วันศุกร์ ที่ 29 มีนาคม พ.ศ. 2567 07:03 น.

การเงิน หุ้น

เปิดวิชั่น“วิทัย”บิ๊กออมสินคนใหม่สู่โซเชียลแบงก์กิ้ง

วันพฤหัสบดี ที่ 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2563, 18.17 น.
เปิดวิชั่น“วิทัย”บิ๊กออมสินคนใหม่สู่โซเชียลแบงก์กิ้ง
 
 
นายวิทัย รัตนากร ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เปิดเผยว่า ในปัจจุบันธนาคารได้ออกมาตรการช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ด้วยการขยายพักชำระหนี้จากสิ้นเดือน ก.ย.ซึ่งได้รับการพิจารณาอนุมัติจากคณะกรรมการของธนาคารเป็นที่เรียบร้อยแล้วจนถึงเดือน ธ.ค.นี้ ทั้งนี้ลูกค้าของธนาคารสามารถเข้ามาแจ้งความจำนงในการพักชำระหนี้ได้ที่ธนาคาร ซึ่งธนาคารจะทำระบบเสร็จประมาณต้นเดือน ก.ย. โดยสามารถสั่งการผ่านแอปพลิเคชั่น MyMo ได้ เพื่อเป็นการบรรเทาและเพื่อช่วยเหลือให้ภาระหนี้ต่างๆของลูกค้าลดลงได้
 
“ที่ผ่านมาธนาคารได้มีการพักชำระหนี้ให้ลูกค้าของธนาคารแล้วกว่า 3.1 ล้านราย และในจำนวนลูกค้าที่แจ้งความจำนงพักชำระหนี้บางส่วนได้มีแจ้งความจำนงเพื่อขอชำระหนี้เป็นปกติ หรือปิดบัญชี ซึ่งสามารถทำรายการได้ผ่านแอปพลิเคชั่น MyMo สำหรับกลุ่มลูกค้าของธนาคารโดยส่วนใหญ่จะเป็นลูกค้าในกลุ่มฐานราก หรือเป็นกลุ่มเสี่ยง ซึ่งได้รับผลกระทบค่อยข้างมาก ทั้งนี้เชื่อว่าลูกค้าเกือบทั้งหมดจะเข้าร่วมโครงการต่ออาจจะเข้าบางส่วนหรือจะจ่ายแค่ดอกเบี้ยประมาณ 3 ล้านราย”นายวิทัย กล่าว
 
อย่างไรก็ตามในอนาคต ธนาคารได้มีการปรับเปลี่ยนยุทธศาสตร์ให้ก้าวสู่ Social Bank หรือ ธนาคารเพื่อสังคมเต็มรูปแบบ โดยจะเป็นการขยายจากธนาคารเพื่อการพาณิชย์ที่เน้นรีเทลให้เป็นธนาคารเพื่อสังคม ซึ่งจะเอากำไรมาสนับสนุนในภาระกิจเพื่อสังคม ซึ่งผ่านมาธนาคารได้เห็นความเหลื่อมล้ำทางสังคมสูงมาก ปัญหาความยากจนของสังคม จึงมีความจำเป็นที่ธนาคารต้องเข้ามาช่วยเหลือ และในอนาคตจะเน้นดูแลฐานราก ดูแลประชาชน ทำให้เกิดอัตราดอกเบี้ยที่ลดลง โดยคาดหวังว่าธนาคารจะรุกขยายไปยังตลาดนอนแบงก์และหวังว่าอัตราดอกเบี้ยในตลาดนอนแบงก์จะลดลง
 
ทั้งนี้คาดว่าธนาคารจะมีความพร้อมในการรุกขยายตลาดนอนแบงก์ในช่วงปลายปีนี้หรือในช่วงต้นปี 2564 โดยเชื่อมั่นว่าความเป็นธรรมจะสูงยิ่งขึ้น ทั้งนี้คาดว่าจะสามารถทำให้ดอกเบี้ยในตลาดลดลง 8-10% และเชื่อว่าจะทำให้คนกว่า 10 ล้านคนได้รับผลประโยชน์ในครั้งนี้ ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายของทางภาครัฐที่ได้สั่งการให้ธนาคารออมสินเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในช่วยเหลือประชาชนและลดความเหลื่อมล้ำ และเป็นแนวทางของกระทรวงการคลังอีกด้วย นอกจากนี้ยังเป็นการเปลี่ยน Positon ของธนาคารในการช่วยกลุ่มฐานรากมากยิ่งขึ้น
 
ล่าสุดธนาคารได้เตรียมเปิดสินเชื่อใหม่ในรูปแบบของนอนแบงก์ ซึ่งธนาคารได้เห็นอัตราดอกเบี้ยส่วนต่างของอัตราเงินกู้เงินฝากส่วนมาก แบงก์พาณิชย์อยู่ที่ประมาณ 3% แบงก์รัฐ อยู่ที่ประมาณ 2% ส่วนออมสิน อยู่ที่ประมาณไม่ถึง 2% เพื่อช่วยเหลือพี่น้องประชาชน ขณะที่นอนแบงก์ อยู่ที่ประมาณ 18-20% ซึ่งธนาคารเล็งเห็นว่าธนาคารควรจะเข้าไปดูแล ในเบื้องต้นธนาคารมีแผนจะเริ่มจากกลุ่มผู้ที่มีความเสี่ยงต่ำที่สุด คือ การจำนำทะเบียนรถ ปัจจุบันอยู่ระหว่างการดำเนินการและคาดว่าจะให้เกิดความชัดเจนให้ได้ภายในปี 2564