การเงิน หุ้น
EIC พบสัญญาณ 5 ศก.ครัวเรือนซบ
วันอาทิตย์ ที่ 15 ธันวาคม พ.ศ. 2562, 08.07 น.
ติดตามข่าวด่วน กระแสข่าวบน Facebook คลิกที่นี่
EIC พบสัญญาณ 5 ศก.ครัวเรือนซบ
เศรษฐกิจภาคครัวเรือนไทยอยู่ ในสภาวะซบเซา ทั้งรายได้และการใช้จ่ายเฉลี่ ยลดลงเป็นครั้งแรกในรอบ 10 ปี สถานะทางการเงินของครัวเรื อนเปราะบางมากขึ้น จากภาระหนี้ที่ยังเพิ่มขึ้น อัตราการออมที่ลดลง และกันชนทางการเงิน (financial cushion) ที่มีน้อยลงเงินช่วยเหลื อจากภาครัฐมีบทบาทเพิ่มมากขึ้ นในการประคับประคองกลุ่มครัวเรื อนรายได้น้อยในช่วงที่ ความสามารถในการหารายได้อ่ อนแอและยังมีความเปราะบางสูง
จากข้อมูลการสำรวจภาวะเศรษฐกิ จและสังคมของภาคครัวเรือนไทย (Household Socio-Economic Survey หรือ SES) ซึ่งจัดทำด้วยการสำรวจครัวเรื อนจำนวนกว่า 4 หมื่นครัวเรือนในทุก ๆ 2 ปีโดยสำนักงานสถิติแห่งชาติ
Economic Intelligence Center หรือEIC ธนาคารไทยพาณิชย์ (จำกัด) มหาชนนำเอาข้อมูลล่าสุดในช่ วงครึ่งแรกของปี 2562 มาวิเคราะห์เปรียบเทียบกับข้อมู ลย้อนหลัง 10 ปี พบว่ามี 5 ข้อค้นพบน่าสนใจที่บ่งชี้ถึ งภาวะเศรษฐกิจของครัวเรื อนไทยในปัจจุบัน ดังต่อไปนี้
Fact 1: รายได้เฉลี่ยของครัวเรื อนไทยลดลงเป็นครั้งแรกในรอบ 10 ปีสวนทาง GDP ที่ยังเติบโต
• ในช่วงครึ่งแรกของปี 2562 ครัวเรือนไทยมีรายได้ ลดลงสวนทางกับ GDP ที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ในช่วงครึ่งแรกของปี 2562 ครัวเรือนไทยมีรายได้เฉลี่ยอยู่ ที่ 26,371 บาทต่อเดือนต่อครัวเรือน ลดลง -2.1% จากในปี 2560 ที่ 26,946 บาทต่อเดือนต่อครัวเรือน ถือเป็นการลดลงครั้งแรกในรอบ 10 ปีจากในช่วงก่อนหน้านี้ที่ รายได้ครัวเรือนมีการเพิ่มขึ้ นมาโดยตลอด ทั้งนี้รายได้ครัวเรือนที่ ลดลงนั้นสวนทางกับเศรษฐกิจเมื่ อวัดจาก nominal GDP ที่เติบโตขึ้น 7.6% ในช่วงเดียวกัน (คำนวณเทียบ nominal GDP รวม 4 ไตรมาสย้อนหลังนับจากช่วงครึ่ งแรกของปี 2562 เทียบกับของทั้งปี 2560)
• รายได้ครัวเรือนลดลงทั้งในส่ วนที่มาจากการทำงานเป็นลูกจ้าง (ค่าจ้าง) และจากการประกอบธุรกิจ (กำไรจากกิจการ)
Fact 2: การใช้จ่ายเฉลี่ยของครัวเรื อนไทยก็ลดลงเป็นครั้งแรกในรอบ 10 ปีเช่นกัน
• ครัวเรือนไทยลดการใช้จ่ายลง ในช่วงครึ่งแรกของปี 2562 ครัวเรือนไทยใช้จ่ายเฉลี่ยอยู่ ที่ 21,236 บาทต่อครัวเรือนต่อเดือนลดลง -0.9% จาก 21,437 บาทต่อครัวเรือนต่อเดือนในปี 2560 ถือเป็นการลดลงครั้งแรกในรอบ 10 ปี สอดคล้องกับรายได้ที่ลดลง ทั้งนี้การลดลงของการใช้จ่ายยั งอาจมีสาเหตุมาจากความกังวลเรื่ องความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจที่ มากขึ้น รวมถึงภาระหนี้ที่เพิ่มสูงขึ้ นด้วยเช่นกัน
• ครัวเรือนไทยลดการใช้จ่ ายในหลายหมวด โดยเฉพาะรายจ่ายสินค้าฟุ่มเฟือย เมื่อพิจารณาการเปลี่ยนแปลงเที ยบระหว่างช่วงครึ่งแรกของปี 2562 และปี 2560 ในแต่ละหมวดรายจ่ายพบว่า ครัวเรือนมีการลดรายจ่ายในสินค้ าจำเป็นบางรายการ เช่น หมวดอาหารซึ่งเป็นหมวดที่มีสั ดส่วนรายจ่ายสูงที่สุด (33.2% ของรายจ่ายทั้งหมด) และหมวดรายจ่ายเกี่ยวกับการรั กษาพยาบาล แต่ส่วนที่ลดลงมากกว่าค่าเฉลี่ ยจะเป็นกลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือย เช่น รายจ่ายในด้านเครื่องดื่ มแอลกอฮอล์ ความบันเทิง และการท่องเที่ยว สะท้อนว่าครัวเรือนไทยเลือกที่ จะประหยัดค่าใช้จ่ายในกลุ่มสิ นค้าและบริการฟุ่มเฟือยลงมากเป็ นพิเศษในภาวะที่รายได้ไม่เติบโต
• อย่างไรก็ดี โดยเฉลี่ยครัวเรือนก็ยังคงมี การเพิ่มรายจ่ายในบางรายการ เช่น ค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับที่อยู่อาศั ย เครื่องแต่งกาย ของใช้และบริการส่วนบุคคล และรายจ่ายด้านการสื่อสาร
Fact 3: ครัวเรือนไทยเป็นหนี้มากขึ้น ภาระหนี้ต่อรายได้แตะระดับสูงสุ ด
• ครัวเรือนไทยมีการก่อหนี้เพิ่ มขึ้น เมื่อพิจารณาเฉพาะครัวเรือนที่ มีหนี้ (46.3% ของจำนวนครัวเรือนทั้งหมด) พบว่า ภาระหนี้เฉลี่ยต่อครัวเรือนเพิ่ มขึ้นจาก 353,210 บาทต่อครัวเรือนในปี 2560 มาอยู่ที่ 362,373 บาทต่อครัวเรือน หรือเพิ่มขึ้น 2.6% ส่งผลให้สัดส่วนหนี้ต่อรายได้ (หารเฉพาะครัวเรือนที่มีหนี้) เพิ่มขึ้นจาก 96.1% มาเป็น 97.7% ซึ่งถือเป็นระดับที่สูงที่สุ ดเป็นประวัติการณ์ และเป็นการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่ องต่างจากสัดส่วนหนี้ครัวเรื อนต่อ GDP ที่มีการลดลง (deleverage) ในช่วงปี 2558 ถึงปี 2560 แล้วจึงเพิ่มขึ้นเล็กน้อยในช่ วงหลังจากนั้น
• หนี้บ้าน-บริโภค-การเกษตรเพิ่ม หนี้ธุรกิจลด
Fact 4: ครัวเรือนไทยเก็บออมลดลงและมี ความเปราะบางทางการเงินมากขึ้น
• ครัวเรือนไทยออมลดลงจากในอดี ตและมีครัวเรือนจำนวนไม่น้อยที่ ไม่มีเงินออม เงินออมซึ่งคำนวณจากรายได้หักด้ วยรายจ่ายเพื่อการบริโภค รายจ่ายเพื่อการชำระหนี้ และรายจ่ายภาษีของครัวเรื อนไทยในช่วงครึ่งแรกของปี 2562 เฉลี่ยอยู่ที่ 1,677 บาทต่อเดือนต่อครัวเรือน ลดลง -2.4% จากปี 2560 ที่ 1,718 บาท หากพิจารณาข้อมูลย้อนหลังจะพบว่ าครัวเรือนไทยเก็ บออมลดลงมาโดยตลอดตั้งแต่ปี 2556 เป็นต้นมา ทั้งนี้ 41.3% ของครัวเรือนไทยไม่มีการเก็ บออมในช่วงครึ่งแรกของปี 2562 และยิ่งเมื่อพิจารณาแยกเฉพาะครั วเรือนที่มีหนี้ พบว่ามีสัดส่วนสูงถึง 59.2% ของครัวเรือนที่มีหนี้ที่ไม่มี เงินออม
• กันชนทางการเงิน (financial cushion) ของครัวเรือนไทยมีน้อยลง กันชนทางการเงินซึ่งสะท้อนจากสั ดส่วนของสินทรัพย์ทางการเงินต่ อรายจ่ายต่อเดือนของครัวเรื อนไทยในช่วงครึ่งแรกของปี 2562 อยู่ที่ 7.3 เท่า (ซึ่งหมายความว่าสินทรัพย์ ทางการเงินที่มีอยู่ สามารถครอบคลุมค่าใช้จ่ายได้ 7.3 เดือน) ลดลงจาก 7.9 เท่าในปี 2560 ถือเป็นระดับกันชนที่น้อยที่สุ ดนับตั้งแต่ปี 2556 (ซึ่งเป็นปีแรกที่เริ่มมีการเก็ บข้อมูลสินทรัพย์ครัวเรือน) บ่งชี้ว่าครัวเรือนไทยมี ความเปราะบางทางการเงินมากขึ้ นในการเผชิญปัจจัยลบทางเศรษฐกิ จ
Fact 5: เงินช่วยเหลือจากภาครัฐมี บทบาทเพิ่มมากขึ้นต่อเนื่อง ในการประคับประคองกลุ่มครัวเรื อนรายได้น้อยในช่วงที่ ความสามารถในการหารายได้อ่ อนแอและยังมีความเปราะบางสูง
• ครัวเรือนรายได้น้อยมีการพึ่ งพาเงินช่วยเหลือจากภาครัฐเพิ่ มขึ้นมาโดยตลอด ข้อมูลจากการสำรวจรายได้ของครั วเรือนนั้นจะมีส่วนหนึ่งที่ มาจากการช่วยเหลือของภาครัฐ โดยเงินช่วยเหลือจากรัฐที่ได้ ในช่วงครึ่งแรกของปี 2562 อยู่ที่ 813 บาทต่อเดือน คิดเป็นสัดส่วนสูงถึง 11.6% ต่อรายได้ทั้งหมด ทั้งนี้สัดส่วนเงินช่วยเหลื อของกลุ่มครัวเรือนรายได้น้อยนั้ นมีทิศทางเพิ่มสูงขึ้นมาโดยตลอด โดยเพิ่มจากสัดส่วนเพียงแค่ 3.5% ในปี 2552 สำหรับสัดส่วนเงินช่วยเหลื อจากรัฐในกลุ่มรายได้ที่สูงกว่ านั้นมีทิศทางเพิ่มขึ้นเช่นกัน แต่จะอยู่ในระดับที่ค่อนข้างต่ำ
• เงินช่วยเหลือจากรัฐเป็นปัจจั ยสำคัญที่ช่วยประคับประคอง และทำให้รายได้ของครัวเรือนกลุ่ มดังกล่าวเพิ่มขึ้น 0.6% เมื่อเทียบกับ 2 ปีก่อนหน้า ส่งผลให้ครัวเรือนกลุ่มดังกล่ าวยังสามารถใช้จ่ายได้เพิ่มขึ้น 0.6% เช่นกันในช่วงเดียวกัน ทั้งนี้หากไม่รวมเงินช่วยเหลื อจากรัฐ รายได้ครัวเรือนกลุ่มดังกล่ าวจะลดลง -1.1% สะท้อนว่าโดยพื้นฐานการสร้ างรายได้ของครัวเรือนกลุ่มนี้ยั งมีความอ่อนแอและยังต้องอาศั ยเงินช่วยเหลือจากรัฐ โดยหากไม่มีเงินช่วยเหลือ การใช้จ่ายของครัวเรือนกลุ่มนี้ อาจปรับตัวลดลงได้
• กลุ่มครัวเรือนรายได้น้อยมี ความเปราะบางในหลายมิติ
o ภาระหนี้สูงกว่ารายได้ ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา
o รายจ่ายเพื่อการชำระหนี้ต่อเดื อนสูง
o กันชนทางการเงินมีไม่มาก สินทรัพย์ทางการเงินเทียบกั บรายจ่ายต่อเดือนของครัวเรื อนรายได้น้อย
โดยสรุป อีไอซีประเมินว่าสถานการณ์ เศรษฐกิจของภาคครัวเรือนไทยในช่ วง 2 ปีผ่านมาอยู่ในภาวะซบเซา สะท้อนจากการลดลงทั้งรายได้ และรายจ่าย สวนทางกับทิศทาง GDP รวมของประเทศที่เติบโตอย่างต่ อเนื่องในช่วงเดียวกัน นอกจากนี้ ครัวเรือนยังมีภาระหนี้ต่ อรายได้ที่ค่อนข้างสูงซึ่งถื อเป็นอีกหนึ่งอุปสรรคที่สำคัญต่ อการใช้จ่ายและการกู้ยื มในระยะต่อไป อีกทั้งสัดส่วนการออมและกั นชนทางการเงินซึ่งสะท้อนถึ งความสามารถในการรับมือกั บผลกระทบทางการเงินของครัวเรื อนยังลดลง โดยปัจจุบันมีครัวเรื อนไทยจำนวนมากไม่มีการเก็ บออมและกว่าครึ่งมีสินทรัพย์ ทางการเงินไม่พอรายจ่ายเกิน 3 เดือน
อีไอซีมองว่า มาตรการช่วยเหลือจากรัฐระยะสั้ นจึงยังคงมีความจำเป็ นในการประคับประคองการใช้จ่ ายและการชำระหนี้โดยเฉพาะสำหรั บกลุ่มครัวเรือนรายได้น้อยที่มี ความเปราะบางมากที่สุด และที่สำคัญยังควรต้องมี มาตรการการแก้ไขปั ญหาในระยะยาวโดยเฉพาะอย่างยิ่ งในส่ วนของความสามารถในการหารายได้
ของครัวเรือนไทยที่มีความอ่ อนแอทั้งในส่วนของแรงงานและผู้ ประกอบการ ด้วยการยกระดับผลิตภาพ (productivity) ผ่านการเพิ่มทั กษะของแรงงานและการสนับสนุ นการปรับตัวของธุรกิจ SMEs ต่อการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยี รวมไปถึงการส่งเสริ มการกระจายรายได้ด้วยการสนับสนุ นการแข่งขันทางธุรกิจอย่างเป็ นธรรมและการลดกฎระเบียบที่เป็ นอุปสรรคต่อธุรกิจขนาดเล็ก
ติดตามข่าวด่วน กระแสข่าวบน Facebook คลิกที่นี่
หน้าแรก » การเงิน หุ้น
ข่าวในหมวดการเงิน หุ้น
- SCBX ประกาศจับมือ WeBank ธนาคารดิจิทัลชั้นนำในจีน ในฐานะพันธมิตรด้านเทคโนโลยี เสริมสร้างศักยภาพ Consortium เตรียมยื่นขอใบอนุญาต Virtual Bank 20:56 น.
- ตำรวจกบินทร์บุรีเตรียมออกหมายจับ “เจ๊แอน-JKN” คดียักยอกทรัพย์ 20:10 น.
- FAW Thailand โชว์ความสำเร็จ ขยายฐานลูกค้า ไปธุรกิจขนส่งก๊าซธรรมชาติ 19:05 น.
- เคทีซีจับมือวีซ่า อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) และโรงแรมโรสวูด กรุงเทพฯเปิดตัวชุดน้ำชายามบ่าย “In Her Garden” ด้วยแรงบันดาลใจจาก TAWN C. 19:04 น.
- EXIM BANK จัดอบรมบุคลากรธนาคารแห่ง สปป.ลาว ด้านการบริหารความเสี่ยงทางการค้าระหว่างประเทศ 18:18 น.