การศึกษา
กสศ. จับมือ กทม. สถาบันแห่งชาติเพื่อการพัฒนาเด็กและครอบครัว
วันพุธ ที่ 23 กันยายน พ.ศ. 2563, 05.33 น.
ติดตามข่าวด่วน กระแสข่าวบน Facebook คลิกที่นี่
กสศ. จับมือ กทม. สถาบันแห่งชาติเพื่อการพัฒนาเด็กและครอบครัว
ที่ห้องประชุมบางกอก อาคารไอราวัตพัฒนา ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร ดินแดง พล.ต.อ. อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พร้อมด้วยนายพัฒนะพงษ์ สุขมะดัน ผู้ช่วยผู้จัดการ กสศ. ร่วมพิธีเปิด “โครงการการขยายผลและพัฒนาความช่วยเหลือกลุ่มเด็กปฐมวัย และเด็กปฐมวัยนอกระบบในกรุงเทพมหานคร”
พล.ต.อ. อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ประธานในพิธีเปิด กล่าวว่า กทม. มีศูนย์พัฒนาเด็กก่อนวัยเรียนจำนวน 292 ศูนย์ มีเด็กจำนวน 22,713 คน แต่ปัจจุบันการจัดบริการสาธารณะเพื่อส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตเด็กและเยาวชนเปราะบาง หรือที่มีความต้องการพิเศษยังขาดกลไกและบุคลากรที่มีความรู้ ทักษะ ประสบการณ์ และความเชี่ยวชาญในการดูแลและส่งเสริมพัฒนาการ จำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือจากหน่วยงานที่มีความรู้ ความเชี่ยวชาญเฉพาะทางวิชาการมาช่วยเหลือ ดังนั้น สำนักพัฒนาสังคม กรุงเทพมหานคร ร่วมกับ กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) และสถาบันแห่งชาติเพื่อการพัฒนาเด็กและครอบครัว มหาวิทยาลัยมหิดล ดำเนิน “โครงการการขยายผลและพัฒนาความช่วยเหลือกลุ่มเด็กปฐมวัยและเด็กปฐมวัยนอกระบบในกรุงเทพมหานคร” เพื่อพัฒนา ส่งเสริม สนับสนุน และยกระดับศักยภาพของศูนย์พัฒนาเด็กก่อนวัยเรียนกรุงเทพมหานคร ให้มีขีดความสามารถในการดูแล ส่งเสริมพัฒนาการเด็กปฐมวัยที่ยากจนและมีภาวะยากลำบากให้ได้รับการพัฒนาต่อเนื่อง เพื่อให้สามารถเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่มีคุณภาพต่อไป
นายพัฒนะพงษ์ สุขมะดัน ผู้ช่วยผู้จัดการกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) กล่าวว่า กสศ. จัดตั้งขึ้นตามเจตนารมย์ของคณะกรรมการอิสระเพื่อการปฏิรูปการศึกษาที่ต้องการให้ กสศ. เป็นหนึ่งในกลไกปฏิรูประบบการศึกษาที่มีขนาดองค์กรไม่ใหญ่ เน้นทำงานลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา คณะกรรมการบริหารกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษาจึงวางนโยบายให้ กสศ. มุ่งพัฒนาตัวแบบปฏิรูป หรือนวัตกรรมการจัดการที่มีประสิทธิภาพสูง สนับสนุนกระทรวงศึกษาธิการและองค์กรหลักในระบบการศึกษา เพื่อใช้สนับสนุนนโยบายลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาของรัฐบาล และส่งต่อให้หน่วยงานรับผิดชอบหลักนำไปขยายผลเกิดความยั่งยืน เช่น ในช่วงปี 2562 กสศ. ได้ดำเนินการให้ความช่วยเหลือเด็กปฐมวัยที่ยากจนในศูนย์พัฒนาเด็กเล็กที่อยู่ในสังกัดขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ภายใต้โครงการจัดการศึกษาเชิงพื้นที่เพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา มีเป้าหมายเพื่อให้จังหวัดมีขีดความสามารถที่จะดำเนินการปฏิรูปการศึกษาหรือจัดการเรียนรู้สำหรับเด็กและเยาวชนได้เองในระยะยาว โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อ (1) พัฒนาความเข้มแข็งของกลไกความร่วมมือจัดการศึกษาของจังหวัด (2) พัฒนาระบบข้อมูลเพื่อการวางแผนและติดตามช่วยเหลือกลุ่มเป้าหมายเป็นรายบุคคล และ (3) ดำเนินมาตรการเพื่อติดตามช่วยเหลือกลุ่มเป้าหมาย โดย กสศ. ได้สนับสนุนการดำเนินงานในจังหวัดนำร่อง จำนวน 20 จังหวัด กระจายอยู่ทุกภูมิภาค
ในปี 2563 กสศ. ได้กำหนดนโยบายขยายการช่วยเหลือไปยังเด็กปฐมวัยที่ยากจนในพื้นที่กรุงเทพมหานคร โดยให้ความสำคัญกับการค้นหา คัดกรอง และนำเด็กกลุ่มดังกล่าวกลับเข้ารับบริการในศูนย์พัฒนาเด็กก่อนวัยเรียนกรุงเทพมหานคร จะช่วยเตรียมความพร้อมและลดอัตราการไม่เข้าศึกษาต่อในชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ได้เป็นอย่างมาก
ดังนั้น กสศ. จึงได้ร่วมกับกรุงเทพมหานคร และสถาบันแห่งชาติเพื่อการพัฒนาเด็กและครอบครัว จัดทำ “โครงการการขยายผลและพัฒนาความช่วยเหลือกลุ่มเด็กปฐมวัยยากจนในสถานพัฒนาเด็กปฐมวัยและเด็กปฐมวัยนอกระบบในกรุงเทพมหานคร” ที่จะช่วยสนับสนุนให้เกิดการสำรวจ ค้นหา คัดกรอง และให้ความช่วยเหลือเพื่อบรรเทาอุปสรรคในการเข้ารับบริการในศูนย์พัฒนาเด็กก่อนวัยเรียนของครอบครัวยากจน ทั้งที่มีเด็กปฐมวัยที่กำลังรับบริการอยู่ หรือยังไม่ได้เข้ารับบริการ (เด็กปฐมวัยนอกระบบการศึกษา) ควบคู่ไปกับการพัฒนาคุณภาพและศักยภาพของผู้ดูแลเด็กรวมถึงการพัฒนาคุณภาพศูนย์พัฒนาเด็กก่อนวัยเรียนตามมาตรฐานสถานพัฒนาเด็กปฐมวัยแห่งชาติ
ผลลัพธ์จากการดำเนินงานของโครงการ จะช่วยส่งเสริมให้เด็กก่อนวัยเรียนในกรุงเทพมหานคร ได้รับการเตรียมความพร้อมก่อนเข้าเรียนต่อในระดับประถมศึกษา สนับสนุนให้มีอัตราการเรียนต่อในระดับประถมศึกษาเพิ่มมากขึ้น และลดความเหลื่อมล้ำของโอกาสในการเข้าถึงบริการทางการศึกษาที่มีคุณภาพอีกด้วย รวมทั้งได้แนวทางการทำงานร่วมกับชุมชน และครอบครัวผู้ดูแลเด็กปฐมวัยยากจนในสถานพัฒนาเด็กปฐมวัย และเด็กปฐมวัยนอกระบบ ในเขตกรุงเทพมหานคร
“ พื้นที่ กทม. มีเด็กยากจน ช่วงปฐมวัย 13,000 คน ยังไม่ได้รับการศึกษาในศูนย์พัฒนาเด็กก่อนวัยเรียน อันนี้เป็นกลุ่มเป้าหมายที่ กสศ. อยากชวนให้หาเด็กกลุ่มนี้ให้เจอ เรามีเครื่องมือที่จะใช้คัดกรองน้องๆ เป็นรายบุคคล เพื่อดูสภาพปัญหาและแนวทางช่วยเหลือ ส่วนครูในศูนย์พัฒนาเด็ก กสศ. อยากให้ได้รับการพัฒนาทักษะ เรื่องการเรียนการสอน การดูแลเด็กโดยเฉพาะกลุ่มที่ยากลำบาก ซึ่งต่างจากการดูแลเด็กที่มีความพร้อมมากกว่า ทางสถาบันแห่งชาติเพื่อการพัฒนาเด็กและครอบครัว มีเครื่องมือในการที่จะชวนคุณครูมาพัฒนาการเรียนการสอน ไปสู่น้องๆ เพื่อให้เป็นหน่วยจัดการศึกษาที่เด็กๆ อยากมาเรียน สนุกกับการมาเรียน สามารถดูแลเด็กได้อย่างเต็มที่ เราเชื่อว่าครูจะสนุกกับวิธีการและเครื่องมือ อยากให้มั่นใจว่าเครื่องมือได้ผ่านการพัฒนามาแล้ว แต่ก็ยังต้องได้รับการพัฒนาต่อเนื่องให้เหมาะสมกับบริบท ความเข้มข้นของปัญหา เพื่อที่จะขยายผลให้ครอบคลุมทั่วประเทศ อย่างไรก็ตามเมื่อเราทำงานช่วงนี้ผ่าน กสศ. อยากเห็นเด็กมาเรียนได้ในทุกๆ วัน ได้รับการดูแลตามสมควร และสิ่งที่สำคัญที่สุด คือ เด็กเล็ก ช่วงอายุ 3-5 ปี สามารถไปเรียนต่อในระดับที่สูงขึ้นได้ทั้ง 100 เปอร์เซ็นต์ เด็กที่ยังไม่ได้เรียน ได้รับโอกาสทางการศึกษา 10 ปีต่อจากนี้ จะไม่เห็นเด็กต้องกลายเป็นเยาวชนนอกระบบการศึกษา แต่จะเป็นกำลังคนที่มีคุณค่าของประเทศต่อไป ” นายพัฒนะพงษ์ กล่าว
นายพัฒนะพงษ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า การดูแลเด็กปฐมวัยเป็นต้นทางที่จะลดจำนวนเด็กเยาวชนนอกระบบการศึกษาในอนาคตได้ เพราะหากเราปล่อยให้เด็กหลุดออกจากระบบกลางคัน โจทย์มันจะยากกว่า เพราะหากบาดแผลเกิดขึ้นกับเด็กแล้ว การที่จะไปชวนเด็กให้กลับเข้าสู่ระบบการศึกษา หรือแม้แต่การเติมทักษะชีวิตหรือทักษะอาชีพ เป็นเรื่องที่ยากและซับซ้อนกว่า สิ่งที่เราทำเป็นการป้องกันที่ดีที่สุด
รศ.นพ.อดิศักดิ์ ผลิตผลการพิมพ์ ผู้อำนวยการสถาบันแห่งชาติเพื่อการพัฒนาเด็กและครอบครัว มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวว่า ปี 2561 – 2562 สถาบันได้ทำการศึกษากลุ่มเด็กยากจน 458 ครอบครัวในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล 3 จังหวัด พบว่า กลุ่มเด็กยากจนขาดแคลนที่มีภาวะวิกฤตครอบครัว ร้อยละ 53.5 มีการแตกแยกหย่าร้างของพ่อแม่ ร้อยละ 25.3 มีความรุนแรงในครอบครัว ร้อยละ 14 ผู้เลี้ยงดู มีการใช้สารเสพติด ร้อยละ 69 ได้รับการดูแลที่ไม่บรรลุผลสุขภาวะ ร้อยละ 24 มีพัฒนาการล่าช้า ร้อยละ 9 มีพัฒนาการล่าช้ามาก จึงได้ผลักดันนโยบายการคัดกรองเด็กกลุ่มเสี่ยงสูงและรูปแบบการเยี่ยมบ้านโดยทีมบูรณาการเพื่อแก้ปัญหากลุ่มเด็กยากจน โดยมีศูนย์พัฒนาเด็กปฐมวัยในชุมชนเป็นจุดเชื่อมโยงทีมบูรณาการในพื้นที่ ซึ่งโครงการการขยายผลและพัฒนาความช่วยเหลือกลุ่มเด็กปฐมวัยและเด็กปฐมวัยนอกระบบในกรุงเทพมหานคร” เพื่อยกระดับการพัฒนาเด็กปฐมวัยที่ยากจนและมีภาวะวิกฤตครอบครัว โดยใช้ศูนย์พัฒนาเด็กก่อนวัยเรียนในชุมชน (ศพด.) ที่อยู่ในการสนับสนุนของกรุงเทพมหานคร เป็นฐานสำคัญในการนำการช่วยเหลือและส่งเสริมพัฒนาการกลุ่มเด็กปฐมวัยยากจนในศูนย์พัฒนาเด็กก่อนวัยเรียน ไม่น้อยกว่า 10,000 คน และเด็กปฐมวัยนอกระบบ ไม่น้อยกว่า 1,000 คน และอาสาสมัครผู้ดูแลเด็กในศูนย์พัฒนาเด็กก่อนวัยเรียนกรุงเทพมหานคร จะได้รับการพัฒนาให้มีขีดความสามารถในการช่วยเหลือและส่งเสริมพัฒนาการกลุ่มเด็กยากจนที่มีภาวะความยากลำบาก แนวทางการทำงานที่ได้จะเป็นประโยชน์ในการขยายผลในเมืองต่างๆ ต่อไป
ทั้งนี้ทางโครงการมีระยะเวลาการดำเนินงาน 1 ปีตั้งแต่เดือนกันยายน 2563 – สิงหาคม 2564 มีแนวทางการดำเนินงานดั้งนี้ 1.พัฒนาเครื่องมือคัดกรองเด็กที่อยู่ในครอบครัวที่ยากจนขาดแคลนและมีภาวะวิกฤตครอบครัว และนำมาให้ครูและผู้ดูแลเด็กของศพด.ใช้ในการคัดกรองเด็ก ทั้งเด็กปฐมวัยในระบบและนอกระบบ 2. จัดการอุดหนุนงบประมาณแก่เด็กปฐมวัยยากจนที่มีความเสี่ยงสูงในศูนย์พัฒนาเด็กก่อนวัยเรียนเพื่อบรรเทาอุปสรรคในการเรียน และผลกระทบจากภัยการระบาด Covid-19 3. สนับสนุนวิชาการเพื่อการพัฒนาคุณภาพของศูนย์พัฒนาเด็กก่อนวัยเรียน ให้สามารถออกแบบกระบวนการและให้การดูแลและพัฒนาเด็กปฐมวัยยากจนที่มีความเสี่ยงสูงดังกล่าวให้มีประสิทธิภาพ โดยจัดการฝึกอบรม ให้คำปรึกษา เวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้ต่อเนื่อง และการสนับสนุนทรัพยากร เครื่องมือ สำหรับครูและผู้ดูแลเด็กของศูนย์พัฒนาเด็กก่อนวัยเรียน 4. สนับสนุนวิชาการเพื่อการพัฒนาศูนย์พัฒนาเด็กก่อนวัยเรียนให้มีกระบวนการทำงานกับครอบครัวยากจนที่มีความเสี่ยงสูง ทั้งการเยี่ยมบ้านร่วมกับทีมบูรณาการด้านสุขภาพและการคุ้มครองเด็ก และการส่งต่อข้อมูลเพื่อให้หน่วยงานวิชาชีพที่เกี่ยวข้องให้การช่วยเหลือเด็กในครอบครัวยากจนที่มีความเสี่ยงสูง 5. อุดหนุนงบประมาณแก่ศูนย์พัฒนาเด็กก่อนวัยเรียน เพื่อดำเนินการข้อ 3 - 4 แก่เด็กปฐมวัยยากจนที่มีความเสี่ยงสูง
Email ข่าวการศึกษา เยาวชน ศิลปวัฒนธรรม saowaporn@hotmail.com และ bat_mamsao@yahoo.com
ติดตามข่าวด่วน กระแสข่าวบน Facebook คลิกที่นี่
หน้าแรก » การศึกษา
Top 5 ข่าวการศึกษา
- สพป. สุโขทัย เขต 2 ประชุมความพร้อมก่อนเปิดเรียน 24 เม.ย. 2567
- วธ. สืบสานศิลปวัฒนธรรมการแสดงดนตรีพื้นบ้านไทย 4 ภาค 24 เม.ย. 2567
- สกร.ทำงานเชิงรุกป้องกันยาเสพติดในชุมชน 24 เม.ย. 2567
- สอวช. ร่วมกับ SDG Move นำเสนอเครื่องมือตัวชี้วัด BCG เพื่อสนับสนุนผู้ประกอบการในการพัฒนาธุรกิจ 24 เม.ย. 2567
- น้ำมันเชื้อเพลิงจากยีสต์! ผลงานวิจัยคณะวิทย์ฯ จุฬาฯ 24 เม.ย. 2567
ข่าวในหมวดการศึกษา
- สมศ. เปิดรับสมัครเจ้าหน้าที่และลูกจ้างประจำสำนักงาน 16:01 น.
- “ศศินทร์” จัดงาน SasinIEW เสริมพลังผู้ประกอบการเพื่ออนาคตที่ยั่งยืน 15:48 น.
- วธ.ประเดิมงานใต้ร่มพระบารมี 242 ปี กรุงรัตนโกสินทร์ เปิดสารพันอาหารย่านกะดีจีน-คลองสาน” 14:56 น.
- วิจัยเภสัชฯ จุฬาฯ ชี้ พืชกระท่อม ลดปวด-แก้อักเสบ ถอนยาเสพติดร้ายแรงได้ 14:46 น.
- สกร.มอบงานเขตพื้นที่ ทำMOUดึงเด็กกลับสู่การเรียนรู้ 12:29 น.