การเงิน หุ้น
SPCG โชว์ Q3 โกย 3,794 ล้านบาท กำไรสุทธิ 2,168 ล้านบาท
ติดตามข่าวด่วน กระแสข่าวบน Facebook คลิกที่นี่
SPCG แถลงผลประกอบการ Q3 ปี 62 โกยรายได้แข็งแกร่งสวนกระแสเศรษฐกิจโลกถดถอย เผยกวาดรายได้รวม 3,794 ล้านบาท กำไรสุทธิ 2,168 ล้านบาท เพิ่ม 2.6 % จากงวดเดียวกันปีก่อน เผยเมกะโปรเจกต์โซลาร์ฟาร์มญี่ปุ่น กำลังผลิต 469 เมกะวัตต์คืบหน้าตามแผน
เมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน 2562 ดร.วันดี กุญชรยาคง จุลเจริญ ประธานกรรมการและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เอสพีซีจี จำกัด (มหาชน) หรือ “SPCG” แถลงผลประกอบการไตรมาสที่ 3/2562 ในงาน “บริษัทจดทะเบียนพบนักลงทุน Opportunity Day” ที่ห้อง 603 ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ถนนรัชดาภิเษก ดินแดง กรุงเทฯ โดย SPCG มีผลการดำเนินงานงวด 9 เดือน สิ้นสุด ณ วันที่ 30 กันยายน 2562 บริษัทฯมีรายได้รวม จำนวน 3,794 ล้านบาท ลดลง 11 % จากงวดเดียวกันของปีก่อน ซึ่งมีรายได้รวม 4,275 ล้านบาท และบริษัทมีกำไรสุทธิรวมจำนวน 2,168 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันในปีก่อน ซึ่งมีกำไรสุทธิรวมจำนวน 2,112 ล้านบาท โดยเพิ่มขึ้น 56 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 2.6
ดร.วันดี กล่าวว่า บริษัทฯยังมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยมีปัจจัยสนับสนุนหลักจากธุรกิจผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์หรือ โซลาร์ฟาร์ม ทั้ง 36 โครงการ รวมกำลังการผลิตกว่า260 เมกะวัตต์ ที่ในปี 2562 นี้จำนวนกระแสไฟฟ้าที่ผลิตและจำหน่ายได้จากทั้ง 36 โครงการ มีจำนวน 289.4 ล้านหน่วย ซึ่งเพิ่มขึ้นร้อยละ 3 เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา
ในส่วนของรายได้ที่ลดลงเป็นผลอันเนื่องมาจากบริษัท โซลาร์ เพาเวอร์ รูฟ จำกัด หรือ“SPR” (บริษัทในเครือ SPCG) ผู้นำด้านการออกแบบและติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคา (Solar Power Roof System) มีรายได้ที่ลดลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปีก่อน เหตุผลอันเนื่องมาจากความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจโลก บวกกับลูกค้ากลุ่มบ้านพักอาศัยบางส่วนยังรอความชัดเจนในนโยบายของภาครัฐภายใต้โครงการโซลาร์ภาคประชาชน ส่งผลให้ลูกค้าชะลอการลงทุนไปในช่วงปลายปีนี้ถึงต้นปีหน้า และเพื่อเป็นการผลักดันยอดขาย บริษัทได้มีการเปลี่ยนแผนการตลาดและกลยุทธ์ในการขาย เพื่อเพิ่มความสามารถในการแข่งขัน และทางเลือกให้กับลูกค้ามากยิ่งขึ้นโดยขณะที่ลูกค้าในกลุ่มอาคารพาณิชย์ และ กลุ่มโรงงานอุตสาหกรรม ยังคงให้การตอบรับเป็นอย่างดี เพราะเมื่อลูกค้าติดตั้งระบบโซลาร์รูฟของบริษัทแล้ว ต่างเห็นผลลัพธ์ที่ดี สามารถลดค่าไฟได้ทันทีเมื่อติดตั้งอีกทั้งยังช่วยลดต้นทุนการดำเนินงาน ทำให้กิจการของลูกค้ามีกำไรเพิ่มขึ้น
สำหรับความคืบหน้าของโครงการความร่วมมือด้านการพัฒนาโครงการผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคา (Solar Roof) ร่วมกับ 3 บริษัท ได้แก่ บริษัท Mitsubishi UFJ Lease & Finance Company Limitedหรือ MUL ,บริษัทพีอีเอ เอ็นคอม อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัดหรือ PEA ENCOM และ บริษัท KYOCERA Corporation , Japan หรือ KYOCERAปัจจุบันได้จัดตั้งบริษัทเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในช่วงเดือนพฤศจิกายน – ธันวาคม 2562 นี้ โดยตั้งเป้าในการติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคา (Solar Roof) ให้กับกลุ่มลูกค้าโรงงานอุตสาหกรรม ภายในสิ้นปี 2563 กำลังการผลิตรวม 100 เมกะวัตต์
ดร.วันดีกล่าวต่อในส่วนของโครงการโซลาร์ฟาร์ม Ukujima ประเทศญี่ปุ่น ขนาดกำลังการผลิต 469 เมกะวัตต์ที่เป็นการร่วมทุนของ 8 บริษัท ได้แก่ Kyocera Corporation, Kyudenko Corporation, Mizuho Bank ,SPCG Pubic Company Limited , Tokyo Century Corporation , Furukawa Electric Company Limited , Tsuboi Corporation และ The Eighteenth Bank Limited งบการลงทุนประมาณ 60,000 ล้านบาท ตอนนี้อยู่ระหว่างการยื่นเอกสารสำคัญต่างๆ และจะเข้าสู่ขั้นตอนการก่อสร้างต่อไป โดยคาดว่าจะเริ่มดำเนินการจำหน่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ (COD)ได้ในช่วงกลางปี พ.ศ.2566
ติดตามข่าวด่วน กระแสข่าวบน Facebook คลิกที่นี่
หน้าแรก » การเงิน หุ้น
ข่าวในหมวดการเงิน หุ้น
- ธ.ก.ส. จัดประชุมขับเคลื่อนภารกิจสู่ความสำเร็จ Bank Agenda ประจำปี 2567 19:45 น.
- เอสซีบี เอกซ์ ประกาศผลกำไรสุทธิประจำไตรมาส 1 ของปี 2567 จำนวน 11,281 ล้านบาท 14:14 น.
- กรุงศรีเผยผลกำไรสุทธิไตรมาสแรกปี 2567 จำนวน 7.54 พันล้านบาท 00:38 น.
- เคทีซีเผยงบรวมไตรมาส 1/2567 กำไร 1,803 ล้านบาท เดินหน้าโฟกัสคุณภาพสินทรัพย์ในระดับความเสี่ยงที่เหมาะสม 00:37 น.
- “กรุงไทย” กำไร 11,079 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10% เดินหน้าช่วยลูกค้าแก้หนี้ยั่งยืน 20:36 น.