จากกรณีที่ “หนิง ปณิตา” ได้โพสต์ข้อความระบายลงในอินสตาแกรมส่วนตัว หลังถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งข้อหาขับรถผิดกฎจราจร พร้อมวิพากษ์วิจารณ์การปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่บางคน ก่อนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะแจ้งข้อหาการกระทำความผิดข้อหา ฝ่าฝืนเครื่องหมายบนพื้นทาง, ขับรถโดยไม่มีใบอนุญาตขับขี่ และไม่แสดงแผ่นป้ายการชำระภาษีประจำปี ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น ล่าสุด “หนิง ปณิตา” ได้ให้สัมภาษณ์เปิดใจกลางรายการ “เที่ยงวันทันเหตุการณ์” ซึ่งออกอากาศทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 11.20-12.20 น. ช่อง 3  แจงทุกข้อกรณีที่เกิดขึ้นว่า

“ปกติไม่ค่อยขับรถเองเท่าไหร่เลยไม่รู้เส้นทาง ขับรถผิดกฎ ตำรวจก็เรียก หนิงก็บอกว่าเขียนใบสั่งได้เลยค่ะ ใบขับขี่หนิงไม่ได้พกมา เพราะหนิงปกติไม่ค่อยได้ขับรถเอง คือ ในส่วนตัวหนิงอะไรที่ทำผิดหนิง ยอมรับ ผิดก็ต้องโดนลงโทษ เจ้าหน้าที่ก็เดินวนรถ ในมุมของหนิง หนิงรับผิดทุกกรณี ยอมรับโดยไม่มีข้อโต้แย้งใดๆ ส่วนเรื่องสังคมตีกลับ เรื่องรถมาเซราติ ก็เข้าใจได้ที่ตำรวจไม่รู้จักยี่ห้อรถ การลงไอจีของหนิง หนิงใช้ความรู้สึกส่วนตัวของหนิง หนิงมีประสบการณ์บนท้องถนน หนิงยอมรับผิดทุกประเด็น แต่เราแค่แบบทำไมต้องตรงค้นนู้นตรงนี้ ในเมื่อเรายอมรับแล้ว แต่ตอนนั้นหนิงไม่ได้คิดถึงข้อนี้ว่าบางคนอาจไม่รู้จักรถยี่ห้อนี้ ตำรวจเขาไม่ได้เรียก ไม่ได้พูด เรื่องเงิน แต่สถานการณ์ตรงนั้นถ้าใครอยู่ในท้องถนน แล้วเจอแบบที่หนิงเจอ หนิงยอมรับทุกประเด็น แต่ตอนนั้นทำไมไม่เขียนใบสั่ง เหตุการณ์เวลานั้นทำพาให้เรารู้สึกอย่างนั้น เราผิดเรายอมรับผิดนะ หนิงยอมรับว่าหนิงคิดเร็วทำเร็วเกินไป พี่ตำรวจเค้าก็ทำถูกต้องแล้ว แต่หนิงคิดเร็วเกินไปในการลงโซเชียล ถ้าหนิงจะผิดหนิงก็ผิดตรงข้อนึงคือหนิงคิดเร็วทำเร็วเกินไป ทุกครั้งที่หนิงสัมภาษณ์ การสัมภาษณ์ หรือใครด่า หนิงรับฟังหมด มันคือกระจกสะท้อน”

ส่วนเรื่องรถมาเซราติที่สวมทะเบียนบีเอ็มดับเบิ้ลยูนั้น “หนิง ปณิตา” เปิดเผยว่า “เราซื้อต่อจากคนรู้จัก เจ้าของรถเขาเอาทะเบียนรถคันนี้คืนแล้ว แต่ขั้นตอนของเราคืออยู่ที่ขนส่งรอการสลับเลข เราเอาเลขที่ไม่ได้ใช้เอามาใส่ไว้ก่อนระหว่างรอ ตรงนี้สามารถเช็กได้ที่กรมขนส่ง”