื่องจากทราบข้อกฎหมายและข้อบังคับเกี่ยวกับการสรรหาอธิการบดีเป็นอย่างดีแล้ว อีกทั้งการแสดงวิสัยทัศน์ต่อคณะกรรมการสรรหาอธิการบดี และต่อสภามหาวิทยาลัยราชภัฏธนบุรี ผู้ฟ้องคดีทั้งสองก็มิได้ทักท้วงเรื่องอายุของผู้ช่วยศาสตราจารย์ยุวลักษณ์ การที่ผู้ฟ้องคดีทั้งสองหยิบยกประเด็นเรื่องอายุว่าเป็นการขัดต่อข้อกฎหมาย ภายหลังจากที่ตนเองไม่ได้รับการคัดเลือกจากสภามหาวิทยาลัยราชภัฏธนบุรี จึงน่าจะเป็นการใช้สิทธิโดยไม่สุจริต ดังนั้นการที่สภามหาวิทยาลัยราชภัฏธนบุรี มีมติเห็นชอบให้แต่งตั้ง ผู้ช่วยศาสตราจารย์ยุวลักษณ์ ดำรงตำแหน่งอธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏธนบุรี จึงชอบด้วยกฎหมาย ส่วนกรณีการแต่งตั้งผู้ช่วยศาสตราจารย์ยุวลักษณ์ เป็นผู้รักษาราชการแทนอธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏธนบุรี เป็นคำสั่งที่ชอบด้วยกฎหมายเช่นกัน
 
ส่วนประเด็นคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 37/2560 เรื่องการแก้ไขปัญหาการบริหารงานของสถาบันอุดมศึกษา เห็นว่าการที่สภามหาวิทยาลัยราชภัฏธนบุรี มีมติในการประชุมวาระพิเศษ เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2560 เห็นชอบให้ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ยุวลักษณ์ ดำรงตำแหน่งอธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏธนบุรี และปัจจุบันอยู่ในระหว่างการเสนอเรื่องเพื่อทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งอธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏธนบุรี ในวันที่คำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 37/2560 เรื่องการแก้ไขปัญหาการบริหารงานของสถาบันอุดมศึกษา ลงวันที่ 8 สิงหาคม 2560 มีผลบังคับใช้ มติของสภามหาวิทยาลัยราชภัฏธนบุรี ที่เห็นชอบให้ผู้ช่วยศาสตราจารย์ยุวลักษณ์ ดำรงตำแหน่งอธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏธนบุรี จึงอยู่ภายใต้บังคับของคำสั่งดังกล่าวตามข้อ 2 วรรคสอง ดังนั้นการที่สภามหาวิทยาลัยราชภัฏธนบุรี มีมติเห็นชอบให้ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ยุวลักษณ์ ดำรงตำแหน่งอธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏธนบุรี  จึงชอบด้วยกฎหมาย การที่ศาลปกครองชั้นต้นพิพากษายกฟ้องนั้น ศาลปกครองสูงสุดเห็นพ้องด้วย พิพากษายืน

หน้าแรก » การศึกษา