วันเสาร์ ที่ 20 เมษายน พ.ศ. 2567 09:57 น.

การเงิน หุ้น

สลากออมทรัพย์ ธอส. ชุดเกล็ดดาว ขายวันแรก20 ต.ค. 63

วันจันทร์ ที่ 19 ตุลาคม พ.ศ. 2563, 10.50 น.
สลากออมทรัพย์ ธอส. ชุดเกล็ดดาว ขายวันแรก20 ต.ค. 63
 
 
 
ธอส. เปิดมิติใหม่ในการออมพร้อมลุ้นรางวัลด้วย “สลากออมทรัพย์ ธอส. ชุดเกล็ดดาว” หน่วยละ 5,000 บาท จำนวนรวม 3 ล้านหน่วย กรอบวงเงิน 15,000 ล้านบาท แบ่งเป็น 3 หมวดๆ ละ 1 ล้านหน่วย อายุสลาก 2 ปี ผลตอบแทนหน้าสลาก 0.4% ต่อปี  ออกรางวัลทุกเดือน รวม 24 ครั้ง แบ่งเป็น รางวัลที่ 1 มูลค่า 1,000,000 บาท/หมวด รางวัลที่ 2 มูลค่า 50,000 บาท จำนวน 4 รางวัล/หมวด รางวัลที่ 3 มูลค่า 5,000 บาท จำนวน 20 รางวัล/หมวด รางวัลที่ 4 มูลค่า 500 บาท จำนวน 20 รางวัล/หมวด คิดเป็นโอกาสในการถูกรางวัลสูงถึง 0.0045% พิเศษ!! ลุ้นรางวัลเลขท้าย 2 ตัว 3 ตัว และได้ลุ้นครั้งแรกกับรางวัลเลขสลับเลขท้าย 2 ตัว และ 3 ตัวที่ไม่เคยมีในสลากออมทรัพย์ที่ไหนมาก่อน เริ่มจำหน่าย 20 ตุลาคม 2563 เป็นต้นไป พร้อมแจงผลการดำเนินงาน 9 เดือนแรกปี 63 ปล่อยสินเชื่อใหม่ได้แล้ว 155,980 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 4.90%  
 
 
นายฉัตรชัย ศิริไล กรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) กล่าวว่า เพื่อเป็นการสร้างมิติใหม่ในการออมให้แก่ลูกค้าประชาชนที่ต้องการออมในผลิตภัณฑ์ที่เมื่อฝากเงินครบกำหนดจะได้รับทั้งผลตอบแทนที่ดี เงินต้นที่ฝากไว้ยังอยู่ครบ และยังมีโอกาสได้ลุ้นรางวัลพิเศษทุกเดือน รวมถึงได้ร่วมเป็น  ส่วนหนึ่งในการสร้างโอกาสทำให้คนไทยได้มีบ้าน ที่ประชุมคณะกรรมการธนาคารในวันนี้ (19 ตุลาคม 2563) จึงได้มีมติเห็นชอบให้ธนาคารจัดทำ ผลิตภัณฑ์สลากออมทรัพย์ ธอส. ชุดเกล็ดดาว หน่วยละ 5,000 บาท เริ่มจำหน่ายตั้งแต่วันอังคารที่ 20 ตุลาคม 2563 เป็นต้นไป จำนวนรวม 3 ล้านหน่วย หรือกรอบวงเงิน 15,000 ล้านบาท โดยแบ่งออกเป็น 3 หมวด ๆ ละ 1 ล้านหน่วย อายุสลาก 2 ปี ผลตอบแทนหน้าสลาก 0.4% ต่อปี ออกรางวัลทุกเดือน รวม 24 ครั้ง แบ่งเป็น รางวัลที่ 1 มูลค่ารางวัลสูงถึง 1,000,000 บาท/หมวด รางวัลที่ 2 มูลค่า รางวัลละ 50,000 บาท จำนวน 4 รางวัล/หมวด รางวัลที่ 3 มูลค่ารางวัลละ 5,000 บาท จำนวน 20 รางวัล/หมวด รางวัลที่ 4 มูลค่ารางวัลละ 500 บาท จำนวน 20 รางวัล/หมวด คิดเป็นโอกาสในการถูกรางวัลสูงถึง 0.0045% พิเศษ!! สำหรับสลากออมทรัพย์ ธอส. ชุดเกล็ดดาว คือ เพิ่มรางวัลเลขท้าย และรางวัลใหม่ล่าสุดที่ไม่เคยมีในสลากออมทรัพย์ที่ไหนมาก่อน คือรางวัลเลขสลับเลขท้าย ซึ่งจะทำให้โอกาสในการถูกรางวัลของผู้ออมเงินมีมากยิ่งขึ้น ประกอบด้วย รางวัลเลขท้าย 3 ตัว รางวัลละ 100 บาท รางวัลเลขสลับเลขท้าย 3 ตัว รางวัลละ 50 บาท รางวัลเลขท้าย 2 ตัว รางวัลละ 50 บาท และรางวัลเลขสลับเลขท้าย 2 ตัว รางวัลละ 20 บาท
 
“สลากออมทรัพย์ ธอส. ชุดเกล็ดดาวจะเริ่มออกรางวัลครั้งแรกวันที่ 16 พฤศจิกายน 2563 หากถูกรางวัล  ที่ 1 มูลค่า 1 ล้านบาท จะถือเป็นการได้รับผลตอบแทนสูงถึง 200 เท่าของจำนวนเงินฝาก กรณีฝากครบ 2 ปี รับเงินต้นพร้อมดอกเบี้ยหน่วยละ 5,040 บาท หากซื้อจำนวน 100 หน่วย จะทำให้ผู้ซื้อมีโอกาส ถูกรางวัลเลขท้ายทุกเดือน และแม้จะเคยถูกรางวัลแล้วก็ยังมีโอกาสถูกซ้ำได้อีกทุกเดือน ซึ่งดอกเบี้ยและ
 
เงินรางวัล ที่ได้รับจากสลากออมทรัพย์ ธอส. ยังได้รับการยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาอีกด้วย ซึ่ง ธอส. จะนำเงินที่ได้จากการจำหน่ายสลากชุดเกล็ดดาว ธอส.ไปจัดทำเป็นผลิตภัณฑ์สินเชื่อบ้าน Two Gen อัตราดอกเบี้ยต่ำ และผ่อนรายเดือนน้อย ซึ่งจะมีการเปิดตัวเร็วๆ นี้ต่อไป” นายฉัตรชัย กล่าว 
 
สำหรับการซื้อสลากออมทรัพย์ทำได้ 2 ช่องทาง คือ Application : GHB ALL หรือที่ทำการสาขา โดยมีขั้นตอนดังนี้ กรณีซื้อสลากผ่าน Application GHB ALL : ผู้ที่ยังไม่เคยซื้อสลากและยังไม่ได้สมัคร GHB ALL ต้องทำการเปิดบัญชีสลากออมทรัพย์และบัญชีเงินฝากออมทรัพย์สำหรับเป็นบัญชีคู่โอน และลงทะเบียนสมัครใช้ GHB ALL ที่สาขาของธนาคารก่อน หลังจากนั้นสามารถโอนเงินจากบัญชีใดก็ได้เข้าบัญชีออมทรัพย์ที่ผูกกับ GHB ALL เพื่อทำการซื้อสลากใน GHB ALL ผ่านเมนูสลากออมทรัพย์ ธอส.  โดยสามารถซื้อสลากตามจำนวนที่ต้องการได้ด้วยตนเอง และเมื่อซื้อสลากสำเร็จแล้ว สามารถเรียกดูใบสลากและรายละเอียดสลากที่ซื้อได้โดยไม่ต้องเดินทางไปสาขา กรณีซื้อสลาก ณ ที่ทำการสาขา : สำหรับผู้ที่ยังไม่เคยซื้อสลากออมทรัพย์ ธอส. ต้องทำการเปิดบัญชีสลากออมทรัพย์ และเปิดบัญชีเงินฝากออมทรัพย์สำหรับเป็นบัญชีคู่โอนพร้อมทำการซื้อสลากตามจำนวนที่ต้องการ โดยสามารถรับใบสลากได้ทันทีที่สาขา (หากมีบัญชีสลากและบัญชีเงินฝากออมทรัพย์อยู่แล้วไม่ต้องเปิดบัญชีใหม่) ทั้งนี้ ธนาคารได้มอบหมายให้สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลเป็นผู้ดำเนินการออกรางวัลสลากออมทรัพย์ชุดเกล็ดดาว  ด้วยขั้นตอนและกระบวนการตามมาตรฐานสากล ISO 9001:2015 เช่นเดียวกับสลากออมทรัพย์ชุดอื่น ๆ ของธนาคาร
 
นายฉัตรชัย ยังกล่าวถึง ผลการดำเนินงาน ณ วันที่ 30 กันยายน 2563 ว่า ธอส. ยังคงมีผลการดำเนินงานที่เติบโตอย่างแข็งแกร่ง โดยปล่อยสินเชื่อใหม่ได้จำนวน 155,980 ล้านบาท 96,634 บัญชี เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 4.90% ทำให้ ณ สิ้นไตรมาสที่ 3/2563 เทียบกับ ณ สิ้นปี 2562 ธนาคารมียอดสินเชื่อ  คงค้างรวม 1,283,986 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.18% สินทรัพย์รวม 1,350,514 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8.51% เงินฝากรวม 1,109,028 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11.60% หนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) จำนวน 49,484 ล้านบาท คิดเป็น 3.85% ของยอดสินเชื่อรวม ลดลงจากสิ้นปี 2562 ที่มี NPL อยู่ที่ 4.09% มีกำไรสุทธิจำนวน8,415 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 18.45% และอัตราส่วนเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยง (BIS Ratio) ยังอยู่ในระดับที่แข็งแกร่งโดยอยู่ที่ 15.09% ซึ่งสูงกว่าอัตราเงินกองทุนขั้นต่ำที่ธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนด นอกจากนี้ ณ วันที่ 30 กันยายน 2563 ธนาคารยังได้ตั้งสำรองส่วนเกินแล้วจำนวน 5,552 ล้านบาท เพื่อรองรับการเลื่อนชั้นหนี้และรองรับดอกเบี้ยที่รับรู้ตามเกณฑ์คงค้างทั้งตามเกณฑ์ปกติและลูกหนี้ ตามมาตรการช่วยเหลือลูกค้าที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ทั้ง 10 มาตรการ ที่มีลูกค้าเข้ามาตรการ 423,380 บัญชี เงินต้นคงเหลือ 369,453 ล้านบาท ซึ่งจะเริ่มสิ้นสุดระยะเวลาความช่วยเหลือของมาตรการ  ระยะที่ 1 ในวันที่ 31 ตุลาคม 2563 และสิ้นสุดความช่วยเหลือระยะที่ 2 ในวันที่ 31 มกราคม 2564 ไว้แล้ว